5 ปีที่เฝ้ารอ ไม่มีสักวันที่ไม่ตามหา “แม่น้องน้ำ” สะอื้นไห้กลางรายการ ซัด “โมนา” อดีตนางงามฆ่าลูก สุดโหดซ้อมน่วมซี่โครงหัก บังคับให้ใส่แพมเพิร์ส ปล่อยขาดใจตายริมระเบียง ถามฆ่าลูกฉันทำไม
โหนกระแสคืนนี้เป็นเรื่องราวจากกรณี “นางจันทิรา ศรีศักดิ์” ชาวจังหวัดเพชรบุรี แม่ของ “น.ส.จริยา ศรีศักดิ์” หรือ “น้องน้ำ” อายุ 16 ปี ได้เข้าขอให้ทางด้าน “นางปวีณา หงสกุล” ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรมบุตรสาวหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำเป็นเวลากว่า 5 ปี หลังจากเข้าทำงานกับ “น.ส.กฤษณา” หรือ “โมนา สุวรรณพิทักษ์” อดีตนางงามที่กรุงเทพมหานคร และหายตัวไปโดยทางด้านโมนาแจ้งกับคุณแม่ว่าลูกสาวได้หนีออกจากบ้านไปแล้ว จนกระทั่งมีคนมาแจ้งเบาะแสว่าน้องน้ำถูกฆ่าตายและถูกนำศพไปฝังไว้โคนต้นตาล บ้านแม่ของโมนา ซึ่งรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางช่อง 28 ได้สัมภาษณ์ “คุณจันทิรา ศรีศักดิ์” แม่น้องน้ำผู้เสียชีวิต
“เริ่มต้นมาปี 2555 น้องปลามาติดต่อว่าทางคุณโมนาต้องการเด็กไปอยู่ในบ้าน เขาก็สอบถามมาว่าเคยทำงานมั้ย เขาบอกเขารู้จักดี พาไปดูบ้านช่อง ก็พาไป บ้านเขาก็อยู่เพชรบุรีเหมือนกัน ไม่ไกลกัน เราไม่เคยเจอเขาเลย จนเจอตัวเขาครั้งแรก ปลาก็พาไปแนะนำ แล้วพูดคุยตกลงกันว่าให้ทำงานยังไงบ้าง เขาบอกว่าไม่ต้องทำอะไรมาก สบายๆ ให้เดินถือกระเป๋าเดินตามหลัง ทำงานบ้านให้นิดหน่อย เขาบอกว่าตอนนั้นเขาเลี้ยงวัว เรื่องประกวดนางงามมารู้ทีหลัง หลังจากนั้นตกลงกันว่าให้น้องไปทำงาน จะพาลูกมาเจอทุกอาทิตย์ไม่ต้องห่วง ก็ตกลงเรื่องเงินเดือน การพูดคุยมีแม่เขาอยู่ด้วย มีลูกสาวเขาด้วย ตกลงกัน 6 พันบาท”
“ลูกไม่เคยทำงานแบบนี้ค่ะ เราก็บอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ลูกสามารถช่วยแม่ได้มั้ย เขาบอกว่าช่วยได้นะแม่ หนูก็ทำได้นะ เขาก็รับปาก แล้วไปวันนั้นเลยค่ะ ห้าโมงเย็น หลังจากวันนั้นเขาอ้างว่าอยู่สุขุมวิท แต่แม่มารู้ตอนหลังว่าเขาให้ลูกไปอยู่ประชาชื่น เขาโกหกแม่”
“หลังจากนั้นเขาก็ไม่พาลูกมา ครั้งแรกก็ติดต่อเพราะเราคิดถึงน้ำแล้ว แต่เขาบอกว่างานยังไม่ว่าง ยังไม่เคลียร์ ไม่ว่าง ตอนแรกยังไม่ได้คุย บอกว่าไม่ว่างที่จะมา หลังจากนั้นอยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือน เขามีการจ่ายค่าจ้างน้องมาครึ่งนึงคือ 3 พันบาท อีกครึ่งหนึ่งให้น้ำเผื่อใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว”
ร่ำไห้เผยคำพูดสุดท้าย แม่จ๋าหนูคิดถึงแม่
“ปลายเดือนมีนา ปี 55 ค่ะ เพราะคิดถึงลูก เขาไม่ยอมพามาซะที เราก็โทรถามทำไมไม่พาน้ำมา (ร้องไห้) เขาก็ให้น้ำคุยกับแม่ แม่ก็ถามว่าน้ำเป็นไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ลำบากมั้ย ถ้ามันหนักมากก็อย่าทนนะ ให้กลับมาหาแม่ น้องก็บอกว่าหนูทำได้ เสียงยังใส ไม่มีท่าทีอะไรเลย แล้วเขาพูดคำสุดท้ายว่าแม่จ๋าหนูคิดถึงแม่นะจ๊ะ (ร้องไห้) แล้วเขาก็วางสาย ก็แค่นั้น(ร้องไห้)”
