“ดิว อริสรา” ถลกกระโปรงเปิดรอยฟกช้ำโชว์ ยันถูกลูกอดีต ส.ส. ทำร้ายร่างกายก่อน แถมอีกฝ่ายยังขู่เดี๋ยวมึงเจอพ่อกู กูจะเอาพ่อมาเล่นพวกมึง ตกใจไปแจ้งความหนังคนละม้วน ท้าเปิดกล้องวงจรปิด ยันถ้าทำผิดจะรับผิดแต่คราวนี้บริสุทธิ์ น้ำตาคลอสังคมตัดสินจากความผิดพลาดในอดีต กร้าวถ้าเป็นดิวคนเก่า คู่กรณีไม่มีทางรอดมายืนอยู่ถึงวันนี้ ก่อนยอมรับรัก “ไผ่ วันพ้อยท์” มีปัญหา เดินหน้าง้อ
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขี้นมาทันที หลังจากที่ทุกสื่อตีข่าวนางร้ายอักษรย่อ ด. ทำร้ายร่างกายลูกสาวอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จนขึ้น สน. ลงบันทึกประจำวัน รับหวาดกลัวหลังนางร้าย ด. โทรศัพท์ข่มขู่จะทำร้าย ซึ่งสาเหตุแค่เดินชนกันในผับย่านทองหล่อ โดยหลายฝ่ายก็พากันโยงว่าเป็น “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ซึ่งเจ้าตัวตั้งโต๊ะแถลงด่วนในเวลา 18.00 น. วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ maddox house studio สุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมศรี 1) ชั้น 2 โครงการ Parc39 พร้อมถลกกระโปรงโชว์รอยช้ำถูกคู่กรณีทำร้าย และหลักฐานที่ถูกจิกหัว รวมไปถึงใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าถูกทำร้ายจริง ซึ่งงานนี้สาวดิวถึงกับน้ำตาซึม ที่ถูกสังคมเอาอดีตมาเป็นตัวตัดสินว่าเป็นคนลงมือทำร้ายอีกฝ่ายก่อน
“เอาเรื่องทั้งหมดเลยนะ จากกระแสข่าวทั้งหมดทุกคนก็คิดอยู่แล้วว่าเป็นดิวใช่มั้ย แต่สิ่งที่ดิวอยากจะบอกว่าสิ่งที่ได้รับข่าวสารมา ดิวต้องเป็นคนทำ แต่เรื่องจริงไม่ใช่แบบนั้น สำหรับเรื่องจริงๆ เรามาย้อนเหตุการณ์ทั้งหมดเลยแล้วกันนะ ปกติเลยดิวใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ออกไปเที่ยวสังสรรค์เจอเพื่อน วันนั้นดิวเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเดินไปมีรุ่นพี่สองคน ตามด้วยรุ่นน้องดิวอีก 2 คน ดิวคือคนกลาง เข้าไปตามปกติเป็นซอยที่จะเข้าห้องน้ำ เสร็จปุ๊บ และเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วว่าสถานที่แบบนี้คนจะเยอะ เราก็หยุดรอ”
“ระหว่างดิวหยุดรอมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมากับบอดี้การ์ดตัวใหญ่ๆ ใส่สูท แล้วก็ชนดิว พอชนดิวเสร็จปุ๊บ เวลาที่ชนกันก็จะเบียดๆ ผลัดกันชนๆ กันอยู่แล้ว ดิวไม่คิดอะไรอยู่แล้ว พอชนปัง ดิวก็ผลัก พอผลักเสร็จดิวคว้ามือรุ่นน้องดิว พอหันไปคว้า เท่านั้นแหละ ดิวก็ถูกจิกหัวไปเลย ดิวโดนจิกหัว”
เล่านาทีถูกคู่กรณีจิกหัว กระชากแขน โดนกดคอจะติดกับพื้น โดยไม่มีใครเข้ามาช่วย
