xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็ด ชีแรน” โชว์เดี่ยวคนเดียวแต่เอาอยู่ทำแฟนคลับอิ่มเอม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นนักร้องอีกหนึ่งคนที่ผลงานเพลงของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในเมืองไทยสำหรับ “เอ็ด ชีแรน” หนุ่มอังกฤษมากความสามารถ ที่มาจัดเต็มโชว์เพลงฮิตให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกับคอนเสิร์ต “Ed Sheeran Live In Bangkok 2017” ที่อิมแพ็ค อารีนา เมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา

สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของ เอ็ด ชีแรน ครั้งนี้แค่มีการประกาศข่าวออกมาจากทางผู้จัดอย่าง BEC Tero Entertainment ก็ทำเอาแฟนๆถึงกับนั่งกันไม่ติด โดยทันทีที่เปิดขายบัตรเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ทำเอาบัตรขายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว จนต้องมีการเปิดโซนพิเศษเพิ่มเพื่อให้แฟนๆที่ผิดหวังได้สมหวังกันถ้วนหน้า

แต่ก่อนที่จะถึงวันคอนเสิร์ตพ่อหนุ่ม เอ็ด ก็ทำเอาแฟนๆใจหายใจคว่ำกับการออกมาประกาศข่าวว่าตนเองประสบอุบัติเหตุจากการขี่จักรยานกีฬาสุดโปรดจนแขนเดี้ยงโดนจับเข้าเฝือก ทำให้ต้องลุ้นกันหนักมากว่าจะหายทันคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 พ.ย. หรือไม่ จนกระทั่งเอ็ด ออกมาประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตในประเทศเอเชียหลายประเทศทั้งญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้,ไต้หวัน, ฮ่องกง และ อินโดนีเซีย โดยไม่มีรายชื่อประเทศไทยก็ทำเอาแฟนๆชาวไทยถึงกับเฮลั่นที่จะได้ยินเสียงร้องสดๆของเขาในวันที่ 16 พ.ย.

ในส่วนของบรรยากาศก่อนคอนเสิร์ตเริ่มผู้ชมที่มีบัตรก็ไปถึงงานเพื่อเก็บบรรยากาศหน้างานกันอย่างคึกคัก โดยมีแฟนเพลงบางคนสร้างสีสันด้วยการใส่วิกผมสีส้มเพื่อเป็นการล้อเลียนหนุ่มเอ็ดที่มีผมสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ด้วย จนกระทั่งเวลา 20.00 น. ก็ได้ศิลปิน ลาวฟ์ ( Laue ) ขึ้นมาเล่นเป็นวงเปิด ซึ่งเขาก็จัดเต็มขนเพลงมาโชว์นับสิบเพลงอุ่นเครื่องให้แฟนๆได้เพลิดเพลิน

โดยหลังจากจบโชว์ของวงเปิด ก็มีการเคลียร์เวทีกันอีกเล็กน้อย ก่อนจะยกเครื่องดนตรีออกหมดเหลือเพียงสเตจโล่งๆให้เอ็ด ได้ขึ้นมาผงาด จนกลายเป็นว่าคอนเสิร์ตของเอ็ดครั้งนี้คือการโชว์เดี่ยวของเขาอย่างแท้จริง

เอ็ด เปิดเวทีด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกีตาร์ที่โซโลเพลง Castle On The Hill ผลงานจากอัลบัมล่าสุด Divide ที่เพลงนี้เป็นเพลงย้อนวัยรำลึกบ้านเกิดของตัวเขาเอง โดยหลังจบเพลงเจ้าตัวก็กล่าวทักทายยกมือไหว้พร้อมบอกสวัสดีก็ทำเอาแฟนๆกรี๊ดกันกระหึ่มกับความน่ารักของเขา

การแสดงในแต่ละเพลงจะมีการเปลี่ยนกีตาร์ใหม่ทุกครั้ง ซึ่งก็จะมีการวนใช้กีตาร์ประมาณ 4-5 ตัวตลอดคอนเสิร์ต เรียกได้ว่าเป็นการใส่ใจในคุณภาพอย่างมากทีเดียว โดยในเพลงที่สอง เจ้าตัวก็หยิบเอาเพลง Eraser ที่เริ่มต้นด้วยเสียงแร๊ปของเขาผสมกับดนตรีอคูสติกของกีตาร์อย่างลงตัวก็ทำให้เพลงนี้ออกมาน่าสนใจไม่น้อย

