“โอ๊ต วรวุฒิ - จีน่า” ฉลองวิวาห์ชื่นมื่น อยากให้เป็นความทรงจำของสามคนพ่อแม่ลูก ฝ่ายชายให้คำมั่นเจ้าสาวจะเป็นภรรยาคนสุดท้าย หวั่นใจกลัวตายก่อน แพลนอีก 3 ปี ไปปักหลักใช้ชีวิตเป็นชาวสวนที่เชียงใหม่ ลุยเปิดธุรกิจโรงแรมที่ จ.บุรีรัมย์ เล็งมีทายาทต่อทันที คราวนี้ขอลูกสาว
หลังจากจัดพิธีหมั้นหมายกันไปเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 59 ที่โรงแรมเพนนินซูล่า เมื่อปีก่อน จนสาวจีน่าให้กำเนิดลูกชาย น้อง “โอลาฟ ธีธัช ตรินัยน์ นิยมทรัพย์” และมีพิธีแต่งแบบไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ล่าสุด วันที่ 22 พ.ย. หนุ่ม “โอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์” จูงมือภรรยา “จีน่า อันนา มานัตนันท์” จัดพิธีฉลองมงคลสมรสแบบพิธีคริสต์ ท่ามกลางความยินดีของครอบครัว ญาติสนิท และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ โดยหนุ่มโอ๊ตและสาวจีน่าได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวถึงการจัดงานวิวาห์ในครั้งนี้ว่า...
โอ๊ต : “จริงๆ ก่อนหน้านี้ เรามีพิธีแต่งงานแบบไทยมาแล้วในวันที่ 22 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดผม วันนี้เป็นพิธีคริสต์ของเจ้าสาว ก็เป็นความฝันสูงสุดของเจ้าสาวเลยวันนี้ที่เขาอยากจะได้ใส่ชุดสวย มีงานแต่งงานสวยๆ เราก็ช่วยๆ กันเลือกสถานที่และธีมงาน แต่โดยรวมงานทั้งหมดก็จะเป็นเจ้าสาวเลือกซะส่วนใหญ่ ก็ตามใจเจ้าสาวหมดเพราะเป็นสิ่งที่เขาอยากได้และเป็นความฝันของเขา ก็เลยได้ธีมเป็นแนวฤดูหนาวผสมเทพนิยาย ก็เลี้ยงลูกไปด้วยเตรียมงานไปด้วย มีเวลาเตรียมงานทั้งหมด 3 เดือน ก็เป็นความตั้งใจที่เราอยากจะจัดงานตอนที่โอลาฟ 1 ขวบพอดี ก็คิดว่าปีหน้าจะแต่งงาน แต่พอดีว่าเรามาเลือกงานในเดือน พ.ย. เพราะคิดว่าอากาศน่าจะสวยงาม บรรยากาศน่าจะหนาวเย็น ตอนนี้ลูกก็ 1 ขวบกับ 3 เดือนพอดี วันนี้จริงๆ ตั้งใจจะพาลูกมาร่วมแถลงข่าวด้วยแต่น้องนอนอยู่”
จีน่า : “เราจัดธีมงานให้เข้ากับลูก เพราะเขาชื่อโอลาฟ เราอยากให้ลูกมีส่วนร่วมกับงานแต่งงานเราด้วย กะจะให้เขาเดินถือแหวน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะไหวรึเปล่าเพราะไม่ได้ให้เขาซ้อมเลย แล้วก็ตั้งใจให้เขาออกมาโชว์สเต็ปตอนงานเลี้ยงฉลอง อยู่บ้านเขาจะชอบเต้น คือได้ยินเพลงไม่ได้เลยก็เลยอยากจะจัดโชว์พิเศษให้เขา”
โอ๊ต : “เขาก็น่าจะพอรู้ว่าเราจัดงานแต่งงาน เพราะพ่อกับแม่คุยกันตลอดเลย แต่เขาอาจจะยังไม่เข้าใจ ความตั้งใจมีงานแต่งงานวันนี้เราอยากจะให้ลูกอยู่ในพิธีสำคัญนี้ด้วย ยังไงงานนี้ก็จัดขึ้นเพื่อโอลาฟ อยากให้วันนี้เป็นวันของเขา ให้เขาสนุกและมีความสุขเต็มที่ อยากให้งานวันนี้อยู่ในความทรงจำของเรา ให้เรา 3 คนมีภาพจำร่วมกัน ในงานเราเน้นการฉลอง ไม่ได้พิธีการมากมายอะไร”
บอกหลังแต่งงานปั้มลูกคนที่ 2 ต่อทันที คราวนี้ขอลูกสาว
โอ๊ต : “งานก็จัดตามใจเจ้าสาวหมดเลยครับ ผมมีหน้าที่หาเงินอย่างเดียว(หัวเราะ)”
จีน่า : “ชุดเจ้าสาวมีทั้งหมด 4 ชุด”
โอ๊ต : “ชุดส่งตัวไม่ต้องใส่นะครับ(หัวเราะ) แพลนมีน้องคนที่ 2 ผมอยากได้ผู้หญิง แต่โอลาฟซนมากเลยคิดว่าถ้ามีอีกคนจะไหวมั้ย เราค่อนข้างเข็ด แต่เราก็ตั้งใจว่าหลังงานแต่งจะเปิดอู่ต่อเลย ถ้าได้ผู้ชายอีกก็คงพอแล้วไม่มีต่อครับ”
ไม่เกิน 3 ปีย้ายไปใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และทำธุรกิจโรงแรมที่บุรีรัมย์ แต่งานในวงการบันเทิงก็ยังรับเหมือนเดิม
