เรียกว่าเป็นความปลาบปลื้มใจที่สุดของชีวิต จนไม่สามารถเก็บไว้ในใจได้ เลยต้องมีการแชร์สิ่งดีๆ เหล่านี้ ให้ชาวเน็ตได้รับทราบ สำหรับนักร้องหนุ่มนายทหารรั้วของชาติ “ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน” ล่าสุด (1 พ.ย.) ที่ได้โพสต์ภาพและข้อความกินใจบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึก รวมถึงข้อคิดต่างๆ ในระหว่างที่ตนเองได้บวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยเป็นการกระทำความดี ที่ไม่ต้องหวังให้มีใครมาคอยชื่นชม แต่มีความสุขที่ได้ทำ และขอบคุณพระอาจารย์ เอกชัย สิริญาโณ ที่ได้ชวนมาบวช ทำให้เข้าใจตนเอง และมีสติมากขึ้น พร้อมน้อมรับจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
Chinchinawut ข้อความนี้จะยาวหน่อยนะครับ แต่จริงๆ แล้วนี้เป็นแค่เสี้ยวนึงกับสิ่งที่ผมได้รับจาก 10 วันที่ผ่านมา
ประสบการณ์ครั้ง 1 ในชีวิตผมที่บอกเลยว่าไม่มีคำพูดอะไรที่จะมาอธบิายได้ถึงความรู้สึกจริงๆ แต่ผมจะพยายามแชร์ให้ดีที่สุด การได้ไปบวชครั้งนี้เป็นความตั้งใจอันสูงสุดของผมที่จะถวายเป็นพระราชกุศล ให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “การทำดีนั้นไม่ต้องหวังคำชม เพราะมันควรจะทำอยู่แล้ว” นี้คือประโยคจากพระอาจารย์เอกชัยที่ก้องอยู่ในหัวผมทุกๆวัน มันทำให้ผมเข้าใจหลายๆอย่างรวมถึงตัวเองด้วย
เราอยู่ในสังคมที่แปลกอยู่อย่างนึง แปลกที่การมีภาพลักษณ์ที่ดูดีนั้น ทำให้เรามีความสุขมากกว่าการทำดี
จริงๆ แล้วภาพลักษณ์ที่ดูดีนั้นมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงหรอก แต่มันคือภาพลวงตาของคำความสุข เพราะท้ายสุดแล้วเราจะพยายามทำตัวให้ดูดีตลอดเวลา แล้วถ้าวันไหนดูไม่ดีเราก็จะทุกข์
.
ต่างจากการทำความทำดีโดยสิ้นเชิง เพราะไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทำดีแล้วจะทุกข์ แต่ถ้าทุกข์ตอนทำดี เราก็อาจจะต้องกลับมาดูใจเราว่าจริงๆแล้วสิ่งที่เราทำไปนั้น เราตั้งใจทำดีจริงๆ หรือเปล่า
.
“ตอนเรากินข้าว ต้องมีคนมาชมเราไหมว่าเรากินข้าวเก่งจังเลย? แล้วทำไมเวลาทำดีต้องหวังคำชมด้วยละ” ประโยคนี้เปลี่ยนชีวิตผมเลยครับ
.
ต้องขอบพระคุณ พระอาจารย์ เอกชัย สิริญาโณ ที่นอกจากชวนผมมาบวช แต่ทำให้ผมได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นจริง “สติ” คำนี้แหละ คือสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเข้าใจ แต่น้อยคนที่จะมี ผมสัญญาครับ ว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปผมจะพยายามมีสติกับทุกๆ สิ่งที่ทำ และจะปฏิบัติตนให้ดีกับทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นคนรอบกาย หรือคนที่ไม่รู้จัก
.
ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยสติ เพื่อตัวเอง และทุกๆคนบนโลกใบนี้ครับ