ต่อด้วยเพลง The A Team ที่เพลงนี้มีการทำโปรเจ็ค A Team ให้แฟนๆช่วยกันเปิดหน้าจอโทรศัพท์เป็นสีส้ม ซึ่งก็กลายเป็นสีประจำตัวของหนุ่มเอ็ดไปแล้ว แต่แม้งานนี้จะไม่ได้เปิดหน้าจอสีส้มกันทั่วทั้งฮอลล์แต่คนที่ไม่รู้เกี่ยวกับโปรเจ็คท์ดังกล่าวก็ช่วยกันเปิดแฟลชไลท์จากโทรศัพท์ ทำให้เพลงนี้ผ่านไปได้แบบสวยงาม เรียกรอยยิ้มจากหนุ่มเอ็ดกันไป ซึ่งหลังจบเพลงเจ้าตัวก็ดูจะเซอร์ไพร์สที่ได้เห็นแฟนๆแน่นออลล์แบบชัดๆด้วย

ต่อกันด้วยเพลง Don’t ให้แฟนๆได้โยกกันเล็กน้อย ซึ่งความพิเศษของโชว์เพลงนี้คือการมิกซ์กันกับเพลง New Man ในช่วงท้ายถือเป็นการนำเพลง 2 เพลงมาเล่นรวมกันได้อย่างแนบเนียนและลงตัว ต่อด้วยเพลง Dive ที่แฟนๆก็ยังใส่ใจสร้างโปรเจ็คท์ให้หนุ่มเอ็ดด้วยการเปิดหน้าจอโทรศัพท์เป็นสีฟ้าโบกไปมา พร้อมกับร้องตามกันอย่างเต็มที่จึงไม่แปลกใจที่หนุ่มเอ็ดจะพูดในคอนเสิร์ตด้วยอารมณ์เซอร์ไพร์สว่าทำไมแฟนเพลงไทยถึงร้องตามเขาได้ทุกเพลงเลย

ความกลมกล่อมของคอนเสิร์ตครั้งนี้ค่อยๆทวีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเพลง Bloodstream ที่บนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ด้านหลังเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงพร้อมกับวิชวลแบบอาร์ตๆที่ทำเอาเวทีเริ่มร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อผสานกับการรัวกีตาร์แบบไม่ยั้งของเขาก็ทำเอากรี๊ดกันสนั่น

ตามมาด้วยเพลง Happier เพลงรักคุดที่จอด้านหลังก็ทำวิชวลเป็นเหมือนหนังสือที่เปิดไปเรื่อยๆเพื่อเป็นการบอกเล่าความทรงจำในอดีตให้เข้ากับเนื้อเพลง ทำเอาคนอกหักน้ำตาซึมกันได้เลยทีเดียว ต่อด้วยเพลงเซอร์ไพร์สที่เจ้าตัวเอ่ยขึ้นมาว่าไม่ได้เล่นเพลงนี้มานานแล้วอย่าง Tenerife Sea ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่นอกลิสต์เอเชียทัวร์ครั้งนี้ ก็ทำเอากรี๊ดกันกระหึ่ม ทุกคำร้องที่เขากลั่นออกมาเมื่อผสานกับซาวนด์กีตาร์ก็ทำให้ปลื้มปริ่มไม่น้อยที่ได้ฟังกันแบบสดๆ คนที่อินกับเพลงอกหักช้ำรักจากเพลงก่อน ก็ถึงขั้นอยากจะมีคนรักมายืนฟังเพลงนี้ข้างๆให้ได้อินเลิฟเหมือนเนื้อเพลง

กลับเข้าสู่เซ็ตลิสต์อีกครั้งด้วยเพลง Galway Girl สุดสนุกให้แฟนๆได้รัวลิ้นร้องตามกันสนั่น ตามด้วยเพลง How Would You Feel ที่เพลงนี้เอ็ดมีการขออนุญาตนำเพื่อนขึ้นมาแจมเปียโนบนเวที และต้องถือว่าเพลงนี้คือเพลงที่สามารถใช้คำว่า ‘สะกด’ คนดูให้อยู่หมัดได้ ซาวนด์กีตาร์กับเปียโนมาเจอกันผสานกับเสียงร้องจับใจพลังความโรแมนติกของเพลงมันเลยเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

ต่อด้วยเพลงที่แค่อินโทรลขึ้นก็กรีดร้องกันสุดเสียงกับเพลง Photograph ที่แน่นอนว่ากระหึ่มฮอลล์กันอีกเช่นเดิมกับพลังของแฟนๆชาวไทยไม่เคยทำให้เฮียเอ็ดผิดหวัง และต่อด้วยเพลงที่ขึ้นท็อปชาร์ตอันดับหนึ่งของไทยกับเพลง Perfect ผลงานจากอัลบัมล่าสุดที่ตอนนี้เป็นเพลงฮิตติดหูของใครหลายๆคน และเป็นอีกเพลงที่คนรอฟังเสียงร้องสดๆอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่หลังจากที่เขาร้องผ่านไปได้ยังไม่ทันจะครึ่งเพลงก็มีเสียงกรี๊ดค่อยๆเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ จากผู้ชมกลุ่มหนึ่ง จนทุกสายตาเริ่มหันไปทางเดียว ซึ่งเอ็ดที่ยืนอยู่บนเวทีออกอาการงงเล็กน้อยในช่วงแรก เพราะคาดว่าน่าจะยังไม่เคยมีใครมาขอแต่งงานด้วยเพลงนี้ของเขากันในคอนเสิร์ต ( เพราะเพลงที่เคยถูกคนขโมยซีนขอแต่งงานในคอนเสิร์ตของเขาคือเพลง Tenerife Sea ) เมื่อมาเจอแฟนเพลงไทยขโมยซีนเขาขอแต่งงานกันในเพลงนี้ พอเขาจับทางตั้งตัวได้ ก็ทำได้เพียงแค่หันไปส่งยิ้มแสดงความยินดีท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนเพลงไทยที่ร่วมยินดีที่ฝ่ายสาวตอบตกลงด้วย