โอ๊ต : “แพลนฮันนีมูนก็ยังไม่มี แต่ผมจะพาเขาไปมัลดีฟส์และญี่ปุ่น อีกอย่างหลังจากนี้ไม่น่าจะเกิน 3 ปีจะพาเขาย้ายไปอยู่ จ.เชียงใหม่ ถาวรเพราะผมชอบที่นั่นก็ซื้อบ้านเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว อยากไปใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง ไม่อยากให้เขาโตมาพร้อมความเครียด เราไม่อยากให้อยู่ในภาวะวุ่นวายในสังคมเมืองเลยจะไปอยู่ที่เชียงใหม่กัน เราเองก็ชอบเชียงใหม่ อากาศดีด้วย ก็ไปอยู่แถวๆ ชานเมืองเชียงใหม่ ส่วนงานผมก็ยังรับเหมือนเดิม ผมก็จะบินไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ ด้วยเพราะผมก็ยังรับงานในวงการปกติ กว่าจะกล่อมจีน่าให้ไปอยู่เชียงใหม่ได้นานมาก คือเขากลัวมีปัญหากันแล้วผมจะไล่เขาออกจากบ้าน”
จีน่า : “เรายอมไปเพราะลูก เราอยากให้ลูกมีพื้นที่ให้เขาวิ่งเล่น”
โอ๊ต : “แล้วเราก็มีแพลนจะไปสร้างโรงแรมที่ จ.บุรีรัมย์ด้วย เชียงใหม่นี่เราอยากจะไปใช่ชีวิตเป็นชาวสวน ปลูกผักออแกนิกขาย เป็นพวกเกษตรอินทรีย์”
ลั่น 2 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาต่างฝ่ายต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน จนทำให้ชีวิตมีความสุขสมบูรณ์ สัญญาจะมี “จีนา” เป็นภรรยาคนสุดท้าย
โอ๊ต : “จริงๆ ตลอดเวลา 2 ปีกว่าที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเราเติมเต็มกันในเรื่องของความสุข เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาทำกิจกรรมทุกๆ อย่างด้วยกันมันแฮปปี้และสมบูรณ์มาก มันอาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้างลิ้นกับฟัน แต่มันเป็นแค่เรื่องย่อยๆ เรื่องหลักๆ เราคิดว่าเราค่อนข้างมั่นคง ปัญหามีอย่างเดียวคือผมน่าจะตายก่อนเขา (หัวเราะ) เรื่องปรับตัวมีบ้างช่วงแรกๆ ด้วยเราอายุห่างกันเยอะ มันไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ก็มาคุยกันและเคลียร์กันเข้าใจ”
จีน่า : “เราสไตล์เดียวกัน เรื่องการเลี้ยงลูกก็เหมือนกัน”
โอ๊ต : “ผมปล่อยฟรีสไตล์ ให้เขาเรียนรู้ ไม่ต้องอยู่ในกรอบของสังคมมาก ให้ลูกเล่นให้ลูกทำกิจกรรม ไม่ต้องเรียนเก่งที่สุด ไม่ต้องเป็นคนดีที่สุด ขอให้เขาเป็นคนที่ปรับตัวได้ ให้เขาอยู่รอดไม่เอาเปรียบคนอื่น”
จีน่า : “ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่โอ๊ตเป็นสามีที่ดี คอยเทกแคร์ดูแลดีทุกอย่าง เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก เอาใจเก่ง จะมีขี้บ่น จุกจิกบ้างตามวัย (หัวเราะ) พี่เขาเข้ามาเติมเต็มชีวิตหลายอย่าง ด้วยเราเด็กกว่าเขาเยอะมาก เขาก็จะคอยสอน คอยบอก คอยชี้แนะ เราไม่ต้องไปทดลองอะไรเลย เขาจะบอกให้เลยว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดีเพราะเขาเคยผ่านมาแล้ว เขาจะบอกเราได้หมดโดยที่เราไม่ต้องไปเสียเวลาค้นหามัน ยิ่งเราได้เป็นครอบครัวเดียวกัน การมีลูกมันก็ยิ่งกระชับความสัมพันธ์เรามากขึ้น มันทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์แบบจากตอนแรกเราไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน พอมีลูกเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน และมันก็ชัดเจนขึ้นด้วย”
โอ๊ต : “คำมั่นสัญญาสำหรับเขาคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายแล้วสำหรับภรรยาของผม ก็จะพยายามดูแล ประคับประคองครอบครัวให้ไปถึงฝั่งปลายฝันให้ดีที่สุด อันนี้จริงๆ เป็นสิ่งที่เราสัญญากันไว้ตั้งแต่ตอนขอหมั้นเขาแล้ว ก็จะพยายามทำตามที่สัญญา”
จีน่า : “รออีกแป๊บหนึ่งแล้วเราจะรีบโต (หัวเราะ) คือบางครั้งเราให้คำแนะนำเขาได้ไม่เต็มที่เวลาที่เขามาขอคำปรึกษาเรา แต่ก็จะคอยอยู่ข้างๆ เขา”
โอ๊ต : “แต่จริงๆ บางเรื่องเขาก็โตกว่าผมนะ ความเป็นผู้ชายจะตัดสินใจด้วยอารมณ์ร้อน ตัดสินใจไว เขาก็จะแบบให้ใจเย็น อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ หัดปฏิเสธคนบ้าง เขาก็สามารถดูแลเราได้ในบ้างอย่าง และเขาก็จะคอยเอาใจใส่”
