“จิ๊ก เนาวรัตน์” รับโดนแฟนคลับ “เอ็กซ์ ปิยะ” ด่าไปขุดเรื่องเก่ามาพูดอีกทำไม เปิดใจบ้าบอถ้าหากต้องบอกว่าเป็นพี่น้อง ยันไม่ชอบคำนี้เพราะไม่ใช่คนเฟก แย้มอยากเจออีกฝ่าย แม้ฝ่ายชายเคยประกาศชาตินี้ไม่ขอเจอหน้า บอกเป็นเกย์ไม่แปลกทำไมไม่ยอมรับ อะไรจริงอะไรปลอมต้องยอมรับ อย่าสร้างสตอรี่
เรียกว่าสร้างความฮือฮาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ “จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” ออกมายอมรับผ่านรายการคลับฟรายเดย์ว่าเฟกคบเกย์เพื่อโกยเงินล้าน ก่อนจะพาดพิงว่าหนุ่มรุ่นน้องคนดังกล่าวคือ “เอ็กซ์ ปิยะ” ซึ่งจบจากกันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ซึ่งภายหลังรายการออนแอร์ไป เจ๊จิ๊กก็โดนชาวเน็ตถล่มเบาๆ ว่าไปพาดพิงถึงเขาอีกทำไม ทั้งที่เรื่องก็จบไปนานแล้ว โดยนักแสดงรุ่นใหญ่เผยว่าตนพูดออกไปตามความเป็นจริง ยันไม่ใช่คนเฟก
“หลังจากเทปคลับฟรายเดย์เทปนั้นออนแอร์ออกไป ก็จะมีแฟนคลับของเอ็กซ์โทร.มาว่า ทำไมต้องไปพูดจาอะไรแบบนี้ แต่บอกเลยว่าเราชอบอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง คืออะไรเอ่ยชื่อได้ก็ต้องเอ่ย เราโกหกไม่เป็น และฟีดแบ็กที่คอมเมนต์มาก็คือเขาบอกว่าอย่าไปเอ่ยชื่อ อย่าไปสะกิดเขา เขาก็คือเขา เราก็คือเรา แต่เรื่องตรงนั้นมันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน แต่เราอาจจะพลาดไปตรงที่ไปเอ่ยชื่อ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราก็แค่คิดว่าก็เอ่ยชื่อได้สิ และอีกอย่างเราก็ไม่ได้ไปว่าอะไรเขามากมาย มันเป็นเรื่องจริงที่เราไม่ควรจะไปหลอกใคร”
“เราไม่ได้เช็กว่าพอมันออกไปแล้วจะเป็นยังไง ไม่ค่อยได้สนใจหรอกค่ะ เราพูดในมุมมองของตัวเอง อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราก็เป็นคนแบบนี้ ไม่ใช่คนเฟก ไม่ชอบมาเสแสร้งอะไร และถ้าใครจะมาบอกให้พูดอีกอย่าง เราก็จะไม่พูดเพราะสิ่งนั้นเราไม่ได้ทำ แต่อันนี้เราทำ เราจึงพูด แต่ถามว่ามีผลเสียมั้ย มันก็มีผลเสีย แต่มันก็พูดไปแล้ว เราก็จะไม่แก้ต่างอะไร และสิ่งที่เราพูดไปคือเรารู้จักจริงๆ แต่เพียงแค่ว่าเราอาจจะไม่เข้าใจโลกอีกใบที่เกิดใหม่ขึ้นมาก็ได้ แต่เราได้เรียนรู้โลกอีกใบได้เข้าใจ และโลกนั้นคือคนเราไม่ได้มีแค่ผู้หญิงผู้ชาย แต่อีกโลกหนึ่งขึ้นมาที่คนก็อยากจะไปอยู่ ซึ่งไม่มีใครว่า ผู้หญิงก็กลายเป็นผู้ชาย ผู้ชายก็กลายเป็นผู้หญิง ตอนนี้มันได้หมด เพียงแต่ว่ามันอยู่ที่ว่าความสุขของเราอยู่ตรงไหน ตอนนี้เราเข้าใจโลกใบที่สามแล้ว เป็นโลกที่น่าอยู่ เป็นโลกมี่มีความสุขมาก”
บอกบ้าบอ ถ้าจะต้องมาตอบว่าเป็นพี่น้องกัน ยันไม่ชอบคำนี้ รู้สึกว่ามันประหลาด
