ผู้อำนวยการสร้างชื่อดังที่ได้ชื่อว่าเป็น "เจ้าพ่อ" รางวัลออสการ์ ต้องถูกสถาบันฯ ที่เป็นผู้มอบรางวัลสำคัญที่สุดในวงการหนังเขี่ยออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว หลังพฤติกรรมฉาวโฉ่ที่ว่าเขาลวมลามนักแสดงสาวมากมาย กลายเป็นประเด็นข่าวขึ้นมา
ฮาร์วี ไวน์สตีน ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลักดันหนังให้ได้รับรางวัลออสการ์ และเคยมีชื่อชิงเกียรติยศสำคัญที่สุดของฮอลลีวูดในฐานะผู้อำนวยการสร้างของหนังมาแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับถูกสถาบันศิลปะ และวิทยาการภาพยนตร์แห่งอเมริกันขับออกจากการเป็นสมาชิกขององค์กร แน่นอนว่าเพราะประเด็นฉาวโฉ่ที่ว่า ไวน์สตีน มีพฤติกรรมทางเพศอันเลวร้ายต่อผู้หญิงมากมาย
"คณะกรรมการของสถาบันศิลปะ และวิทยาการฯ ได้มาประชุมกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่มีต่อ ฮาร์วี ไวน์สตีน และได้มีการโหวตลงมติ ซึ่งมีคนเห็นพ้องต้องกันถึง 2 ใน 3 ให้ขับเขาออกจากการเป็นสมาชิกของสถาบันฯ" ตัวแทนของสถาบันศิลปะ และวิทยาการฯ กล่าว
"เราคงไม่สามารถที่จะไปเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ไร้คุณธรรม และไม่เคารพต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งยังเป็นเหมือนซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ ยังจะเป็นการส่งสารว่ายุคสมัยแห่งพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศอันโง่เง่า และน่าอายในวงการของเรามันได้จบสิ้นไปแล้ว .... ประเด็นสำคัญก็คือปัญหาที่ร้ายแรงลักษณะนี้ ต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ซึ่งคณะกรรมการจะพยายามช่วยสร้างมาตรฐานในวงการ เพื่อให้สมาชิกของสถาบันฯ ต้องยึดถือปฏิบัติตามต่อไป"
ฮาร์วี ไวน์สตีน เคยคว้าออสการ์ในการอำนวยการสร้างหนังเรื่อง Shakespeare in Love และยังผลักดันให้นักแสดงคว้ารางวัลได้มากมาย จน เมอริล สตรีพ เคยเรียกเขาว่าเป็น “พระเจ้า” มาแล้ว แต่ตอนนี้ผู้อำนวยการสร้างระดับตำนานกำลังจะไม่มีที่ยืน หลังตกเป็นจำเลยของฮอลลีวูด เมื่อมีนักแสดง และผู้หญิงที่ทำงานในวงการหนังหลายคนออกมากล่าวอ้างว่าพวกเธอเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมาหลายสิบปี จนทำให้เขาถูกบริษัท The Weinstein Company ที่ตนเองเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นไล่ออก โดยตัวของ ไวน์สตีน ได้อ้างแบบที่หลายฝ่ายมองว่าฟังไม่ค่อยขึ้นว่า “ผมเติบโตมาในยุค 60s และ 70s ซึ่งเป็นตอนที่กฎระเบียบกับการปฏิบัติตัว และกฎในที่ทำงานแตกต่างจากตอนนี้ ... มันเป็นวัฒนธรรมของตอนนั้น”