โลกนี้ไม่ได้มีแค่สองคน “ขวัญ” ห่าง “กอล์ฟ” ดูแลแม่มากขึ้น ถึงเวลาตระหนักสิ่งที่ควรทำ

“ขวัญ อุษามณี” ยันไม่เลิก “กอล์ฟ พิชญะ” แต่ยอมรับหันมาให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ห่วงแม่ป่วยวิ่งรอกเข้า รพ. บอกถึงเวลาตระหนักว่าสิ่งที่ทำถูกหรือไม่ถูก เชื่อพี่กอล์ฟเข้าใจ

กลับมาให้เวลากับคุณแม่มากขึ้น หลังจากที่แม่ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งนางเอก “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” เผยว่า แม่ไม่อยากให้บอกว่าเป็นโรคอะไร แต่ยอมรับว่าตนต้องใส่ใจกับแม่มากขึ้น ก่อนย้ำถึงแม้ในระยะหลังๆ จะไม่มีภาพคู่ “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เผยพี่กอล์ฟเข้าใจ

“วันเกิดคุณแม่พี่กอล์ฟก็ได้อวยพรค่ะ ส่งแมสเซสไป เพราะเผอิญว่าวันนั้นขวัญก็ต้องพาคุณแม่ขวัญไปตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพ เพราะคุณแม่ของขวัญก็ป่วยเหมือนกันค่ะ เรื่องของขวัญ โหย หนูยังไม่มีเวลานอนเลยค่ะ ยังไม่มีเวลาไปเจอพี่กอล์ฟเลย”

“แม่ป่วยเป็นอะไร คือคุณแม่คงไม่อยากให้บอกค่ะ เราก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วค่ะ เพราะเราเป็นลูกเนอะ คนแก่ร่างกายก็มีแต่ทรุด มีแต่เสื่อมลง แล้วขวัญก็ทำงานตลอด พอถึงเวลาก็ต้องพาคุณแม่ไปหาคุณหมอ ซึ่งก็พาไปหลายโรงพยาบาลเหมือนกันกว่าจะโอเค”

“ก็ต้องไปเช็กบ่อยกว่าเดิมค่ะ ต้องพาคุณแม่ไปอยู่ใกล้คุณหมอด้วย เพราะคุณแม่ก็เหมือนกลับไปเป็นเด็กค่ะ กลัวคุณหมอ เดินมายังหลงทางเลย ออกมาต้องเลี้ยวขวา แม่ไปเลี้ยวซ้าย (หัวเราะ) ถ้าเราไม่อยู่กับคุณแม่แล้วใครจะอยู่ใช่มั้ยคะ ขวัญไม่เครียดค่ะ เพราะเรายังมีแม่อยู่ให้เรารักษาก็ยังดีกว่า”

โอดรับศึกหนักทั้งธุรกิจและเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะมี
“จริงๆ หลังๆ คุณแม่ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ก็สบาย เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาก็ทำมาเยอะ ถึงเวลาร่างกายก็คงทรุด ก็ต้องดูแลคุณแม่ไปตามกำลังค่ะ ทุกวันนี้ขวัญก็ทำงานหนักค่ะ ต้องดูเรื่องที่บ้านด้วยดูเรื่องธุรกิจด้วย เวลาส่วนตัวก็ไม่ค่อยมี ก็เอาเวลาให้คุณแม่ก่อน เพราะเรายังมีคุณแม่อยู่ ยังอยากดูแลคุณแม่ค่ะ แม่ก็ดื้อเรื่องกินค่ะ ก็จะกังวลเรื่องการกินนี่ล่ะค่ะ คุณแม่ชอบทานอาหารอร่อยๆ ดูจากหุ่น (หัวเราะ)”

“ตอนนี้ก็ได้เพื่อนๆ ขวัญด้วยที่ให้ความรู้ว่าควรจะไปปรึกษาหมอที่ไหน โรงพยาบาลอะไร ก็หมดห่วง ยังสบายใจอยู่ที่เรายังมีคุณแม่อยู่ข้างๆ เพราะกับคุณพ่อนี่ขวัญไม่มีโอกาสได้พาคุณพ่อไปรักษาเลย คุณพ่อก็ตื่นตี 5 ไปต่อแถวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจไม่บอกเรา มาเจออีกที 3-4 โมงเย็น เขาถึงบอกว่าไปหาหมอ”

ไม่มีเวลาเจอ “กอล์ฟ” แต่บอกทุกอย่างยังเหมือนเดิม
“ใช่ค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน เพราะว่าต่างคนต่างทำงาน แต่ก็ยังช่วยเหลือกัน ยังคุยกันค่ะ เขาก็ชวนไปวันเกิดคุณแม่ แต่พี่กอล์ฟเขาก็เข้าใจ หม่าม๊าก็เข้าใจ เพราะเราอยู่ในฐานะความเป็นลูกก็ต้องดูแลคุณแม่ จะให้ขวัญไปส่งคุณแม่แล้วมาปาตี้ร์ต่อก็คงไม่ใช่”

“ส่วนที่ถูกจับผิดว่าไม่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันย่อมมีเหตุผลค่ะ ทุกคนมีความอยากอยู่แล้ว เพียงแต่มันก็ต้องมีกรอบว่าอะไรควรไม่ควร ณ สถานการณ์ตรงนั้นว่าเราควรจะทำอะไร พี่กอล์ฟก็โดนคอมเมนต์ว่าเลิกกันเลยไม่มีรูป ซึ่งเขาก็ตอบชัดเจนว่าไม่เลิกเว้ย (หัวเราะ)”

ขอเดินตามรอยสิ่งที่พ่อสอน บอกถึงช่วงเวลาที่ต้องตระหนักว่าสิ่งที่ทำถูกต้องหรือเปล่า
“ขวัญว่าคนเราอยู่ด้วยกันมันต้องเข้าใจกันค่ะ เราต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เราไม่ได้อยู่แค่สองคน ถ้าเราอยู่กันสองคนแล้วชีวิตเราถดถอยมาไม่เหลือใครเลย อันนั้นเป็นช่วงเวลาที่เราต้องตระหนักว่าสิ่งที่เราทำแบบนี้มันถูกหรือเปล่า ขวัญก็ดำเนินรอยตามคุณพ่อคุณแม่ที่คอยสอนเรา และครูที่เคยบอกว่าอะไรที่มันดีไม่ดี บางทีขวัญก็อยากทำอะไรที่มันไม่ดีบ้างแหละ อยากนอนอยู่บ้าน ไม่อยากทำงานบ้างแหละ แต่มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพราะเราต้องรับผิดชอบค่ะ”

“เราไม่ได้มีปัญหา ก็ไม่ต้องถึงกับคุยกัน เพราะต้องเข้าใจอยู่แล้ว มันเป็นไปตามกระบวนการทางความคิดมากกว่า เพราะอย่างบางทีขวัญเหนื่อยขวัญก็ไม่ได้พูด เพราะขวัญพูดในเวลาทำงานเยอะแล้ว พี่กอล์ฟเขาก็จะเข้าใจค่ะ”