“ชาย - วิกกี้” อุ้มลูกชายออกงานครั้งแรก แฮปปี้ยิ้มแย้ม ขี้เล่น ส่อแววเจ้าชู้ เผยเตรียมพาบินไปเที่ยวยุโรป บอกตอนนี้ยังเลือกโรงเรียนให้ลูกไม่ได้ เพราะฝ่ายชายอยากให้เรียนโรงเรียนไทย ส่วนฝ่ายหญิงอยากให้เข้าโรงเรียนอินเตอร์
ได้ฤกษ์อุ้ม “น้องตฤณ” ออกงานเป็นครั้งแรกสำหรับ “วิกกี้ สุนิสา เจทท์” และสามี “ชาย ชาตโยดม รัหิรัญยัษฐิติ” ซึ่งทั้งคู่ก็เผยว่าลูกมีพัฒนาการที่ดี ตอนนี้เริ่มพาออกงานฝึกให้ลูกคุ้นเคยกับการเจอผู้คนมากขึ้น
วิกกี้ : “วันนี้เป็นครั้งแรกเลย”
ชาย : “วันนี้เขาค่อนข้างนิ่งนะ จากที่ปกติจะเป็นเด็กที่ซนมาก ซึ่งตอนนี้เขาก็อายุได้ 8 เดือนแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมากเลย และตัวเราเองก็ได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากเขาแทบทุกวัน เรื่องการเลี้ยงดูก็ถือว่าเลี้ยงง่ายครับ แต่ช่วงนี้เขาอาจจะเรียกร้องอยากได้ความสนใจมากหน่อย คือถ้าไม่อุ้มหรือว่าอยู่ใกล้ๆ เขาก็จะโวยวาย นอกนั้นก็จะขี้เล่นตลอดเวลา”
“ช่วงนี้เราจะพยายามพาเขาออกมาเจอคนบ่อยๆ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่เขาเริ่มจำหน้าคนได้เขาก็จะเอาแต่พ่อแม่อย่างเดียวเลย เราเลยต้องพยายามพาเขาออกมาเจอคนบ่อยๆ ซึ่งช่วงนี้เขาก็ดูคุ้นเคยขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะครับ จริงๆ ก็หลงเขามากครับ เพราะผมไม่เคยมีลูกมาก่อน อีกอย่างเรารอคอยเขามาทั้งชีวิต เราก็เลยอยากที่จะทุ่มทุกอย่างที่มีให้เขา”
รับพัฒนาการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่อแววเจ้าชู้
วิกกี้ : “อย่างที่บอกค่ะ เราก็เห็นอะไรแปลกใหม่จากเขาขึ้นทุกวัน อย่างเมื่อเช้า เราก็เห็นเขายิ้มให้ช่างแต่งหน้าที่เข้ามาแต่งหน้าให้กี้ ซึ่งรอยยิ้มที่กี้เห็นมันดูมีความเจ้าชู้ขี้เล่นอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่บางเวลาที่พัฒนาการของเขาเพิ่มขึ้นเราเองก็ต้องคอยปรับด้วยเหมือนกัน ดังนั้นมันก็ค่อนข้างจำเป็นที่เราจะต้องคุยกันทุกๆ เรื่องเสมอ”
ชาย : “ช่วงนี้ยังพยายามให้เขารู้เรื่องและเข้าใจอะไรต่างๆ ก่อน อาจจะยังไม่ถึงกับวางแผนเรื่องเข้าวงการซะทีเดียว เพราะเราก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามพัฒนาการของเขา ถ้าเขาชอบอะไรก็ให้เขาได้ทำตามใจเขา”
ฝึกพาลูกขึ้นเครื่องบิน เริ่มจากภูเก็ต ไปฮ่องกง ล่าสุด ไปมัลดีฟส์ รับต่อไปจะพาไปเที่ยวยุโรป
วิกกี้ : “เขาโอเคมาก เราเองในฐานะพ่อแม่ก็ดีใจ ซึ่งจริงๆ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินไปเที่ยว เราก็ซ้อมโดยการบินไปเที่ยวใกล้ๆ อย่างภูเก็ตก่อน รวมถึงทริปฮ่องกงตอนนั้นก็ไม่ได้ไปไกลมาก แต่สำหรับทริปมัลดีฟส์นี้ก็ถือว่าไกลที่สุด เพราะบินกัน 5 ชั่วโมงกว่า ซึ่งเขาก็ดูโอแฮปปี้ และเดี๋ยวหลังจากนี้เราก็แพลนไว้แล้วว่าจะพาเขาไปยุโรป ก็ไกลขึ้นไปอีกค่ะ”
วิกกี้บอกอยากให้ลูกเรียกโรงเรียนอินเตอร์ ส่วนชายอยากให้เรียนโรงเรียนไทย ยังเลือกโรงเรียนไม่ได้
วิกกี้ : “ตอนนี้ยังไม่ได้จองอะไรเลยค่ะ รู้สึกว่าเรายังชิลมาก ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย จริงๆ ตัวกี้ก็คิดไปแล้วว่าอยากจะให้เรียนโรงเรียนไหน แต่เราก็ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งมันก็คงต้องคุยกันอย่างจริงจัง เพราะกี้อยากให้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ใกล้ๆ บ้าน แต่คุณชายเขาอยากให้เรียนโรงเรียนไทย”
ชาย : “คือผมโตที่โรงเรียนไทย จบจากโรงเรียนไทย ก็เลยรู้สึกว่าโรงเรียนที่ผมจบมาเขาก็อบรมดี การเรียนการสอนก็ดี และผมก็อยากให้เขามีความเป็นไทย จริงๆ ผมไม่ได้ปิดกั้นหรือไม่ได้อยากให้เขามีความเป็นฝรั่งอะไรนะ เพราะยังไงก็ต้องมีคละๆ กันอยู่แล้ว เพียงแค่พื้นฐานชายอยากให้เขามีความเป็นไทยสูง”
วิกกี้ : “กดดันจัง แต่จริงๆ เราก็อุ้มท้องเขามานะ เอาไว้ค่อยดูกันอีกทีดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ทางเลือกด้านการเรียนก็มีเยอะ ดังนั้นเอาที่เราแฮปปี้กันทั้งฝ่ายดีกว่า”
ชาย : “พอยกข้อนี้ขึ้นมาผมสู้ไม่ได้จริงๆ ต้องยอมแพ้ทุกครั้ง”


