เอาจริง! นักร้องสาว “นิว นภัสสร” หนึ่งในดูโอหญิง “นิว - จิ๋ว” ควักเงินซื้อที่ดินที่บ้านเกิดปลูกข้าว ทำนา พัฒนาชุมชน ตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง เจ้าตัวหวังให้เกษตรกรเห็นคุณค่าตัวเอง
ทำงานในเมืองกรุงได้สตางค์เยอะ แต่ยิ้มไม่กว้างเหมือนอยู่บ้านเรา นักร้องสาวเสียงดี “นิว นภัสสร ภูธรใจ”หรือที่รู้จักกันในนาม “นิว - จิ๋ว” เลยลงทุนซื้อที่ดินจัดทำโครงการ Brandnew Field Good ที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ ปลูกผัก ทำนา ตามคำสอนหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โดยงานนี้แม้เจ้าตัวจะไม่เคยทำนมาก่อน แต่สาวนิวก็ตั้งใจจะมากที่จะลงมือทำเพื่อให้ชาวนาเกษตรกรและประชาชนได้เห็นคุณค่าความสำคัญอาชีพทำนาที่เป็นอาชีพหลักของคนไทยมาช้านาน
“จริงๆ แล้วนิวเติบโตมาในครอบครัวของชาวนานะคะ คุณตา คุณยาย คุณแม่ ก็ยังอยู่ในเจนเนอเรชั่นที่เป็นชาวนา แล้วเราก็อยู่ในรุ่นที่เป็นเด็กๆ วิ่งตามคันนา พอเรามีสะตุ้งสะสตางค์ เราก็อยากเอามาพัฒนาพื้นที่ชุมชน ซึ่งเราคิดว่าก็คงไม่ค่อยมีใครบ้าทำอะไรประมาณนี้สักเท่าไหร่ เราคิดว่าถ้าเราสามารถเป็นตัวอย่าง เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง”
“คือ สำนึกรักบ้านเกิด มองถึงชุมชน แล้วก็ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ลองมาใช้ชีวิตในแบบที่พ่อแม่เราเคยเป็น นั่นก็คือเป็นชาวนา เราลองลงมาทำ หลายๆ คนก็รู้สึกว่าการทำนามันก็เป็นศิลปะในการใช้ชีวิตแบบชาวไทยอย่างหนึ่ง นิวคิดว่านิวสนุกกับการที่ได้ทำ ก็สนุกกับการที่ได้บอกกล่าวกับหลายๆคนว่าชีวิตชาวนาเป็นแบบนี้”
“ถามว่า มันยากขนาดไหนในการที่เรากลับไปพลิกผืนนาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในรูปแบบของชาวนาแบบล้านนา ก็มีชาวบ้านเป็นครูของเรา แล้วมีกระบอกเสียงก็คือตัวเรา ที่สามารถจะทำให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าของชาวนา”
“จะยากตรงที่ว่าเป็นเรื่องที่เรายังไม่เคยทำมาก่อนเราเป็นศิลปิน เราใช้ชีวิตศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง ตอนนี้เราเปลี่ยนชีวิตเรามาใช้ศิลปะในอีกชีวิตหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีค่ะ นิวมีความสุขมากๆ กับการได้คลุกคลีกับชาวบ้าน”
บอกไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ที่เห็นเยอะเพราะเกิดจากการรวมตัวของคนหลายๆ ภาคส่วน
“พอนาของเรามีรวงข้าวเติบโตให้ได้เก็บเกี่ยวแล้ว บางคนอาจจะคิดว่าเป็นนักร้อง เป็นดารา มีตังค์ รวยใช่ไหมถึงมาซื้อนาชาวบ้าน ไม่ใช่นะคะ ที่ทุกคนเห็นนาของนิวมีแค่นิดเดียว นอกนั้นก็จะมีทั้งนาของชาวบ้านและนาของวัด ซึ่งทุกคนรวมตัวกันพอรวมตัวกัน มันก็เกิดเป็นผืนนาที่ใหญ่และสวยงามมากค่ะ นิวไม่ได้บอกว่าทั้งหมดนี่คือนาของนิว ไม่ใช่ค่ะ”
“สิ่งที่ทำให้เราสามารถทำให้ชาวบ้านมารวมตัวเพื่อทำตรงนี้ได้ คือ การเป็นคนไทยค่ะ คำว่าคนไทย รากเง้าของคนไทยคือการเป็นเกษตรกรรม การเป็นเกษตรกร และก็การใช้ชีวิตอย่างเป็นศิลปะ เราก็เลยอยากจะนำเสนอในมุมนี้ให้อีกหลายๆ คนที่ไม่เคยมาสัมผัส สิ่งแรกคือเราต้องสัมผัสก่อน”
