xs
xsm
sm
md
lg

ลูกเลือกข้างแล้ว “พ่อแม่กุญแจซอล” ปล่อยโฮ ประกาศตัดลูก ไม่เอาแล้วเลือดชั่ว! เชื่อถูกล้างสมอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พ่อนึกคิด - แม่มุกดา” ประกาศตัดลูก ลั่นขอยอมแพ้ ไม่เอาแล้วลูกที่มีเลือดชั่วๆ บอกถูกผัวล้างสมอง จะรอรักษาโรคประสาท - โรคจิต ให้ลูกเหมือนแฟนเก่าคนก่อนๆ ของฝ่ายชาย พ่อซัดไม่ใช่คนปกติ แต่เป็นคนบ้า เจอหน้าขอโทษสักคำยังไม่มี สุดช้ำลูกพูดท้าทายตามกฎหมายเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ตัดใจขอยอมแพ้ ต่อไปไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกัน

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงเลยทีเดียว หลังจากที่ “แม่มุกดา - พ่อนึกคิด” พ่อแม่อดีตนางเอก “กุญแจซอล ป่านทอทอง” ออกมาให้สัมภาษณ์เดือด หลังทั้งครอบครัวไปเยี่ยมลูกสาวและหลานชายที่โรงพยาบาล แต่ถูกฝ่ายชายตะคอกใส่ และถูกกีดกันไม่ให้เจอหน้ากุญแจซอล จนทนไม่ไหว ให้อีกฝ่ายเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน และประกาศตัดลูก ซึ่งล่าสุด ทั้งคู่ก็ออกมาเผยด้วยอาการน้ำตานองหน้าว่าขอยอมแพ้แล้ว

แม่ : “แม่ทำหนังสือไปเลย หลังจากเรารอเขา 2 ชม. ผู้ชายไม่ยอมให้เราเข้าไป พยาบาลพยายามไปพูดไกลเกลี่ยผู้ชายก็ไม่ยอมอย่างเดียว แถมตาม ส.ห. มากันเราอีก เมื่อเช้าแฮปปี้มาก ซื้อของไปหาหลาน ขวดนม เสื้อผ้าจะให้ไปหลาน กะว่าไปถ่ายรูปกับหลาน เขาเห่อหลานมาก พอไปถึง ซอลกำลังให้นมหลานในห้อง ปิดผ้าม่านเขาก็เรียกให้เข้าไป น้องสาวยังพูดเลยว่าโป๊อยู่ไม่เข้าไปหรอก ซอลบอกว่าเป็นผู้หญิงด้วยกันไม่เป็นไร เข้าไปเล่นปกติ คุยกันเฮฮา แต่พออยู่ดีๆ ฝ่ายชายเดินเข้ามา พูดตะคอกว่าจะถ่ายรูปไปทำอะไร

พ่อ : “บอกว่าจะถ่ายอะไรนักหนา แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ ผมก็อยู่ตรงนั้นเลย ผมก็บอกทำไมเหรอ เรามาหาลูกหลานไม่ได้เหรอ เขาก็คงไม่พอใจ น้องแจกันก็พูดมาคำว่าขอหนูคุยในครอบครัวหนูได้มั้ย เขาก็ดึงตัวซอลแล้วเอาหลานไป ผมก็ขึ้นเลย มันไม่ถูกต้องเราก็เก็บมานาน แต่ไม่ได้ทำอะไรนะ”

แม่ : “ตอนนั้นแม่ห้ามพ่อค่ะ ลูกก็น่าจะเห็น เราห้ามพ่อ เราไม่ได้ไปร้ายกับเขา”

พ่อ : “ทำไมจะอุ้มหลานไม่ได้เลยเหรอหลานเรา เราสงสัย เขาไม่น่าทำแบบนี้ จริงๆ กำลังจะจบไปได้สวยแล้วนะ”

อัดลูกโดนล้างสมอง ไม่คิดว่าครอบครัวหวังดี
พ่อ : “ซอลก็นั่งอึ้งเหมือนกัน คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้คงพูดอะไรไมออก”