“หลังจากเทปออกอากาศไปก็ยังไม่ได้คุยกันเลย ซึ่งฟีดแบ็กที่พอออนแอร์ออกไป คนก็จะมาด่าว่าเรื่องที่ผ่านไปแล้ว จะเอามาพูดทำไม แต่พอมันเป็นรายการที่เขามาถามเรา เราก็เลยต้องตอบ และจะไม่ชอบพูดอะไรที่แบบว่าเป็นพี่น้องกัน ไม่ชอบคำนี้ รู้สึกว่าคำนี้ดูประหลาดเหลือเกิน กลับกลายว่าเด็กสมัยใหม่เดี๋ยวนี้ไม่ยอมพูดความจริง ซึ่งถ้าคบกันจริงก็เรียนรู้กันไป จะมาพี่น้องอะไรกัน บ้าบอ (ยิ้ม) และมันจะทำให้ภาพพจน์เสียอะไร วงการทุกวงการก็ต้องมีแฟน เรียนมัธยมก็ต้องเคยมีแฟน แต่ถ้าคบกันไม่ได้ก็จบไปสิ ไม่เห็นจะต้องมาโกหกอะไรเลย”
“ตอนนั้นคือเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย เราก็นึกว่าของจริงไง (ทำหน้าตาจริงจัง) และก็มีเพื่อนมาบอก แต่เราก็ไม่เข้าใจ เพราะเราอยู่ในโลกของเรา ซึ่งเพื่อนบอก เพื่อนเตือน แต่เราก็ดื้อรั้น สุดท้ายแล้วเวลาเป็นสิ่งที่ช่วยสอนเราเอง ว่ามันไม่ใช่ ก็เลยจบลงไปอย่างสวยงาม แต่เขาอาจจะไม่จบสวยเหมือนที่เราคิด เพราะเขาเคยพูดออกสื่อว่าทุกชาติไปอย่าให้เจอเราอีกเลย แต่ตอนนี้ก็เข้าใจคำว่าพี่น้องแหละ เพราะเราก็รักเขาแบบพี่รักน้องจริงๆ แต่เราก็อยากเจอเขานะ”
“ที่อยากเจอเขา ก็เพราะเขาเป็นคนน่ารักดี ตลกดี ไม่มีพิษมีภัยอะไร เพียงแต่ส่วนตรงนั้นมันเกิดขึ้นเอง เราไม่สามารถไปควบคุมได้ และส่วนตรงนั้นมันอาจจะเกิดขึ้นเอง เราคิดไปเองหรือเปล่า ว่าเขาชอบเรา แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้”
เมินฟีดแบ็กไม่ดีเพราะบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์ ย้อนทำไมไม่ยอมรับความจริง อะไรจริงอะไรปลอมต้องยอมรับ อย่าสร้างสตอรี่
“ทำไมไม่ยอมรับความจริงล่ะ เพื่อนเราก็มีเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด มีตั้งเยอะแยะ เขาไม่อยากเปิดก็ไม่เป็นไร เราว่ามันน่ารักดี เราก็เลือกในสิ่งที่เราอยากเป็น เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดหมดแหละ”
“และถ้าใครจะบอกว่าเราเอาเรื่องเก่ามาพูด บอกเลยว่าคนเราทำอะไรไว้ มีชนักติดหลังเอาไว้ และเวลาถามอะไร อันไหนเราตอบได้ก็ตอบไป แต่เราเองก็ไม่อยากพูดของเก่า แต่พอดีทางรายการเขาถามมา เราก็ตอบไป แต่พอเราบอกว่าไม่อยากตอบ คนที่ดูอยู่ทางบ้าน เขาก็ต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงสิ เราต้องการเคลียร์ คนเราต้องยอมรับความจริงถึงจะอยู่ได้ และความจริงคืออะไร อย่าสร้างสตอรี่มันขึ้นมา”
“จะแกรนด์หรือไม่แกรนด์ ก็แล้วแต่ความสบายของเขา ถ้าน้องเขาไม่โกรธ เราก็โอเค แต่เราไม่เคยโกรธเขาเลย แต่อย่างที่บอกว่าเราอยากเจอ เขาเป็นน้องที่น่ารักนะ เป็นคนที่อุปนิสัยเยือกเย็นน่ารัก ถ้าได้เจอก็อยากจะถามว่าสบายดีนะ”