“ยังไม่ทันตั้งตัวใดๆ ทั้งสิ้นนะ เหมือนดิวโดนดึงกลับไป ตามสัญชาตญาณมือเรายังว่างอยู่ แต่ว่าเราโดนกดหัวอยู่ ปวดคอมาก โดนกดคอจนจะติดพื้นอยู่แล้ว ด้วยความที่เขามีบอดี้การ์ด ดิวเข้าใจบอดี้การ์ดทุกคนตามหลักในสถานที่แบบนั้น บอดี้การ์ดต้องเข้าข้างบอดี้การ์ด กลายเป็นว่าตอนนั้นบอดี้การ์ด 7 - 8 คน เข้ามาหมดเลย แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยดิวทั้งหมดของทางร้านและของน้องเขา”
“ถามมีเรื่องเขม่นกันมาก่อนมั้ย เรื่องจริงคือเขาเป็นเพื่อนกับรุ่นน้องที่ดิวรู้จักเสียด้วยซ้ำ แล้วเขากับดิวเคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ แล้วไม่มีเคยมีปัญหากันเลย ซึ่งมันทำให้ดิวรู้สึกงงว่าคืออะไร แว้บแรกดิวไม่รู้หรอกว่าเป็นเขา เหมือนเราไม่ได้สนใจหรือโฟกัสนะ แล้วพอชุลมุน เพื่อนเราก็อยู่ตรงนั้น เพื่อนดิวโดนการ์ดของที่ร้านผลักออกไปหมดเลย ไม่มีใครช่วยดิวสักคน (ลากเสียง) แม้แต่ตัวการ์ดเองไม่มีใครช่วยดิว จังหวะนั้นดิวโดนจิกหัว ดิวโดนกระชากแขนจากที่ดิวจับเขา ดิวถูกกระชากแขนออก ซึ่งถ้าในรูป (พร้อมโชว์เอกสาร) นี่คือรูปหัวดิวที่ถูกเขากระทำ แล้วยังมีรอยแผล (ชี้ไปที่หัว) จะมีหมดเลย รูปทั้งหมดเป็นรูปที่รุ่นน้องดิวถ่ายไว้ รุ่นน้องถ่ายไว้หมดเลยเพราะว่าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ซึ่งพอบอดี้การ์ดเข้ามาเกี่ยวข้องมันไม่ใช่คนเดียวแล้วน่ะสิ มีทั้งตัวน้องด้วย ตัวดิวช้ำไปหมดเลย เพื่อนดิวก็ไม่มีใครช่วยด้วย บอดี้การ์ดต่างเข้าข้างฝั่งนั้นหมดเลย แล้วหลังจากนั้นรุ่นน้องของดิวที่เป็นผู้ชายกระโดดมากลางวงนั้นแล้วบอกว่าให้เขาปล่อยดิว ตอนนั้นดิวปล่อยเขาแล้ว แต่เขาไม่ปล่อยดิวนะ จนสุดท้ายรุ่นน้องผู้ชายของดิวกัดแขนเขา เขาถึงปล่อย ซึ่งมันก็มีการเคลียร์กัน ดิวตะโกนใส่เขาจริงๆ นะ ดิวพูดตรงๆ จากใจดิวเลยนะ ว่าเฮ้ย มึงเป็นใคร มึงเปรี้ยวมากเหรอ ซึ่งดิวไม่ได้ปิดบังใดๆ ทั้งสิ้นนะ เพราะดิวไม่เข้าใจเหมือนกันนะ ว่าเป็นเด็กต้องมีบอดี้การ์ดเลยเหรอ ดิวยังไม่เห็นต้องมีบอดี้การ์ดเลย ด้วยความรู้สึกของดิวนะ มึงเก๋ามากเลยเหรอ คือดิวฉุน เพราะว่าดิวเจ็บ อีกอย่างดิวไม่ได้ทำก่อนด้วยนะ มันไม่โอเค”
เผยใครข่มขู่ใครกันแน่ แฉคู่กรณีบอกเดี๋ยวเจอพ่อกูแน่ กูจะเอาพ่อมาเล่นพวกมึง
“เขาเองก็ชี้หน้ากลับมานะ มึงจะทำไม ด้วยความเด็กและบอดี้การ์ดรู้ว่าจะต้องมีปัญหากัน ให้เคลียร์กัน และสิ่งที่ดิวจำได้ก็คือ เขาได้ถอดนาฬิกาของเขายื่นให้คนข้างๆ แล้วพูดว่าเก็บโรเล็กซ์ของกูไปซิ แล้วบอกต่อว่าได้ดิ มึงกับกูมาเจอกัน ตามสไตล์เด็ก แล้วดิวว่าจังหวะนั้นเขาเห็นหน้าดิวแล้วว่าดิวเป็นรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาน่าจะรู้จัก แล้วดิวรู้ว่าเขาคือน้องคนนี้”
