“แม่น้องสกาย” เผยครั้งแรกหลังลูกชายออกจากห้องไอซียู ยิ้มสู้เชื่อในปาฏิหาริย์ รับผลการรักษาเป็นไปในทิศทางที่ดี เม็ดเลือดขาว-เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้น อยู่ในช่วงสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อสู้กับการทำคีโมต่อไป
ยังได้รับความสนใจต่อเนื่องสำหรับอาการ “น้องสกาย” ดาราเด็กจากละคร “เพลิงบุญ” ซึ่งป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นวิกฤต ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน มีอาการแทรกซ้อนจากการทำคีโม ท้องบวม เป็นแผลในปาก ติดเชื้อในกระแสเลือด อาการน่าเป็นห่วง แต่ล่าสุดน้องสกายอาการดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ ออกจากห้องไอซียูมาห้องพักฟื้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังอาการ ซึ่งรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางช่อง 28 ได้สัมภาษณ์ “คุณธัญญลักษณ์ ธัญสม” คุณแม่น้องสกาย และ “รศ.นพ. ปรีดา วาณิชยเศรษฐกุล” กุมารเวชศาสตร์ รพ.ปิยะเวท
“จริงๆ ตั้งแต่เล็กยันโตจนถึงปัจจุบัน น้องไม่มีอาการอะไร น้องแข็งแรงดี ถ้าเทียบกับเด็กคนอื่นต้องไม่สบายบ้าง เป็นไข้ น้องก็เป็นบ้าง แต่สองสามวันก็หาย ไม่มีอะไรบอกเรามาก่อนเลย ตอนถ่ายละครก็ไม่มีอาการ มาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติตอนแรกช่วงนั้นอากาศเปลี่ยน น้องเริ่มไม่สบาย คราวนี้เป็นนานกว่าปกติ แต่ไม่ได้มีไข้ขึ้น มีซึม ไม่ได้บอกว่าปวดหัว แต่จากชอบวิ่งเล่นก็ไม่อยากไป อยากนอน ไม่อยากกินนม เบื่ออาหาร พอประมาณสักอาทิตย์ ก็ไปหาคุณหมอ ก่อนหน้านั้นน้องเริ่มซึมและไม่ทานอาหารเรารู้สึกว่าแปลกไป เลยพาไปหาคุณหมอ ตอนแรกคุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นไซนัสอักเสบเพราะเอกซเรย์แล้วมาเจอในส่วนไซนัสด้วย”
“หลังจากนั้นก็ให้ยาฆ่าเชื้อ 2 วัน วันที่ 3 เราก็ไม่ไหว กลับบ้านไปน้องทานได้นะคะ แต่หลังจากนั้นน้องขาบวม เราก็เอ๊ะ น้องไม่ได้เดินทำไมขาบวม ตาเขามีข้างหนึ่งเหมือนตกลง มันค่อยๆ ตี่ลง เป็นตาข้างขวา มันผิดปกติมากๆ ค่ะ ก็พาไปหาหมอ ครั้งแรกที่คุณหมอบอก ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เช็กโดยละเอียด น่าจะเป็นเยื้อหุ้มสมองอักเสบหรือเปล่า คือคุณหมอคาดการณ์ไว้ แต่หลังจากนั้นคือแอดมิด ให้น้องนอนที่รพ. ให้ยาฆ่าเชื้อ และวันนั้นทำ mri ที่สมอง เราก็ขออย่าให้เป็นอะไร เราก็กลัว”
