“อ่ำ อัมรินทร์” ตั้งใจที่สุดในชีวิต ปลงผมบวชครั้งที่ 2 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง ร.๙” เผยอยากบวชตั้งแต่ 4 ปีก่อนแต่ยังไม่สงบ ก่อนหน้านี้ก็มีร่างกายที่ไม่อยากให้ใครเห็น บอกมือเหมือนคนจมน้ำตายเพราะโรคเก๊าต์ ด้านอดีตภรรยาสุดซาบซึ้ง อีกฝ่ายสัญญาอะไรที่ผิดพลาดในอดีตจะไม่ทำอีก บอกมีสิ่งที่พูดไม่ได้ แต่เห็นความตั้งใจที่ดี
นักร้องนักแสดงรุ่นใหญ่ “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” ตัดสินบวชเป็นครั้งที่ 2 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 23 ต.ค. โดยอ่ำได้เข้าร่วมพิธีอุปสมบทหมู่พระภิกษุสามเณร 30 รูป ที่วัดทุ่งเศรษฐี ปลงผมในเวลา 12.00 น. บรรยากาศวันนี้มีครอบครัว รวมถึงอดีตภรรยา “จอย อัจฉรียา อังคสุวรรณศิริ” และลูกสาว “น้องแอลลี่” พร้อมด้วยเพื่อนฝูงในและนอกวงการมาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยอย่างอบอุ่น โดยอ่ำมีสีหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุข ในวันดีๆ ของตนเองวันนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้พิธีอุปสมบทจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ต.ค. โดยอ่ำเปิดใจว่า
“วันนี้เป็นวันที่ตั้งใจดีที่สุดในชีวิตก็ว่าได้นะครับ ยิ่งกว่างานใดๆ ที่ผ่านมานะครับ ในชีวิตนี้เคยผ่านการบวชมาแล้ว ตอนนั้นก็คงจะไม่ได้ซาบซึ้งเพราะว่ายังไม่นิ่งสงบพอ แต่พอมาครั้งนี้อายุ 49 แล้ว ต่างจากอายุ 21 เยอะ ในการที่มีเป้าหมาย ในการที่จะมาศึกษาพระธรรมและในช่วงนี้ในวาระที่พี่น้องชาวไทยได้ร่วมกันทำงานทำการทำกิจนี้ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต่างคนก็ต่างมีจิตใจที่แตกต่างกันออกไปในการที่จะตั้งใจทำในสิ่งอันใด แต่ผมคิดว่ามีหนึ่งเดียวก็คือความรักและความตั้งใจที่อยากจะทำอะไรให้กับพระองค์ท่าน แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะผมก็คิดว่าตราบสิ้นลมหายใจนี้ก็คงจะทำอะไรดีๆ ต่อจากนี้ไปคืนกลับให้กับแผ่นดินไทยที่มีธงไตรรงค์ของเราที่เราจะต้องยึดถือกันต่อไปทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ครับ”
“คือความอยากที่จะบวชคืออยากบวชมานานแล้วครับ แต่ก็ยังไม่มีโอกาส เนื่องจากเราเองก็อาจจะยังไม่สงบ เมื่อ 3 - 4 ปีก่อนก็อาจจะมีเรื่องราวอะไรต่างๆ นานาที่ทำให้รบกวนใจที่ทำให้ไม่นิ่ง และมีเรื่องของโรคภัยในร่างกายของตัวเองที่เป็นโรคเก๊าต์ก็ทำให้เดินไม่ได้ ผ่านมาก็เป็นเรื่องของภาระต่างๆ ที่ยังแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ พอผ่านพ้นมาร่างกายดีขึ้น สภาพจิตใจดีขึ้น การงานที่ได้ทำก็ถ่ายละครของทางช่อง 3 เรียบร้อยแล้ว ถ่ายหนังของพี่พชร์ อานนท์เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่คิดว่าว่างพอที่จะได้ทำอะไรดีๆ บ้าง ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะบวช คือคิดได้วันที่ 8 ก.