“หลังจากนั้นเดือนเมษานายจ้างโทรมาหาแม่ว่าน้ำหนีออกจากบ้านเขานะ แม่ก็ตกใจ หายที่กรุงเทพหรือหายที่เพชรบุรี เขาบอกว่าหายที่เพชรบุรี ออกจากบ้านไปตอนตีห้า แม่ก็ถามว่าพาลูกมาทำไมไม่พามาส่งที่บ้าน เห็นน้องเดินออกไปทำไมไม่เรียกกลับบ้านเข้ามา เขาก็ไม่ตอบแล้วก็วางไป เขาโทรบอกเราตอนเก้าโมงเช้า แม่ก็สงสัยว่าทำไมมาเพชรบุรี ทำไมไม่มาส่งที่นี่ เขาก็วางโทรศัพท์เลย แล้วแม่ก็ขึ้นไปที่บ้านเขา ไปถามหา ไปสอบถามว่าเห็นเด็กคนนี้มั้ย ลักษณะแบบนี้ เขาก็บอกว่าไม่มีนะ เพราะคนแถวนั้นก็รู้จัก บ้านเพื่อนๆ เขาในเพชรบุรีก็ไม่ไป ไมมี”
“หลังจากตามหาสองวัน แม่ก็แจ้งความเด็กหาย นายจ้างคนนี้ๆ เอาไป พอแจ้งความไปเขาก็เรียกนายจ้างคนนี้มาให้การ มาเป็นพยานให้หน่อย เขาก็บอกว่าเขาไม่ว่าง จนสี่ห้าครั้งก็ไม่มาให้การ จนเรื่องเงียบเพราะร้อยเวรย้าย ปี 56 ก็ตามอยู่ ไปซื้อกล้องถ่ายรูปมา ชวนลูกชายคนเล็กไปด้วย เราต้องสืบหาหลักฐาน ก็เลยให้เขาไปกับแม่”
ไม่หมดหวังตามหาลูก
“ตอนนั้นคิดว่ายังมีอยู่เพราะเรื่องใหม่ๆ ก็ไปตลอดทุกเสาร์อาทิตย์ ไปแอบดูตลอด ก็ปกติ เหมือนไม่มีใครอยู่ เหมือนบ้านร้าง แม่ก็ไปแอบถ่ายบริเวณโรงรถ ถ่ายบ้าน เป็นกึงสวนกึ่งบ้าน กระจกก็ทึบหมดเลย แม่ก็อยู่บริเวณบ้านรอบๆ เข้าไปในบริเวณบ้านหลังนั้น แม่รู้สึกเหงา ว้าเหว่”
สะอื้นเหลือรูปเดียวเพราะเหตุไฟไหม้ เล็งเอาเป็นใบมรณบัตร
“เพราะไฟไหม้ หลักฐานทุกอย่างเลยไม่เหลือเลย แม่ก็เลยขึ้นเทศบาลเมือง ขอรูปถ่าย เขาก็ให้มา ก็ได้เป็นรูปใบนี้ รูปนี้น้องอายุ 15 ทำบัตรปีแรกในวันเกิดเขาเดือนพ.ค. ปี 54 ปีหน้าก็ 6 ปี ก็คงเป็นใบมรณบัตร(ร้องไห้)”
ขนลุกซู่ ผู้หวังดีแจ้งเบาะแส ทรุดนาทีรู้ลูกเสียชีวิต
“มีผู้หวังดีแจ้งเบาะแสมา เขาติดตามมาด้วยตัวเอง เขาบังเอิญไปเจอคนที่แม่รู้จัก เขาก็มาสอบถามว่ารู้จักคนนี้มั้ย รู้จักแม่คนนี้มั้ย ซึ่งบังเอิญคนนั้นรู้จักแม่ และรู้จักบ้านแม่ เขาก็บอกว่ามีคนมาแจ้งเบาะแสลูกนะ เราก็ขนลุกซู่ อยู่ดีๆ ก็มีเบาะแสเขาก็อบกว่าดูให้ดีนะ เผื่อถูกหลอก แต่เราก็ยอมมาพบเขา เขาก็เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด ว่าน้ำเสียชีวิตแล้ว พี่ก็ทรุดตรงนั้น ร้องไห้ด้วย เขาก็เล่าเหตุการณ์ เมื่อวัน 12-13 เมษา 55 น้ำถูกทำร้าย ถูกทุบตี ถูกทรมาน ถูกล่ามโซ่ ไม่รู้ถูกทุบตีด้วยอะไร จนหน้าตาบวมปูดไปหมด เสียชีวิตแล้วนะ เขาก็ให้เบาะแสเป็นรูปภาพ สถานที่เกิดเหตุ”
เผยใช้กระป๋องสเปรย์ทุบหน้า ซ้อมซี่โครงหัก บังคับใส่แพมเพิร์ส จนลูกขาดใจตาย
“อันนั้นจากคำบอกเล่าของนายจ้างเองว่าเขาตีจริง ซี่โครงหักแม่ว่าถูกซ้อมมากกว่า ให้ใส่แพมเพิร์สอันเดียวอยู่ริมระเบียง ล่าสุดเห็นบอกว่าพอเดินผ่านก็ตุ๊บๆ พอเขาเดินกินน้ำ น้ำก็เรียกบอกว่าโมนา เรียกจนขาดใจตาย ทรมานแล้วก็ขาดใจตาย เพราะตอนนั้นช้ำไปทั้งตัวแล้ว”
“แม่ยังไม่เจอเขานะคะ ถ้าเจอก็อยากถามว่าน้องทำผิดอะไร ถึงได้ทำให้เขาทรมานขนาดนี้ ถึงได้ทุบตีขนาดนี้ บอกแล้วว่าถ้าลูกไม่ดีให้เอามาคืน ไม่เห็นต้องตีต้องฆ่า”
“เวลา 5 ปี ไม่มีสักวันเดียวที่แม่ไม่คิดถึงน้ำแม่พยายามเสาะหาน้ำ ถึงแม้จะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต แม่ก็เฝ้ารอคอย(ร้องไห้) ก็ไม่เสียแรงที่ติดตามเพราะแม่ได้ลูกของแม่กลับคืน ขอบคุณทุกคนทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ ทำให้ลูกได้รับความเป็นธรรม (ร้องไห้)”