"ฌอห์ณ จินดาโชติ” พูดเต็มปากว่าสนิทสนมกับ “ยิปซี” แต่ยังไม่ระบุสถานะว่าคบกันแบบไหน เพราะประสบการณ์สอนให้รู้ว่าพูดตรงเกินไปก็ไม่ดี แต่ยันคุยกับยิปซีแค่คนเดียว ไม่สนใจอีกฝ่ายชอบผู้หญิง
“ฌอห์ณ จินดาโชติ” ออกมาให้สัมภาษณ์แบบแมนๆ ว่า กำลังคบหาดูใจกับ “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” แม้จะไม่ระบุสถานะชัดเจน แต่ก็ยืนยันว่ากำลังคบและคุยกับยิปซีคนเดียว ไม่สนใจแม้ว่าก่อนหน้านี้ยิปซีจะมีข่าวว่าชอบกับผู้หญิงก็ตาม
“ช่วงนี้ก็เจอกันน้อยครับ เราจะเน้นคุยมากกว่า เพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน แต่ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน เราก็สนิทกันไปเรื่อยๆ แต่ไม่อยากไปเร่ง เดี๋ยวจะมีปัญหา ผมก็คุยกับเขาแค่คนเดียว ฉะนั้นการพัฒนาก็ต้องให้เวลาด้วย เราให้เกียรติ ผมเป็นผู้ชายตอบให้ชัดเจนดีที่สุดแล้ว เราก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย ส่วนที่ไปกดไลค์รูปเขาทุกรูป จริงๆ ผมฟอลโลว์ใคร ผมก็สนับสนุนทุกรูปที่เขาลง ไม่ว่าใครก็ตาม ผมรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เจอกันก็ต้องคิดถึงกันมีบ้าง แต่การสื่อสารเราก็ไม่ห่างหายไปไหน”
ยังไม่มีทริปไปเที่ยวด้วยกัน จะไปไหนครอบครัวต้องมาก่อน เรื่องนี้ “ยิปซี” เข้าใจดี
“คงไม่ได้ ผมติดรับปากกับหลานไว้แล้ว ปีใหม่ทุกๆ ปีครอบครัวต้องมาก่อน ใครที่รู้จักผมจะรู้ว่า ถ้าคุณแม่หรือหลานเรียกร้อง ก็ต้องให้เขาก่อน ส่วนคนที่สนิทหรือคุยกันอยู่ไม่ต้องน้อยใจเพราะไม่ได้ไปไหน ยิปเขาก็ค่อนข้างแมน สำหรับเขางานต้องมาก่อน มีเวลาว่างค่อยว่ากัน”
“เขาอยู่กับผมมา 4 - 5 ปีแล้ว เห็นตลอดว่าช่วงเทศกาลผมทำอะไรบ้าง สงกรานต์ผมต้องไหว้พ่อแม่ วันเกิดแม่ผมก็ต้องอยู่กับแม่ วันเกิดพี่พลอยก็ต้องอยู่กับพี่ ผมรู้สึกว่าเรื่องสำคัญเขาเข้าใจแหละ ปกติเขาไม่ใช่คนเหวี่ยงวีนอยู่แล้ว แต่ถ้ามีอะไรผมจะอยู่นิ่งๆ คุยด้วยเหตุผลครับ เวลาเจอคลื่นเจอพายุ อย่าเอาตัวไปขวาง ผมมีหน้าที่รับฟัง เรื่องไหนไม่ถูกต้องก็ติติง ไม่ได้เออออกับเขาทุกเรื่อง คนที่เขาแคร์กันก็ไม่ได้ต้องชมกันทุกเรื่อง ก็ติเพื่อก่อให้เกิดเรื่องที่ถูกนะ”
“ส่วนที่ยิปจะไปกับทริปครอบครัวของผมเอาให้คิวตรงกันก่อน เพราะถ้าจะนัดรวม 5 - 6 คน คือ คิวคุณพลอย จินดาโชติ กับหลานค่อนข้างจะยากเพราะติดเรียนหนังสือ ก็คงต้องเป็นโอกาสสำคัญจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงมีแน่นอน เอาเป็นว่าเราก็เป็นเพื่อนสนิทกัน มีอะไรอัพเดทเรื่อยๆ ตอนนี้ก็แฮปปี้ครับ”