“ความรู้สึก อ้าว...เป็นเด็กแล้วพูดแบบนี้กับเราด้วยนะ เราก็เป็นธรรมดาที่เราจะไม่พอใจอยู่แล้ว แล้วหลังจากนั้นบอดี้การ์ดรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องกันอยู่แล้ว อารมณ์นั้นดิวก็เจ็บ เขายังซ่าอยู่ บอดี้การ์ดไล่ให้เขากลับไป เขายังไม่พอใจการ์ด เขายังพูดเลยว่าจำไว้นะว่ามึงทำกับกูแบบนี้ แต่ก่อนเขาจะจากไปเขาตะโกนใส่ดิวว่า เดี๋ยวมึงเจอพ่อกูแน่ กูจะเอาพ่อกูมาเล่นพวกมึง ดิวรู้สึกว่าถ้าข่าวออกไปว่าดิวข่มขู่เขา แต่ว่าเขาข่มขู่ดิวไม่ใช่หรือ คือ1ดิวไปเที่ยวดิวไม่มีบอดี้การ์ดนะ 2 ไม่มีใครช่วยดิวนะตอนนั้น”
“ซึ่งตอนที่ชุลมุนนะ คือเขาจิกหัวดิวอย่างเดียวเลยนะ ดิวก็ก้มอย่างเดียว แล้วดิวได้ยินเสียงเพื่อนดิวอยู่ไกลๆ แล้วแรงจิกมันแรงมากจนทำให้หัวดิวโน นานมากจริงๆ แล้วดิวได้ยินเสียงเพื่อนดิวว่ามึงปล่อยๆ เขาไม่ปล่อยนะ เหตุเกิดจากทางที่จะเข้าไปในห้องน้ำ”
ยืนกรานไม่ได้ทำร้ายคู่กรณี แถมอีกฝ่ายสร่างเมายังโทรมาหาเพื่อขอโทษถึง 3 ครั้ง
“ไม่มีเลย ฝั่งเราไม่มีใครช่วยเราได้ แล้วการ์ดก็ประมาณ 8 - 9 คนนะ อยู่ฝั่งเขาหมดเลย ตอนแรกดิวไม่อยากพูดเรื่องนี้เพราะกลัวว่าจะกระทบถึงทางร้าน แต่มันเป็นเหตุการณ์จริง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นทันทีทันใดมีเพื่อนของเขา ได้โทร.หาดิวบอกว่าพี่ดิวอย่าไปถือสาอะไรเลยนะ เขาเมา จบเถอะ สิ่งที่ดิวที่ตอบไปตรงๆ น้องเพื่อนน้องมาจิกหัวพี่ พี่โตกว่าเยอะมากเลย เขาต้องมาขอโทษพี่สิ นั่นคือสิ่งที่ดิวตอบไป และหลังจากนั้น 2 - 3 ชั่วโมงเขาพยายามติดต่อเพื่อนดิวหลายคนมาก ติดต่อเพื่อมาขอโทษดิว ทั้งหมด 3 รอบ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมันมีหลักฐาน แล้วก็ตัวเขาเองโทร.มาดิวเรียบร้อยแล้ว แล้วขอโทษดิวแล้ว”
ลั่นนัดเคลียร์กันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย แค่อยากคุยกันให้เข้าใจ ทำไมถึงทำร้ายตน
“ยอมรับตรงๆ ว่าเพิ่งรู้เมื่อวาน ตอนที่มีพี่นักข่าวโทร.มาหาดิว เขาโทร.มาขอโทษดิวตั้งแต่วันแรกแล้ว เขาส่งข้อความมาว่าขอโทษตั้งแต่คืนวันนั้นแล้ว วันรุ่งขึ้นด้วย ขอโทษทุกวันเลย แต่วันที่เขาโทร.มาแล้วดิวรับสายเองคือวันอาทิตย์ ก่อนที่เขาขอโทษ เขาได้นัดดิวรอบที่ 3 เพื่อที่จะมาขอโทษกัน ซึ่งดิวก็ตอบกับเขาไปว่าโอเค ดิวจะเจอ ดิวอยากเคลียร์อยู่แล้ว แต่คำว่าเคลียร์ของดิว อยากให้สังคมเข้าใจว่า ดิวไม่ได้จะนัดเพื่อไปทำร้ายเขา ความหมายคือเรารู้สึกว่าเราเป็นคนกันเอง เราเคยเห็นหน้าค่าตากัน ดิวไม่เข้าใจว่า ณ ตอนนั้นอาจจะด้วยเพราะเขาดื่มไป หรืออาจจะด้วยอะไรใดๆ ก็ตาม ดิวอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงทำดิวได้”