“ซึ่งตอนแรกก็ตรวจไม่พบเยื้อหุ้มสมองอักเสบ พอวันรุ่งขึ้น คุณหมอก็เรียกไปคุยว่าน้องอาจจะได้ไปรักษารพ.ที่มีนักเรียนแพทย์ หรือพร้อม และครบ เหมือนหมอหลายๆ ด้าน ที่จะมาดูแลได้หมด คุณหมออาจจะทราบแล้วแต่ไม่กล้าบอกเรา เราก็รีเฟอร์น้องไปที่รพ. แล้วไม่มีรพ.ไหนตอบรับ เราต้องพาน้องนอนที่รพ.เดิม แต่ก็ต้องถามวิธีการคุณหมอว่าถ้าไม่มีตอบรับมาจะทำยังไง จะรักษาต่อไปได้มั้ย เราก็กังวลมาก เราหาสาเหตุไม่เจอ บอกคุณหมอเลยว่าเชิญเต็มที่เลย เราต้องรู้”
“ตอนนั้นคุณหมอไปทำ mri และซีทีสแกนที่กระดูกไขสันหลัง ก็เจอก้อนเนื้อ ซึ่งมันทับเส้นประสาทตาและประสาทขา ไม่ถึง 2 ชม. แจ้งผล คุณหมอรู้ ก็ต้องมาคิดอีกว่าถ้าเราปล่อยลูกไว้ จะมีปัญหาเกี่ยวกับขาเดินไม่ได้หรือเปล่า คุณหมอบอกว่าน่าจะมีก้อนเนื้อ มีบอกว่าน้องน่าจะมีเชื้อมะเร็ง หลังจากนั้นไม่ถึง 2 ชม. ทุกอย่างรัดกุมมาก คุณหมอได้ปรึกษาว่าน้องมีก้อนนี้จะทำยังไงต่อดี เราก็เลยถามอันดับแรกคือเรื่องขา ถ้าเกิดช้ากว่านี้ ในส่วนของขา จะเดินได้มั้ย แล้วเราก็กลัวตาจะเป็นอะไรหรือเปล่า คุณหมอก็ไม่รู้ว่ามันลามไปถึงไหน หลังจากที่ทราบ ไม่ถึงสองชม. เข้าห้องผ่าตัดเลย น้องเข้าไป 4 ชม. ออกมาแล้วฟื้น จริงๆ ต้องใช้เวลาอยู่ในไอซียู น้องฟื้นตัวเร็ว ก็ทำการย้ายรพ. เพื่อไปรักษาต่อ หลังจากวันนั้นพอผ่าตัด เราเห็นได้ชัดว่าตาน้องปกติเลย เริ่มดีขึ้น ขาก็ขยับได้เลย ขาก็ฟื้นเหมือนเดิม ไม่แดง ไม่บวม เรื่องตาก็โตขึ้น”
“พอได้ทำคีโมในส่วนที่ผ่าไปคือส่วนด้านหลัง ในส่วนด้านหน้าที่เหลือๆ อยู่ก็ต้องทำคีโมเพื่อจัดการก้อนตัวนี้แล้วเจอเอฟเฟ็กต์ของการทำคีโม มีอาการปากเป็นแผล ในทวารหนัก ในส่วนอวัยวะเพศเป็นแผล มีไข้ขึ้นสูง ท้องบวม ทุกอย่างรุมหมด ตอนแรกเหมือนจะโอเค แต่พอใช้เวลาอยู่ประมาณ 2-3 วัน น้องเริ่มอาการไม่ดี มีอาเจียน เป็นน้ำเขียวๆ ออกมา เราก็ตกใจ แต่พอมาถึงวันนี้น้องออกจากห้องไอซียู ตอนนี้อาการท้องบวมลดลง เรื่องแผลในปากก็ดีขึ้น โดยรวมดีขึ้น”
นอกจากนี้ รศ.นพ. ปรีดา วาณิชยเศรษฐกุล กุมารเวชศาสตร์ รพ.ปิยะเวท ก็ได้เผยว่า
“ โรคมะเร็งในเด็กมีโอกาสตอบสนองกับยาในการรักษาได้ค่อนข้างสูง ในสัดส่วนที่สูงกว่าโรคมะเร็งแบบเดียวกันในผู้ใหญ่ เพียงแต่ว่าในกรณีน้องสกาย มีการกระจายไประบบประสาทส่วนกลางด้วย ไขสันหลัง หรือแม้กระทั่งอาการทางสมอง อย่างตาตกก็เป็นอาการส่วนหนึ่งทางสมอง แล้วเนื่องจากมะเร็งกระจายไปทุกส่วน เราเลยจำเป็นต้องใช้ยาแทรกซึมไปทุกส่วนของร่างกาย ทีนี้ยามีข้อดีคือทำลายเซลล์มะเร็ง เซลล์มะเร็งแบ่งตัวเร็วแต่ยาก็ทำลายได้ แต่ว่าเยื่อบุทางเดินอาหาร ในปาก ในทวารหนัก หรือผมหรือเยี่ยบุต่างๆ มันก็มีผลข้างเคียง ทำให้น้องมีอาการเจ็บคอ เจ็บปาก กินไม่ได้ แน่นอนทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเม็ดเลือดต่ำ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ต้องตามมา