ไม่สนใจ “ยิปซี” ชอบเพศเดียวกัน โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ควรตัดสินคนที่รสนิยม
“ด้วยความเป็นเขาผมไม่ได้ขัดข้องนะ จริงๆ ก็มีคนมาถามผมเรื่องนี้เหมือนกัน ผมก็จะบอกว่า สำหรับผมไม่ได้ติดขัดว่าคนนั้นจะเป็นอะไร แต่เขาเป็นคนดีหรือเปล่า ผมให้ความสำคัญกับคนที่ดูแลครอบครัว รู้จักหน้าที่ ทำมาหากิน ไม่เอาดีเข้าตัว คนแบบนี้น่ายกย่องมากกว่าคนอื่น ถ้าเราไปตัดสินคนแค่นี้ผมว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ เขาเองก็ไม่เคยมาพูดว่าจะจีบคนนั้นคนนี้นะ เขาแค่บอกว่าคนนั้นสวย มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม เพื่อนผมเป็นสาวประเภทสองก็เยอะ โลกมันเปลี่ยนไป ส่วนผมเองก็ผมชอบผู้หญิงครับ (ยิ้ม) ผมรักผู้หญิงแต่ชอบอยู่กับคนดีๆ ครับ”
คบกันแต่ไม่ระบุสถานะ ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า บางทีการพูดตรงไปมันก็ไม่ดี
“มันก็สนิทกันจริงๆ คุยคนเดียว สนิทกันมากจริงๆ เป็นคนที่ให้เกียรติ มันก็แล้วแต่คนคิด แต่ตัวเราไม่เคยพูดว่าเราสถานะอะไรกัน ผมรู้สึกว่ามันเพิ่งเริ่ม แต่เห็นพี่ๆ นักข่าวถามเยอะ และไม่อยากให้เขาโดนคนถาม ก็เลยตอบก่อน ถ้าวันนึงมันไม่ใช่เราจะได้ไม่เสียความรู้สึกกัน เราก็ทำได้ดีแล้วและให้เกียรติกัน”
“เขาเองก็คงไม่อึดอัด ถ้าเขาอึดอัดไม่น่าออกมาเจอผม สิ่งที่เขาตอบสื่อเพราะเขาอยากตอบในวันนั้น เขามีพื้นที่ส่วนตัว หลายคนอาจจะถามเชิงลึกกับเขา ก็เลยมีการสร้างกำแพงเพื่อปกป้องตัวเอง และเขาเป็นผู้หญิง ผ่านประสบการณ์ความรักมาเยอะ ถ้ามันไม่เวิร์คกับผม มันต้องไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ที่จะเอาเรื่องผมไปถามต่อ ผมไม่ได้สนใจกับคำตอบของเขา ผมให้ความสำคัญกับเวลาที่เจอกัน แล้วรู้สึกยังไงต่อกันมากกว่า”
“ไม่ได้ปากแข็งนะครับ พอถามมาเราก็ตอบว่าสนิทกัน แค่รู้สึกว่าไม่อยากตั้งสเตตัสความสัมพันธ์ว่าอะไร คือผมไม่ได้ปิดบัง แต่ผมก็มีพื้นที่ของผมด้วย เขามีครอบครัวด้วย มันไม่ใช่แค่เรื่องของผมคนเดียว ผมโอเคมากที่จะตอบเรื่องผมคนเดียว แต่พอมีคนอื่นเข้ามาก็ต้องคิดว่าเขาอาจจะไม่ชอบให้พูดถึงก็ได้ ประสบการณ์สอนหลายๆ อย่าง บางทีเราตรงมากเกินไปก็ไม่ดี ก็ให้เกียรติและเข้าใจเค้า ทุกวันนี้เราก็โอเคกันดี”
