“เวฟ สาริน” จูงมือเจ้าสาวพันล้าน “บุ้ง” แถลงแต่งงาน เผยอยู่กันมา 5 ปีความสัมพันธ์ดีขึ้นทุกๆ วัน เข้ากันดีไม่มีขัดแย้ง ขอบคุณครอบครัวฝ่ายหญิงที่ให้โอกาสไม่สนใจเสียงเม้าท์ได้แฟนรวย สร้างเรือนหอในบริเวณบ้านพ่อตา เพราะยังต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป
“วิภพ บางยี่ขัน" หรือ "เวฟ สาริน" ตกเป็นข่าวตั้งแต่คบหาดูใจกับ "บุ้ง สะธี ใบหยก" ทายาทพันล้านใบหยก ว่าจะไปถึงประตูวิวาห์กันหรือไม่ ล่าสุดวันแห่งความสุขก็เดินทางมาถึงเมื่อ เวฟกับบุ้งควงกันออกมาให้สัมภาษณ์ถึงงานแต่งงานที่จัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่ Sky Room ชั้น 17 โรงแรมใบหยกสกาย เผยเป็นงานแต่งที่เรียบง่าย ใช้แหวนที่เป็นมรดกตกทอดของคุณย่าเวฟที่มอบให้คุณพ่อไปแต่งคุณแม่ และเวฟได้ใช้แหวนวงนั้นมาแต่งบุ้ง ไม่ใหญ่แต่มีค่าทางใจ พร้อมมีทายาททันที ส่วนเรือนหอมี 2 ที่ คือบ้านที่ซื้อไว้เอง และบ้านที่พ่อตาปลูกให้อยู่ในบริเวณรั้วบ้านเดียวกัน เพราะยังไม่ปล่อยให้ไปใช้ชีวิตคู่เพียงลำพัง ต้องพิสูจน์ตัวเอง
เวฟ : "สำหรับวันนี้ที่เชิญพี่ๆ นักข่าวมาร่วมฟังการแถลงข่าวเพราะว่าในวันพรุ่งนี้จะมีงานมงคลสมรสระหว่างผมและน้องบุ้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้งานน่าจะวุ่นวายพอสมควรและอาจจะไม่สะดวกสำหรับพี่ๆ สื่อมวลชน เลยเรียนเชิญมาพูดคุยกันในวันนี้ดีกว่า (ยิ้ม) ถามถึงความรู้สึกของผมในตอนนี้ ผมเครียดมากกว่าครับ (หัวเราะ) เตรียมตัวไม่ทัน"
บุ้ง : “รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็ว เพราะตอนแรกคิดว่าเหลือเวลา 3 เดือนจะอีกนาน แต่ปรากฏว่าทำอะไรไม่ค่อยทันเลย ซึ่งทางพี่เวฟเขาจะเครียดกว่าเนื่องจากเขาเป็นคนดีลงานเอง ส่วนบุ้งจะไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดเท่าเขา"
เวฟ : "แต่งงานครั้งเดียวเนอะ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ก็มีทีมช่วยครับ เป็นทีมงานของใบหยก และก็ทีมจากรุ่นน้องมาช่วยดูแล ซึ่งผมแค่เสนอสิ่งที่อยากได้ให้เขาไป ทางนั้นเขาก็ทำเป็นภาพกลับมาให้ตัดสินใจอีกทีว่าชอบหรือเปล่า ถามว่าได้รีเควสอะไรเป็นพิเศษไหม เอ่อ...ไม่มีเลยครับปกติธรรมดาเหมือนงานแต่งงานทั่วไป อาจจะมีตัดอะไรออกบางส่วน และก็เติมอะไรเข้าไปใหม่บางส่วนเท่านั้นเอง คอนเซ็ปต์เน้นความสนุกสนานมากกว่าครับ พบปะเพื่อนฝูงปาร์ตี้สังสรรค์ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย เป็นงานแต่งที่จัดกันแบบธรรมดาเพื่อให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าตอนนี้เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว"
บุ้ง : "มีคนถามถึงธีมงานด้วยเหมือนกัน แต่ว่างานเราไม่มีธีมนะคะ คือเราค่อนข้างขี้เกรงใจ เพราะถ้าชวนเขามางานแล้วยังไปบังคับเขาให้แต่งตัวนู่นนี่อีกมันก็ไม่สนุก ดังนั้นเอาที่เขาสะดวกกันดีกว่าค่ะ"
เวฟ : "พรุ่งนี้จะมีพิธีขันหมากตอน 7 โมงเช้า และก็เป็นพิธีไทยยาวไปถึงเที่ยงเลย ทั้งพิธีหมั้น พิธีรับไหว้ และก็รดน้ำสังข์ ส่วนงานตอนเย็นจะเริ่มช่วง 6 โมง คือค่อนข้างเร็วนิดหน่อยเพราะเราจะจบเร็ว เนื่องจากว่าบ่าวสาวจะมีฤกษ์ส่งตัวหรืออะไรต่างๆ นานา ที่มันค่อนข้างกระชั้นชิดอีก"