โชว์เพลงจากอัลบัมล่าสุดแบบรัวๆกันต่อโดยตามติดมาด้วยเพลง Nancy Mulligan เพลงที่ทำเอาอยากจะลุกขึ้นมาสะบัดกระโปรงลุกขึ้นเต้นแบบสาวไอริช ต่อด้วยเพลงฮิตสุดๆอีกหนึ่งเพลงอย่าง Thinking Out Loud เพลงชาติอีกหนึ่งเพลงที่ทำให้หลายๆคนรู้จักเอ็ด ชีแรน มากขึ้นเพราะเพลงนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นเพลงประกอบ Me Before You ภาพยนตร์สุดฮิตที่เคยเป็นกระแสมากๆในประเทศไทยด้วย และแน่นอนว่าทีมไทยแฟนก็ร้องกันสนั่นหวั่นไหวเช่นเดิม

ต่อด้วยเพลงส่งท้ายอย่างเพลง Sing แฟนๆก็ร้องท่อนคลอรัสตามกันอย่างสนุกสนานโดยปล่อยให้เขาแร๊ปไปอย่างเมามัน พร้อมกับตบมือเข้าจังหวะ โดยที่เอ็ดคอยร้อง ‘Sing’ นำ ให้แฟนๆตามด้วยคลอรัส เมื่อแฟนๆตบมือพร้อมกับร้องคลอไปอย่างเพลิดเพลิน เจ้าตัวก็เดินลงเวทีไปแบบเนียนๆ ให้แฟนๆงงเล่นว่าจบกันดื้อๆแบบนี้เลย

แต่เอ็ดไม่ปล่อยให้แฟนๆรอนาน กลับขึ้นเวทีพร้อมกับช่วงอังกอร์ด้วยเพลงสุดฮิต Shape of You ซึ่งเพลงนี้ก็เรียกเสียงร้องตามกระหึ่มฮอลล์ไปเช่นกัน ต่อด้วยเพลง You Need Me, I Don’t Need You เพลงที่เจ้าตัวแร๊ปใส่แบบรัวๆ ถึงขั้นทิ้งกีตาร์สวมมาดแร๊ปเปอร์วิ่งไปทั่วเวที โชว์มุมเท่ๆ ของพอหนุ่มร่างหมี

เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทยของ เอ็ด ชีแรน ครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ประทับใจและดีเกินคาด เพราะถ้าเทียบกับรายชื่อเพลงของเขาที่จะนำมาโชว์ครั้งนี้ ถ้าฟังติดกันก็มีเคลิ้มชวนหลับได้ แต่เมื่อมาดูโชว์ที่เป็นการแสดงสด ถือว่าเจ้าตัวทำออกมาได้น่าสนใจมาก เพราะการที่ให้ศิลปินมายืนดีดกีตาร์โดดๆร้องเพลงบนเวทีอย่างเดียวเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนดูให้อยู่หมัด โดยไม่หาวอยากหลับกันเสียก่อน แต่เมื่อเขาจัดเต็มวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ด้านหลังเพื่อเพิ่มสีสันให้เวที พร้อมกับใส่ใจรายละเอียดมีการซ่อนเครื่องหมายตัวหาร ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบัม ( Divide ) ลงไปในวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ด้านหลังและบนกีตาร์ พร้อมกับที่เจ้าตัวโชว์สกิลกีตาร์แบบไม่กั๊กแม้เครื่องเสียงของฮอลล์จะทำให้ซาวนด์กีตาร์กริบบ้างไม่กริบบ้าง แต่การเอนเตอร์เทนแฟนๆของเขาก็ทำให้ไม่เบื่อ ทำให้เราสนุกและอิ่มเอมกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ไม่น้อย ยิ่งเจอกับความกระตือรือร้นของแฟนเพลงชาวไทยก็ช่วยทำให้โชว์สนุกขึ้นด้วย เรียกได้ว่าคำลาส่งท้ายของเอ็ดที่กล่าวว่า See You Soon ก็ทำให้หลายๆคนใจชื้นว่า เอ็ด ชีแรน ใส่ชื่อประเทศไทยลงไปในเมืองที่เขาจะกลับมาเจอแฟนๆให้ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน


































กำลังโหลดความคิดเห็น