แม่ : “แต่ลูกเจอผู้ชายล้างสมองว่าเราไปโกหกสื่อในตอนแรกที่บอกว่าเขาไม่ได้ท้อง เราก็บอกว่าเรารักหนูไง เราเลยโกหกสื่อไป เขาก็มาบอกว่าแม่ไปพูดโกหกสื่อเอง พอครั้งที่ 2 ที่เขาโกหกสื่อ เราก็ออกมาช่วยแก้ เขาก็มาโทษ หน้ามือหลังมือ ไม่ได้คิดว่าเราหวังดี แต่บอกว่าทำให้แฟนเขาโดนด่า เขาพูดวันนี้ค่ะ”

พ่อ : “ตอนนี้เขาโดนแฟนล้างสมอง”

แม่ : “ระยะเวลามันเกือบปี ทุกอย่างเป็นหน้ามือหลังมือ ลูกไปถ่ายละคร บางทีคุณพ่อไปส่ง กองถ่ายมารับ เขาก็ไปล้างสมองว่าแม่ไม่ให้เขาขับรถ ทุกอย่างที่เราหวังดี เขาก็เอาไปล้างสมองหมดเลย เท่าที่ฟังวันนี้”

พ่อ : “เขาบอกว่าไม่รัก ลำเอียง ไม่รักตรงไหน”

แม่ : “ถ้าไม่รักแม่คงไม่ตามหา ไปตามหาเขาทุกที่ แม้แต่สนามบิน เรากลัวเขาโดนทำร้ายหรือเปลา เขาคิดว่าเราจะไปแจ้งความจับแฟนเขา”

เสียใจที่สุด ลูกถูกผู้ชายทำลายหมดแล้ว
พ่อ : “เราก็เสียใจ อุตส่าห์ประคบประหงมเขามา”

แม่ : “สอนเขาทุกเรื่อง แต่สุดท้ายผู้ชายเอาไปทำลายลูกเราหมดเลย ลูกเราไม่เคยนอนดึก ก็รู้มาว่าออกไปตอนกลางคืนตีสอง เขามีปัญหากับเพื่อนบ้าน เขากลัวเพื่อนบ้านทำร้ายก็ย้ายรถตอนตีสองตีสาม ก็ให้ซอลขับรถตอนท้องแก่ๆ ซอลคลอดก่อนกำหนด เลือดออก ลูกหายใจช้า ออกมาตัวเล็กนะ คงไม่ได้บำรุง แล้วซอลเป็นคนบอกว่าหนูแอบทานโปรตีนที่แม่ให้หนูทานเพราะผู้ชายไม่ให้ทาน ให้ทานอะไรธรรมดา อยู่บ้านแม่มีโปรตีนตอนเช้าให้เขาทาน เขาบอกว่าต้องแอบทานเพื่อบำรุงลูก”

พ่อ : “ก่อนมีประเด็นดรามา ผมก็ทนไม่ไหว ออกมาสงบสติอารมณ์คนเดียว หลังจากนั้น เขาก็คุยกันว่าจะเอายังไง ผมบอกว่ามุกวันนี้ขอคุยกันให้รู้เรื่องเลยมั้ย แม่ก็เห็นด้วย เราก็พยายามเข้าไป แต่เขาเรียกสห. มาไม่ให้ผมเข้าไป บอกว่าเขาไม่ให้เยี่ยม

แม่ : “เราก็นั่งรอ 2 ชม. แต่น้องแจกันก็เดินไป สองคนกำลังเล่นกับลูกเฉย ไม่ได้สนใจเราสักนิด”

พ่อ : “เราก็อยากจบ อยากได้คำตอบตอนนี้ เราก็รอ เขาก็บอกว่าเขาไม่พร้อม เราทนไม่ไหวเลยเขียนจม.ให้พยาบาล แทนที่จะอ่านก็ไม่สนใจเลย”