ก็รักษาและพยายามป้องกัน ดูแล แก้ไขให้ทันท่วงที แล้วทางรพ. ทีมคุณหมอทีมพยาบาลที่ได้ดูแลน้องสกาย ผมเชื่อว่าเขาดูแลสุดความสามารถแน่นอน ดูแลเต็มที่ วัดความดัน ออกซิเจน สัญญาณชีพต่างๆ ให้เต็มที่ พอซึ่งหลังการดูแลอย่างสุดความสามารถ น้องสกายก็ดีขึ้น ออกมาจากห้องวิกฤตนั้นได้”
“โรคลักษณะแบบนี้ แน่นอนโรคมะเร็งไม่ใช่โรคที่พบบ่อยในเด็กที่อายุน้อยๆ แต่ถ้าเด็กคนนั้นจะโชคร้ายเป็นโรคมะเร็ง ก็มักจะเป็นมะเร็งระบบเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง อย่างมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งการรักษาในเด็กเล็กๆ แทบจะเป็นสูตรเดียวกัน น่าจะหนึ่งในหลายหมื่นคนที่เป็นแบบนี้ บางคนเป็นโรคเดียวกัน แต่อาการมาหลากหลายมาก”
“อาการของน้อง บางคนก็เกี่ยวกับพันธุกรรมเด็กเอง ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ยอมรับว่าหลายๆ คน ก็ไม่พบสาเหตุ เพียงแต่ว่าเมื่อวินิจฉัยได้ประเมินได้มีแนวทางการรักษาเป็นมาตรฐาน อาหารการกินอาจไม่ได้ส่งโดยตรง แต่เราพยายามให้ทานอาหารที่สะอาด ไมมีเชื้อโรคปะปน อาหารไม่น่าจะใช่ปัจจัยหลักซะทีเดียว ปัจจัยภายนอกค่อนข้างไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งในเด็ก เด็กไม่ได้สูบบุหรี่ เด็กไม่ได้ดื่มเหล้า แต่มักจะเป็นความโชคร้ายส่วนตัว อย่างเช่นยีนส์โดยพันธุกรรม แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ที่แพทย์ยังหาอาการไม่พบ แต่ปรากฏอาการป่วยแล้ว ทีมแพทย์จะทราบวาถ้ามีอาการอย่างนี้ จะรักษาอย่างไร จะดูแลอย่างไรเพื่อหวังผลว่าให้หายขาด หรือไม่กำเริบซ้ำ ซึ่งมะเร็งโลหิตวิทยาในเด็ก มันจะเป็นขั้นที่สี่หรือน้อยกว่านั้น การรักษาน้องก็ทำเต็มที่อยู่แล้ว คงเทียบเคียงกับมะเร็งในผู้ใหญ่ไม่ได้”
เผยคำพูดแรก อยากกินขนม ผลการรักษาเป็นไปในทิศทางที่ดี
“เขาบอกว่าอยากไปโน่นไปนี่ อยากกินขนม ซึ่งผลการรักษาเป็นไปในทางที่ดีค่ะ เม็ดเลือดขาวก็เพิ่มขึ้น เกล็ดเลือดก็เพิ่มขึ้น แต่ช่วงนี้อยู่ในช่วงสร้างภูมิเพื่อทำคีโมต่อไป”
“อยากขอบคุณแฟนคลับน้องและผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของน้องและในส่วนที่เอาขนม ของเล่นมาให้น้องทุกวันก็ขอบคุณมากๆ เราจะเก็บตรงนี้ไว้รักษาน้องจนกวาน้องจะหายดี แล้วเราจะให้น้องมาขอบคุณทุกคนค่ะ”
หากอยากร่วมสบทบทุนช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายน้องสกาย สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธ.กสิกร หมายเลขบัญชี 2002334318 และ 6442191393 ชื่อธัญลักษณ์ ธัญสม