ย. เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่จะมีพระราชพิธี และเห็นว่าในโครงการของวัดต่างๆ มีการอุปสมบทหมู่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน ก็เลยตั้งใจ ตัดสินใจและก้มลงกราบพระแม่ธรณีขอถวายสัจจะในการทำกิจนี้ครับ”
บอกคนรอบตัวมีแต่ความปิติ 7 วันหลังจากนี้จะตั้งใจที่สุด
“บอกกับแม่หลายครั้งแล้วว่าจะบวช ก้มลงกราบท่านหลายครั้งแล้วแต่ก็มีปัญหาที่ทำให้ไม่ได้บวช แต่ครั้งนี้มีความตั้งใจแน่วแน่และก้มลงกราบท่านบอกท่าน ท่านก็มีความปลื้มปิติ บอกคุณพ่อก็มีความปลื้มปิติ บอกครอบครัวก็คือคุณจอยกับแอลลี่ก็มีความปลื้มปิติ ทุกคนมีแต่ความปิติ เพื่อนๆ ทุกคนที่มาในวันนี้ ที่ไม่มีโอกาสได้มาในวันนี้ก็มีความปลื้มปิติซึ่งกันและกันในการที่ผมตั้งใจทำในครั้งนี้ครับ”
“ที่ตั้งใจบวชในโครงการนี้ที่วัดทุ่งเศรษฐีในวันที่ 23 ต.ค. จะมีการปลงผมในวันนี้ พรุ่งนี้ตอนตี 5 จะมีการบวชในโบสถ์ เสร็จประมาณสัก 10 โมงก็ตักบาตรพระใหม่กัน และในวันที่ 31 ต.ค.ก็เป็นฤกษ์ลาสิกขาครับ ก็มีพระหลายรูปหลายท่านบอกว่าอยากให้บวชต่อ แต่คิดว่าเดี๋ยวไปสะสางงานที่ตั้งใจให้เป็นไปตามขั้นตอนก่อน และเดี๋ยวถ้ามีโอกาสอีกก็จะได้มาร่ำเรียน แต่ในครั้งนี้ 7 วันที่จะบวชก็มีความตั้งใจมาก เพราะว่าที่วัดนี้ก็มีการฝึกปฏิบัติอะไรหลายๆ อย่างที่เราได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะการทำสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน หรือว่าจะเดินจงกลมในรูปแบบต่างๆ หรือว่าจะเป็นการเทศน์ก็ดี ได้รับรู้เรื่องราวที่ขัดเกลาจิตใจได้รวดเร็วมาก มีความเข้าใจได้เร็วมากในการที่เราจะได้อะไรออกไปครับ”
ตั้งใจศึกษาพระธรรม รับก่อนหน้านั้นมีร่างกายที่ไม่อยากให้ใครเห็น มือเหมือนคนจมน้ำตายเพราะโรคเก๊าต์
“ก็นัดกับจอยกับแอลลี่ไว้ว่าให้มาดูหน่อยนะ เดี๋ยวพ่อจะหัวเหม่งแล้ว (ยิ้ม) เขาก็ดีใจที่เห็นสภาพผมดีขึ้น ชีวิตผมดีขึ้น มีความเข้าใจขึ้น เพราะว่าเมื่อก่อนนี้ร่างกายนี่ไม่อยากให้ใครเห็นเลยครับ มันเหมือนเปรต มือเหมือนคนจมน้ำตาย กินอะไรก็กินไม่ได้ เพราะว่าเป็นเก๊าต์ มันต้องคอยระวังอาหารแสลง และกว่าพิษที่ร่างกายที่มันสะสมไว้จากอาการเครียดมันก็สะสม กว่าจะหลุดออกไปได้มันก็นาน เพราะฉะนั้นแล้วหลังจากนี้ไปขอให้ทุกคนได้มีแต่ความสุขความเจริญ ร่วมอนุโมทนาบุญกับผมด้วยนะครับ และมีโอกาสก็เข้ามาวัด มาศึกษาธรรมะบ้าง และจะได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยู่และมีความสุข ในการที่เราอาจจะหลุดพ้นเป็นบางช่วงของความทุกข์ และเดี๋ยวเราก็จะเจอเรื่องราวอะไรใหม่ๆ และเราก็จะตั้งรับมือกับมันได้ในเหตุการณ์แห่งทุกข์นั้นให้มันผ่านพ้นไปด้วยดีครับ ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ”
ด้านอดีตภรรยาก็เผยว่าตื้นตันไปกับอีกฝ่ายด้วย สัญญาหลังบวช อะไรที่ผิดพลาดในอดีต จะไม่ทำอีก
“ปลื้มใจและตื้นตันใจไปกับเขาด้วย เห็นความตั้งใจของเขาจากการที่เขาเตรียมตัวมีการฝึกซ้อมการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและเขาตั้งใจมาก ถามว่าเขาบอกนานหรือยังว่าจะบวช จริงๆ อัปเดตมาเรื่อยๆ นะ แต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงสองถึงสามครั้งนะ เปลี่ยนวัดเปลี่ยนอะไรนะ แต่ว่าจอยดีใจที่เขาได้บวชในสถานที่ๆ เขาสุขใจแล้วก็สามารถปฏิบัติได้อย่างเต็มที”
“ตอนแรกแอลลี่ค่อนข้างกลัว ทำตัวไม่ถูก ถ้าบวชเป็นพระแล้วเขาจะจับไม่ได้ ปกติเวลาเขาสองคนเจอกันเขากอดกัน หอมกัน จอยบอกเขาว่าไม่ต้องกลัวเพราะว่ามันเป็นความตั้งใจของป๊ะป๋า เราก็ต้องร่วมอนุโมทนาบุญกับเขาด้วย จริงๆ เมื่อกี้จอยได้คุยนะหลังจากที่เขามาฝึกปฏิบัติเขาก็รู้สึกว่าอะไรก็ตามที่เขาเคยทำผิดพลาดในอดีต เขาตั้งใจว่าเขาจะไม่ทำอีก เขารู้ว่าอะไรก็ตามที่ไม่ดีมันมีผลกระทบกับชีวิตเขาและคนรอบข้างที่เขารัก ซึ่งตรงนี้จอยดีใจกับเขามาก แล้วเขาตั้งใจเต็มที่นะว่าเมื่อเขาสึกออกมาเขาเปลี่ยนพฤติกรรมที่มันไม่ดี ความดีของเขาที่เขาเคยทำเขาจะทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป”
“เมื่อได้ฟังแบบนี้จอยเองรู้สึกโล่งใจด้วย คือบางที่อะไรบางอย่างมันพูดไม่ได้ แต่เมื่อเราเห็นความตั้งใจของเขา อย่างน้อยเขารู้ แล้วเขาตั้งใจที่จะทำให้ออกมาดีที่สุด อย่างแรกเลยเป็นการถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วให้พ่อแม่เขา คือก่อนหน้านี้เขาก็เคยบวชมาแล้ว บวชแบบเด็กๆ วิ่งไปวิ่งมา อันนี้เขาตั้งใจมาก เขาบอกว่าอย่างเมื่อวานนี้ทางวัดมีให้ฝึกกราบ แล้วค้างไว้ 20 นาทีแล้วให้ระลึกถึงพระคุณของแม่ เขาบอกหลังจากที่เขากราบไป เขารู้เลยว่าการที่เขาทำตัวไม่ดีและทำให้แม่เสียใจมันแย่ขนาดไหน แค่ฝึกยังไม่ได้เป็นพระเลย ความคิดเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาก็สุดๆ คิดว่าเขาน่าจะได้อะไรจากการบวชครั้งนี้อย่างมาก”
ด้าน “น้องแอลลี่” กล่าวสั้นว่า “รู้สึกดีใจแทนป๊ะป๋า (หัวเราะ) หนูไม่รู้จะพูดอะไร เรื่องใส่บาตรน่าจะมาใส่นะ”