แม่ : “ตอนนั้นแม่คิดเลยว่าลูกเราไปอยู่กับเขาเต็มร้อยแล้ว เลยบอกว่ากุญแจ ถ้าไม่เป็นพ่อแม่เป็นลูกแล้วก็ไปเปลี่ยนชื่อนามสกุลเลยนะ เขาบอกว่าไม่มีกฎหมายมาบังคับอะไรได้ นี่คือคำพูดเขา ชื่อเขาเขาสร้างขึ้นมาเอง พ่อแม่ฝ่ายชายอยู่ด้วย พอจะพูดอะไรฝ่ายชายก็ห้าม ตะคอกเลย พ่อแม่เขาเอาไปพูดให้ครอบครัวเราเสียหาย ไปพูดกับเพื่อนบ้านว่าเราเรียกสินสอด 20 ล้าน ลูกเขาเลยพาลูกเราหนีเลย แล้วตอนที่แม่เขากำลังจะชี้แจง แม่เขาบอกว่าคนอื่นพูดมา แม่บอกว่าแม่มีพยานนะ มีคนที่ได้ยิน แม่เขากำลังจะพูดชี้แจง ว่าจะซื้อบ้าน 8 ล้านจะซื้ออะไร ลูกเขาเลยให้แม่เขาเงียบ อยากชี้แจงว่าเราไม่ได้เรียก 20 ล้านตามที่แม่เขาพูดนะ มันทำลายจิตใจคนเป็นแม่มาก มีคนกลางพูดให้แค่ 2 ล้าน ก็คือ คิดเป็นเงินเดือนข้าราชการทหาร เพราะเรามีน้องอีก 2 คน เพื่อเป็นบรรทัดฐาน แม่เขาเอาไปพูดแบบนี้เป็นลักษณะเราขายลูกกินเลยนะคะ”

ยันไม่มีเรื่องฟ้องร้องเพราะลูกเลือกไปแล้ว
แม่ : “กรณีนี้เขามีลูกด้วยกันแล้ว เราจะไปฟ้องร้องเรียกร้องอะไรก็ไม่ค่ะ ลูกเราเลือกอย่างนี้ เขาก็ต้องเป็นไปตามนี้ เราไม่ได้ขัดขวางเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนเขาอยากติดต่อโรงแรมแม่ก็ติดต่อให้เขาอยากหมั้น ทุกอย่างเราจัดการให้หมดบางอย่างไม่ได้บอกพ่อด้วยซ้ำไป”

ขอพูดครั้งสุดท้าย ถ้าไม่เห็นเป็นพ่อแม่ลูกก็ไม่ต้องเป็น มีเลือดชั่วแบบนี้คงไม่เอา
พ่อ : “เขาบอกว่าเราโง่ที่ออกมาพูด”

แม่ : “เขาบอกว่าเขาฉลาด เพราะเขานิ่ง ที่เราออกสื่อนี่จริงๆ แล้วเราช่วยแก้ข่าวให้เขาด้วยซ้ำไป แต่ที่เราออกมานี่เพราะต้องการให้เขาชี้แจงเหมือนกัน ไม่ได้อยากจะออกข่าวอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าครั้งนี้เราจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเขาไม่ได้เห็นว่าเราเป็นพ่อแม่ลูกก็ไม่ต้องเป็น ถ้าเขามีเลือดชั่วแบบนี้เราก็คงไม่เอา เพราะเรามีลูกอีก 2 คน”

พ่อ : “อย่าลืมว่าเขาอยู่กับซอลเกือบปีแล้วนะ เกือบปีที่เอาซอลไป ตอนแม่จะเดินออกจากห้องแม่ก็บอกเขาว่าแม่จะรอหนู จะรักษาโรคจิต เหมือนคนก่อนๆ ที่เคยเป็นแฟนกับคนๆ นี้ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตคนนี้ ไม่เป็นประสาทก็โรคจิต เท่าที่สืบมา”

แม่ : “ที่รักษาอยู่ก็มา โรคไบโพลาร์”

พ่อ : “เขาไม่ใช่คนปกติ เขาเป็นคนบ้า วันที่ 4 ไปเยี่ยมแม่โดยบังเอิญที่ รพ. จะขอโทษสักคำก็ไม่มี จิตสำนึกมันไม่มีหรือไงวะ เขาป้อนข้อมูลว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือทำถูก พฤติกรรมลูกคือหน้ามืดตามัวนะ หลงอยู่”

แม่ : “ตอนผู้ชายไม่ขึ้นมา เขาก็กอดเราแล้วกอดเราอีก ก็เล่าให้ฟังเรื่องซื้อบ้าน ว่าจะซื้อบ้านตัวอย่างเพราะมีเฟอร์นิเจอร์เรียบร้อย พอจะซื้ออะไรสักนิด สามีก็ไม่ยอมซื้อ ก็เล่าให้ฟังเรื่องโน้นเรื่องนี้”