“เราต้องรู้เอง เราต้องมาใช้ชีวิตและลงมือทำจริงๆ เราถึงจะสามารถบอกต่อกับเขาได้ ซึ่งตอนนี้นิวกับต้นข้าวอยู่เรียนรู้กันมา 1 ปีกว่าๆ แล้ว นิวไปอยู่กับเขาเลย อยู่กับชาวนา นอกจากนาแล้วก็จะเป็นถั่ว เป็นดอกไม้ที่ปลูกเวียนกันต่อไป ตามที่ในหลวงเคยดำรัสไว้ว่าผืนนาถ้าจะให้ดีต้องปลูกอะไรบ้าง”
“เราก็ดำเนินตามที่พระองค์ท่านได้สอนไว้ ไม่ใช่ปลูกแค่ข้าว หรือเผาหน้าดิน แบบนี้ไม่ได้ เราได้เรียนรู้ได้รับทราบมาอยู่แล้วว่าท่านบอกกับชาวไทยหลายๆ อาชีพ ทั้งเป็นการทำประมง หรือชาวนานชาวสวน ท่านบอกท่านสอนหลายๆ อย่าง เราก็นำความรู้นั้นมาบอกต่อกับชาวบ้านได้ แล้วเราก็เรียนรู้เองด้วย”
เผยได้เห็นมุมมองชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะรอยยิ้มที่กว้างขึ้น
“มุมมองชีวิตเราเปลี่ยนไปค่ะ เราอยู่ในเมืองมันได้เงินได้สตางค์ก็จริง ความสุขก็เป็นอีกแบบหนึ่ง แต่การกลับไปที่บ้านเกิดการกลับไปใช้ชีวิตที่ไม่ต้องอะไรมากมาย ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ต้องแต่งตัวหนักๆ แต่รอยยิ้มมันกว้างกว่าเดิมก็คือชาวบ้านเขาแฮปปี้ที่ได้เห็น มีแขกอื่นๆ ของนิวแวะเวียนมาเที่ยว มาดูแปลงนา มาทำบุญ”
“ที่นิวตั้งใจจริงๆ ก็คือ อยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวเชียงใหม่มาทางเส้นทางหางดง ได้มาทำบุญกับวัดบ้านปง แล้วก็ได้มาดูนาและการเกี่ยวข้าวโดยใช้คนจริงๆ ไม่ใช้เครื่องจักร ก็ต้องใจให้เป็นแปลงนาสาธิต แล้วก็อยากให้ชาวนาชาวบ้านที่นั่นเห็นคุณค่าของตัวเองว่าขนาดดาราหรือว่าแฟนคลับเรายังอยากรู้จักกับเขาเลย”
“เขาก็ต้องหวงแหนกับชีวิตและอาชีพของเขา นิวไม่อยากให้คนไทยละทิ้งอาชีพชาวนาหรือเกษตรกรรม เพราะนี่คืออาชีพหลักของคนไทย อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่นิวว่ามันคุ้มค่า แล้วความเหนื่อยของเราอาจจะสามารถพัฒนาเป็นข้าวในรูปแบบอื่นๆ จากข้าวที่เราหุงกินกันอย่างเดียว มันทำอะไรได้อีกเยอะเลยถ้าหากว่ามีคนไปสอนเขา”
ปลื้มได้รับความร่วมมือเป็นอย่างมาก
"“ถามว่า ณ วันนี้ชาวบ้านให้ความร่วมมือขนาดไหน ก็มากค่ะ เขาสอนการดำนา ปลูกนา สอนการจับปูนา คือเขาใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย เขาพอเพียงมาก จับปูจับปลามาทำอาหาร อาหารมีแค่ไม่กี่อย่างแต่ก็มีความสุข ทำไมคนเราต้องมีอาหารเป็นสิบยี่สิบอย่างในแต่ละมื้อ”
“บั้นปลายชีวิตของเราอาจจะไปเป็นเกษตรกรไหม เราไม่กล้าพูดเต็มปาก แต่เราจะพยายามทำให้ได้ เป็นเกษตรกรในรูปแบบใหม่ให้ได้ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นเกษตรกรเต็มตัว แต่เราจะทำให้เกษตรกรไทยภูมิใจในตัวของเขาเองให้ได้ค่ะ คำสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านสามารถนำมาใช้กับทุกอาชีพ”
“พอเพียงไม่ได้หมายถึงว่าเงินพอเพียง ทุกคนต้องการเงิน ต้องการกิน แต่ความสุขก็ต้องพอเพียงด้วยค่ะ...”