สินสอดตามความเหมาะสม สำคัญที่เรารักกันหรือเปล่ามากกว่า
เวฟ : "สินสอดพอสมควรเท่านั้นเองครับ แต่ก็ไม่ได้เยอะและก็ไม่ได้น้อย ซึ่งส่วนตัวผมเองผมมองว่าจริงๆ แล้วความสำคัญมันอยู่ที่เรารักกันหรือเปล่ามากกว่า และคุณพ่อคุณแม่อนุญาตให้เราแต่งงานกันไหม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของน้องบุ้งท่านกรุณามากเพราะท่านไม่ได้เรียกสินสอดอะไรอะไรเลย แต่ผมก็จัดให้เหมาะสมพิธีตามประเพณีไทย คืออย่าไปตีค่าคนเป็นราคา เราตีค่ากันที่ความรู้สึกดีกว่าครับ"
แหวนแต่งงานตกทอดมาจากคุณย่าของ “เวฟ” ที่มอบให้ คุณพ่อไปแต่งแม่ และในวันนี้เวฟก็นำแหวนวงดังกล่าวมาแต่งงาน “บุ้ง”
เวฟ :"เป็นแหวนแต่งงานตั้งแต่รุ่นคุณย่าครับ ที่ท่านได้มอบให้คุณพ่อผมเพื่อให้คุณแม่ในวันแต่งงาน และพอถึงวันนี้คุณแม่ท่านก็ให้ผมนำมามอบให้กับน้องบุ้ง ซึ่งมันตีมูลค่าไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าใหญ่ทางใจครับ"
ไม่มีแพลนฮันนีมูน ทุกวันนี้ก็เหมือนฮันนีมูนกันอยู่แล้ว
บุ้ง : "ยังไม่มีเลยค่ะ"
เวฟ : "ทุกวันนี้ก็เหมือนฮันนีมูนอยู่แล้ว คือเราไม่ได้คิดว่าพอแต่งเสร็จเราจะต้องไปฮันนีมูนที่ไหนหรือยังไง เพราะพอแต่งงานเสร็จปุ๊ปเช้าวันต่อไปเราก็ยังคงทำงานกันเหมือนปกติ"
พร้อมมีทายาท
เวฟ :"ก็ตั้งใจว่าถ้าหากมีลูกได้หรือมีโอกาสเหมาะสมก็อยากจะมีเลยครับ"
บุ้ง :"อยากมีค่ะ บุ้งชอบเล่นกับเด็กอยู่แล้ว ทุกวันนี้เวลาอยู่บ้านก็เล่นแต่กับหลาน ถ้าหากมีลูกมาอีกคนก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันได้ ส่วนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้หมดค่ะ บุ้งอยู่กับเด็กได้หมดเลย"
เวฟ :“เรื่องการเลี้ยงเด็กไม่ต้องห่วงเขาเลยครับ เขาเป็นคนรักเด็กมาก เขาเป็นคนที่ดูแลลูกๆ หลานๆ ตลอด หรือแม้ไม่ใช่ลูกคนที่รู้จักหากเขาเห็นเขาก็จะต้องเข้าไปจับเข้าไปเล่นด้วยให้ได้ คือถ้าหากเขามีลูกเองเขาต้องสปอยด์มากแน่นอน"
“บุ้ง” ประทับใจ “เวฟ” ความสัมพันธ์ดีขึ้นทุกๆ วันเข้ากันได้ไม่ขัดแย้ง
บุ้ง :"พี่เขาดีขึ้นทุกวัน ช่วงแรกๆ อาจมีทะเลาะบ้างในช่วงปรับตัว แต่พอนานวันเข้าเขาก็เข้าใจในตัวเรามากขึ้น และเราก็ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย พี่เขาเป็นคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ”
เวฟ :"คือเราอยู่กันมารู้จักกันมา 5 ปี น้อยวันมากครับที่เราจะไม่ได้เจอกัน นับได้เลย ยกเว้นแต่เขาไปต่างประเทศหรือผมทำงานจนดึก ซึ่งการที่เราได้อยู่ด้วยกันตลอดแบบนี้ มันทำให้ผมรู้ว่าเวลาเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือเขากำลังรู้สึกยังไง เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้น มากกว่าปีแรกๆ"
ไม่มีคำสัญญา ไม่เคยสวีทหรือเซอร์ไพร์ส
บุ้ง : "เราไม่ได้สัญญาอะไรกันเลยค่ะ บางคู่สัญญากันตั้งแต่ปีแรก แต่การกระทำมันไม่ใช่มันก็ไม่มีค่า ดังนั้นบุ้งกับพี่เวฟเราจึงไม่มีสัญญากันเลย เราไม่เคยมีเซอร์ไพรส์ ไม่เคยมีสวีท ไม่เคยหวานกันเลย"
เวฟ :“เขาจะเป็นคนที่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนเขาจะต่างจากที่เป็นตรงนี้ เขาจะดูเป็นเด็กมากกว่านี้ เหมือนเราเป็นเด็กสองคนอยู่ด้วยกัน เขาจะไม่ใช่คนที่ซีเรียสตลอดเวลา เขาซีเรียสแค่เฉพาะเวลาทำงาน ก็จะประมาณนั้นครับ"
ไม่สนใจข่าวด้านลบตกถังข้าวสารเจ้าสาว ถึงจะแต่งงานแล้วก็ยังจะรับละครต่อไป ไม่ได้เข้าไปทำงานกับครอบครัวของฝ่ายหญิง
เวฟ :"ผมต้องขอชี้แจงก่อนสำหรับหลายๆ คนที่มองผมภายจากข่าวหลายๆ ข่าวในด้านลบ คือเรื่องข่าวระหว่างเราสองคนไม่มีผลกระทบหรอกครับ แต่ผมจะห่วงความรู้สึกของคนใกล้ชิดผม ของครอบครัวผมมากกว่า เพราะพอมันเป็นข่าวที่เป็นผลลบ ผลลบนั้นมันก็จะส่งต่อไปยังความรู้สึกของคนรอบข้างผมด้วย"
บุ้ง :"จริงๆ เราโชคดีนะพี่ เพราะทางครอบครัวบุ้งเขาไม่ได้สนใจข่าวอะไรพวกนี้เลย แต่เขาดูที่การกระทำของเราสองคนมากกว่า โอเคช่วงปีแรกๆ มันอาจจะมีคำถามเข้ามาว่า จะดีเหรอ แต่เมื่อเราได้รู้จักกันจริงๆ รู้จักกันนานเข้า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย"
เคยมีข่าวที่ทำให้เราเครียดบ้างมั้ย ?
เวฟ :"จริงๆ เราจะไม่เอาความเครียดใส่กันมากกว่าครับ แต่เราจะให้กำลังใจกันและกันแทน ซึ่งสำหรับข่าวพวกนี้ที่มีเข้ามา พอเขาบอกเราว่า เขาไม่ได้ใส่ใจ เราเองก็จะไม่ใส่ใจเหมือนกัน หลายคนอาจจะมองว่าถ้าผมแต่งงานไปแล้ว ผมจะต้องมาทำงานที่นี่ มาใช้ชีวิตในครอบครัวที่หลายคนก็พอจะทราบกันดีว่าเป็นครอบครัวแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งผมต้องบอกก่อนว่า ถึงผมแต่งงานไปผมก็ยังต้องรับงานละคร เพราะผมต้องดูแลภรรยา ผมยังรับงานนะครับ แถมรับซ้อนกันหลายๆ เรื่องได้ด้วย"
จดทะเบียนหรือไม่แล้วแต่ทางผู้ใหญ่
บุ้ง :"เราเคยคุยกันเองสองคนค่ะว่าจริงๆ แล้วเรื่องการจดทะเบียนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ มันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่เราต้องเซ็นต์ชื่อ ดังนั้นแล้วแต่ทางผู้ใหญ่เลยค่ะ"
เรือนหออยู่ในบริเวณบ้านของครอบครัว “บุ้ง” เพราะพ่อของบุ้งยังต้องการให้ “เวฟ” พิสูจน์ตัวเอง
เวฟ :“เรือนหอเตรียมไว้แล้วครับ คือซื้อบ้านไว้ที่นวมินทร์ แต่อย่างที่บอกทางคุณพ่อยังไม่ปล่อย"
บุ้ง :“คือไม่ใช่ว่าคุณพ่ออนุญาตให้แต่งงานแล้วเราจะไปอยู่นอกบ้านได้เลย แต่การอนุญาตก็คือการให้โอกาสพี่เวฟในการพิสูจน์ตัวเองอีกระดับ ซึ่งท่านก็ยังคงคิดถึงลูกๆ อยู่ ดังนั้นมันก็จะมีบ้านที่ถูกสร้างเอาไว้ในพื้นที่เดิม"
เวฟ :“คุณพ่อท่านเคยบอกกับผมไว้ว่า ถึงแต่งงานไปแล้วก็อยากให้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ในรั้วเดียวกัน อยากจะมีความอบอุ่นเหมือนปกติเหมือนช่วงที่ลูกสาวยังไม่แต่งงาน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่น้องบุ้งท่านเป็นคนที่รักลูกมาก ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ในครอบครัวแต่งงานไปก็จะต้อวอยู่ร่วมกัน ดังนั้นคุณพ่อท่านก็จะสร้างบ้านให้ในรั้วเดียวกันอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเราก็จะไปๆ มาๆ ระหว่างสองหลังนี้"