เผยคงไม่ติดต่ออีกแล้ว สงสาร “แจกัน” ถูกพี่สาวตอกกลับจนหลั่งน้ำตา
แม่ : “ไม่ค่ะ คงไม่ต้องติดต่อแล้ว”

พ่อ : “เราเป็นพ่อแม่ไปรอ เขายังไม่ให้เยี่ยมเลย”

แม่ : “แขกคนอื่นมาเขาเปิดประตูให้”

พอ : “ยกเว้นเรา ผมนี่งง อดีตผมไม่พูดถึงแล้ว ผมเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเข้มแข็ง มีแม่มีลูก 2 คนต้องดูแล”

แม่ : “น้องเจกันก็โดนพี่เขาตอกกลับมา น้องแจกันช่วยไกล่เกลี่ยครอบครัวให้ดีขึ้น ให้จบเรื่องนี้ เขาเสียความรู้สึก ร้องไห้ขับรถมา ข้าวก็ไมยอมทาน”

พ่อ : “คนเล็กก็ยิ่งเสียความรู้สึก”

แม่ : “ผิดหวังมากค่ะ”

สุดช้ำ ลูกพูดท้าทายตามกฎหมายเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เชื่อถูกล้างสมองไปแล้ว ประกาศขอยอมแพ้ ต่อไปไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกัน
แม่ : “เป็นกระดาษค่ะ เราเขียนเป็นกระดาษให้พยาบาลเอาเข้าไปให้ ให้เป็นลักษณะถ้าเขาไม่เห็นเราเป็นพ่อเป็นแม่ เลือกฝั่งโน้นฝายเดียวก็ไปเปลี่ยนชื่อนามสกุลวะ ทรัพย์สินทั้งหลายก็ไม่ต้องมายุ่งกับของแม่ เขาก็พูดท้าทายว่าตามกฎหมายเปลี่ยนอะไรไม่ได้ คือมันโดนล้างสมองไปแล้ว ตอนนั้นแม่บอกว่าแม่ยอมแพ้ เอาเหอะ หนูก็ชนะไปแล้วกัน ต่อไปเราก็ไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกัน”

พ่อ : “เขามาคุยหน้าประตู แต่สรุปเขาเลือกทางโน้นไง เขาไม่เหมือนลูกเราเลย คนละคนเลย”

แม่ : “ปกติเขาเจอแม่จะเข้ามากอด แหย่”

พ่อ : “ไม่ต้องอะไร ผมป่วยจะถามอาการซักคำมีมั้ย”

แม่ : “เขาหายไป เขาไม่นึกเลยเหรอว่าเราจะไม่คิดถึงเขา (ร้องไห้)

พ่อ : “ห่าง 3 - 4 เดือนยังแทบขาดใจ นี่ 9 เดือน ผมว่าเขาคิดของเขาเองว่าพ่อแม่ไม่รัก กีดกันเขา”

แม่ : “ทุกอย่างผู้ชายล้างสมอง เรายอมรับหมดในตอนแรก คิดว่าเขาเป็นทหารคงมีเกียรติมีศักดิ์ศรี อายุเยอะแล้ว เราผิดที่ไปไว้ใจเขามากเกินไป แต่พอเขาเป็นแบบนี้ เขาไม่ให้เกียรติทางเรา ไม่เกียรติพ่อแม่เขา ไม่ให้เกียรติหน้าที่การงานเขาด้วย เราคงรับเขาต่อไปอีกไม่ได้ ตอนนี้แม่ไม่มีอะไรที่จะพูดแล้ว มันเจ็บอยู่ข้างใน เราก็พยายามเลี้ยงอีก 2 คนให้ดีที่สุดค่ะ”

ยืนยันไม่เคยขีดเส้นให้ลูกจนเกินไป ถ้าขีดเส้นคงไม่ไปมีอะไรก่อนแต่งแบบนี้
แม่ : “ไม่ค่ะ ถ้าเราขีดเส้นเขาจะมาเจอแบบนี้เหรอคะ เขาจะมีอะไรกันก่อนแต่งงานเหรอคะ

พ่อ : “เราก็ไว้ใจ เขาอายุมากแล้ว เป็นข้าราชการ”


กำลังโหลดความคิดเห็น