“นิโคล” ปลื้มใจ น้ำตาไหลทุกครั้งที่มีโอกาสได้ร้องเพลงที่สื่อถึง “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ยอมรับใจหาย แต่ดีใจที่เห็นภาพคนไทยรักและสามัคคีกัน เชื่อพ่อมองลงมาจากฟ้าแล้วก็ยิ้ม บอกทำความดีไม่ยาก แค่เริ่มที่ตัวเอง เป็นรากฐานที่พ่อหลวงวางไว้ให้ลูกทุกคนด้วยความรัก ส่วนลูกชาย “น้องทิกเกอร์” ต้องรับรู้ ทำไมทั่วโลกถึงเคารพรักพระองค์
การที่ได้มาเป็นนักร้อง เป็นนักแสดงอย่างที่ฝัน และมีคนชื่นชอบในผลงาน แค่นี้สาว “นิโคล เทริโอ” ก็เผยว่าดีใจมากแล้ว แต่สิ่งที่ดีใจและตื้นตันยิ่งกว่าคือการได้มีโอกาสขับร้องเพลงที่เกี่ยวกับ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ซึ่งทุกครั้งที่ได้ร้องเพลงเหล่านั้นก็จะมีน้ำตาแห่งความรัก ความคิดถึง และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่านอยู่เสมอ
“ภูมิใจนะคะ ทุกครั้งที่กี้ได้ร้องหรือมีส่วนร่วมในการร้องเพลงที่น้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ถือเป็นการส่งต่อไปถึงคนอื่นๆ ด้วย ทุกครั้งที่ร้องก็ขนลุกนะคะ คือเราจะนึกถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำ คือบรรยายไม่หมดจริงๆ ว่าท่านทรงทำอะไรเพื่อประชาชนของท่านบ้าง ที่เรามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะพระองค์ท่านวางรากฐานเอาไว้ให้ และสร้างไว้ให้ทุกอย่างแล้ว ท่านเป็นพ่อที่เป็นห่วงลูกๆ ทุกคนจริงๆ ค่ะ”
“ก็ใจหายนะคะ 1 ปีที่ผ่านมาเราทุกคนเศร้าจริงๆ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงนะคะ ทุกวันนี้สิ่งที่เห็นก็คือคนไทยรักกัน สามัคคีกัน ช่วยเหลือกัน กี้เชื่อว่าถ้าพ่อได้มองลงมาจากฟ้าท่านคงยิ้มแน่นอน พ่อต้องดีใจที่เห็นลูกๆ รักสามัคคีกันและรักท่านมากขนาดนี้ ตลอดช่วงที่ผ่านมาเราได้เห็นสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน และก็อยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไปค่ะ”
บอกการสานต่อความดีไม่ใช่เรื่องยาก แค่เริ่มจากตัวเองอย่างที่พ่อสอน
“จริงๆ แล้วกี้ได้มีโอกาสอยู่ในงานที่ท่านเสด็จ 2-3 ครั้งนะคะ ถือเป็นบุญในชีวิตมาก คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทรงทำกี้เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ทุกบ้านต้องมีพระบรมฉายาลักษณ์ของท่าน บอกไม่ถูกว่าทำไมเราถึงรักท่านมากขนาดนี้ กี้ก็บอกต่อและสอนไปถึงลูก ไม่ใช่ไปบอกว่าต้องรักท่าน แต่เขาจะรับรู้เองว่าทำไมคนทั้งประเทศ รวมถึงทั่วโลกถึงให้ความเคารพรักท่านมากขนาดนี้”
“จริงๆ การสานต่อความดีไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่การทำความดี ไม่คิดเบียดเบียนคนอื่น คือเริ่มจากตัวเอง คำสอนของพ่อไม่มีอะไรที่ยาก ท่านสอนให้เริ่มจากตัวเองทั้งนั้น ทั้งความพอเพียง ความซื่อสัตย์ หรือการทำงานอะไรต่างๆ เยอะแยะมากมาย เดี๋ยวนี้โลกโซเชียลไปไกลมากค่ะ เราจะได้รับรู้ ได้เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับคำสอนของท่านหรือพระราชกรณียกิจทุกอย่างของท่าน บางอย่างเห็นแล้วเรายิ้ม บางอย่างเห็นแล้วน้ำตาไหลมาเองก็มี เพราะเราไม่คิดว่าท่านที่เป็นถึงพระมหากษัตริย์จะต้องทรงมาทำอะไรขนาดนี้”