วอนอย่าตัดสินจากอดีต ผ่านมา 10 ปี มีบทเรียน ไม่จำเป็นต้องตอกย้ำอีก
“เรื่องไปข่มขู่เขา ไม่มีทางค่ะ เพราะดิวชัดเจนตรงนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นกับเขาหรือเพื่อนเขา คือดิวสัญญาว่าจะไม่มีการทำอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แล้วเขาเอาเพื่อนเขามาได้เลย แล้วตัวดิวก็ไม่มีใคร สิ่งที่ดิวพูดออกไปตรงๆ คือน้อง ถ้าพี่ทำ พี่หมา พี่จะให้น้องเรียกพี่เป็นหมาได้เลย นั่นคือสิ่งที่ดิวพูด แล้วดิวก็อยากจะให้ทุกคนลองใช้วิจารณญาณในการตัดสินเรื่องนี้ว่า ถ้าเกิดว่าดิวกำลังจะนัดเคลียร์กับคนๆ หนึ่ง แล้วมาเจอกัน ดิวทำร้ายเขาอีก ดิวคือโง่มากเลยนะ แล้วสิ่งที่ดิวผ่านมาทั้งหมด ดิวไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งสิ้นที่จะไปตอกย้ำอดีตของตัวเองให้ทุกคนที่รู้สึกว่าเราทำแน่ๆ มันคือเรื่องจริง เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ดิวจะทำแบบนั้น เคลียร์ของดิวคือดิวแค่ต้องการเคลียร์จริงๆ บวกกับดิวรู้สึกว่าจากที่น้องมีสติขึ้นหลังจากการดื่มแล้ว น้องเขาเหมือนคนละคน จากเด็กที่รุนแรงมาก แบบโอ้โห ถอดนาฬิกา กลายเป็นคนที่นอบน้อม ดิวก็เลยรู้สึกว่าเขาคงหายแล้วมั้ง หรือมีสติขึ้นแล้ว แล้วตัวเราก็ผ่านอะไรมาเยอะ”
“คือเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นตอนนั้นดิวอายุแค่สิบกว่า ตอนนี้ดิว 27 แล้ว ก็คือ 10 ปี ดิวรู้ว่าบทเรียนของการทำอะไรโดยที่ขาดสติหรือว่ามีอารมณ์มันมีผลกระทบยังไง เพราะฉะนั้นการที่เด็กคนหนึ่งจะมาขอโทษดิว แล้วดิวที่เคยผ่านมาก่อน มันก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องให้โอกาส ให้อภัยเขาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการข่มขู่มันไม่มีหรอกค่ะ การที่คนคนหนึ่งขอโทษเรา คือถ้าเราผิดจริง เขาขอโทษเราทำไม ถ้าเราผิดจริงเขาจะพยายามขอเคลียร์เราทำไม นั่นคือคำถามที่วันนี้เรายังงงอยู่เลย ว่าทำไมผลสุดท้ายแล้วเราโดนแบบนี้”
พร้อมเข้าให้ปากคำ รับตกใจอีกฝ่ายแจ้งความหนังคนละม้วน
“เขาไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ เพราะดิวงงมากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ความเป็นจริงแล้วดิวต้องเป็นฝ่ายแจ้งไม่ใช่เหรอ หรือพ่อดิวก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ต้องข่มขู่เขาเลยเหรอ เป็นเขาหรือเปล่าที่ข่มขู่ดิว ตอนนี้คงต้องรอตำรวจเรียกดิวเข้าไปก่อนตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในซองสีน้ำตาลนี้ที่ดิวเอามา มีหลักฐานทุกอย่างหมดเลยครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นผลตรวจร่างกาย คุณหมอคอมเฟิร์มว่าโดนทำร้ายร่างกายจริง หรืออื่นๆ ที่เป็นหลักฐานอีก ก็พร้อมเข้าไปอยู่แล้วค่ะ”
“เรื่องที่เขาเล่าแบบหนังคนละม้วนนั่นคือสิ่งที่น่าตกใจค่ะ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้โทร.คุยอะไรกับเขาเลย พอเขาขอโทษแล้วกลายเป็นว่าดิวไปทำเขา ดิวก็ต้องกลัวกับการที่จะต้องโทร.ไปคุยกับเขาอยู่แล้วค่ะ”
เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ท้าดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
“ทางร้านก็ขอโทษตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าที่พี่การ์ดต่างๆ มาทำแบบนี้ ก็มาขอโทษทั้งพี่การ์ดทั้งทางร้านค่ะ ส่วนกล้องวงจรปิดมีมั้ยก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ตัวน้องเขาพูดนะคะว่าเขาได้กล้องวงจรปิดมาแล้ว ซึ่งสิ่งที่ดิวตอบกลับเขาไปก็คือให้เอามาเลยค่ะ เพราะดิวมั่นใจว่าดิวไม่ได้ทำอะไรเขาเลย”
ถลกกระโปรงให้ดูรอยช้ำ รับนัดเจอกันยังแอบกลัว อีกฝ่ายเอาพ่อมาขู่
“แขนดิวซ้ำตรงนี้ หัวก็ช้ำตรงนี้ แล้วมีช้ำที่ขาอีก (ลุกขึ้นเปิดรอยช้ำที่ขา) ซึ่งถ้าเป็นขนาดนี้มันแปลว่าดิวโดนหรือเปล่า ดิวถึงบอกว่ามันคือดิวโดน แต่เราก็ไม่ได้ไปตรวจร่างกายวันนั้นเลยนะ แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นเราตั้งสติได้ เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คือดิวก็ต้องเตรียมความพร้อมว่าจะยังไง พูดกันตรงๆ ว่าที่เขาขู่เรื่องคุณพ่อเขา ตอนนัดเคลียร์จริงๆ เขาไม่ต้องกลัวดิวนะ ดิวต้องกลัวเขา ดิวไปจะเจออะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดิวต้องกลัวเขามากกว่าเพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวมึงเจอพ่อกูแน่ เพื่อนๆ ดิวทุกคนยังห่วงเลยว่าเราจะไปกันดีเหรอ เพราะแล้วดิวเป็นคนในสื่อ เราทำอะไรเขาไม่ได้แน่นอน แล้วเขาพูดมาแบบนั้น เราก็มีวูบๆ กลัวๆ เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เห็นเขาอ่อนมา มาขอโทษ เราก็ไม่คิดว่าจะต้องไปแจ้งความ เพราะเดี๋ยวมันก็จะเป็นข่าวอีก กว่าดิวจะลบภาพเก่าๆจนมามีวันนี้ มันเหนื่อยมากนะคะ”
น้ำตาคลอถูกตัดสิน เพราะเป็นนางร้าย เป็นมือตบ วอนสังคมให้โอกาส พยายามพิสูจน์และเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอด
“เรื่องจะไกล่เกลี่ยหรือแจ้งความ ถ้าถามจริงๆ ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยค่ะว่าจะเป็นยังไง จากทุกๆ อย่างที่ออกมามันหนังคนละม้วนเลย พอมันออกสื่อแล้วผลกระทบมันกระทบที่ตัวดิวเยอะ เพราะว่าอดีตของดิวมันเป็นแบบนั้น ถามว่าน้อยใจมั้ยที่คนตีตราว่าเราเป็นดิวมือตบ ก็...ค่ะ (น้ำตาคลอ) ก็รู้สึกว่าดิวต้องออกมาพูดแล้วแหละจากที่มันเกิดเหตุการณ์จริงมันคนละเรื่อง แต่ถามว่าน้อยใจมั้ยมันน้อยใจไม่ได้หรอกค่ะ เพราะมันคือสิ่งที่เราเลือกทำเองและผ่านมันมาเอง แต่สิ่งที่ดิวอยากจะบอกคือดิวไม่อยากให้สังคมตัดสินคนจากอดีตของใครก็ตาม ถูกมั้ย”
“คนเรามันผิดพลาดได้ แต่มันก็เปลี่ยนแปลงได้ ถ้าจะยกตัวอย่างสมมติว่าดิวเป็นคนขโมยของ ดิวโดนจับไปแล้ว ดิวโดนลงโทษไปแล้ว และดิวไปยืนอยู่ในที่ที่หนึ่งซึ่งมีของหาย ไม่ได้หมายความว่าดิวต้องเป็นคนขโมย ดิวรู้สึกว่าสังคมต้องให้โอกาสดิวนิดหนึ่ง ในระยะเวลาที่ผ่านมาดิวก็พยายามพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลง ดิวไม่เคยไม่ยอมรับความจริงใดๆ ทั้งสิ้นในชีวิตดิว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตบที่ผ่านมาถูกมั้ยคะ”
กร้าวถ้าเป็นดิวคนเก่า อีกฝ่ายไม่รอดมาถึงวันนี้
“คือหนูยอมรับจริงๆ ว่าทำ เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้ดิวทำ ดิวจะยอมรับจริงๆ อย่าเอาสิ่งที่ดิวทำมาขยี้ดิวตลอดเวลา อันนั้นมันคือบทเรียน และสิ่งที่ดิวพูดตลอดคือให้ดูการกระทำของดิวแล้วเอาเป็นบทเรียน วันนี้ดิวเอาเป็นบทเรียนและดิวขยาดไปแล้ว ดิวก็ยังให้โอกาสน้องคนนั้นที่มากระชากหัวดิว ถ้าเป็นดิวคนเมื่อก่อนดิวคงโกรธเขาแล้ว ถ้าเป็นดิวคนเมื่อก่อนมันไม่รอดมาถึงวันนี้หรอก ดิวก็คงวิ่งตามไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่วันนี้สิ่งที่ดิวพยายามสร้างและเปลี่ยนแปลงตัวเองมันก็ทำให้ดิวหยุดตั้งแต่วันนั้นและก็รอฟังคำขอโทษ ดิวก็หยุดตั้งแต่เขาโทร.มาขอโทษแล้ว”
“เรื่องนัดเคลียร์ก็ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุการณ์คือคืนนั้น หลังจาก 2-3 ชั่วโมงมีสติก็เกือบจะเช้าแล้ว เขาก็นัดเพื่อจะมาขอโทษตั้งแต่ตอนนั้นเลย ไปๆ มาๆ ก็ไม่ วันรุ่งขึ้นนัดก็ไม่มา แต่วันสุดท้ายเขานัดจะมา แต่ดิวติดงานถ่ายโฆษณาแล้วมันเลทเลิกช้าก็เลยไม่ได้ไป วันสุดท้ายหนูเบี้ยวนัดจริงๆ หนูเลิกดึกแล้วก็เลยไม่ได้ไป”
ลั่นถ้าคู่กรณีขอโทษจะไม่เอาเรื่อง หมดยุคฮึ่มๆ ใส่กัน
“ถ้าเขาขอโทษดิว ดิวก็ไม่รู้ว่าดิวจะต้องเอาเรื่องเขาทำไม ตอนนี้ดิวต้องจูนตัวเอง เพราะดิวยังงง กลายเป็นว่าดิวไปทำเขา แล้วเขามาเอาเรื่องดิว ในความเป็นจริงแล้วทุกอย่างมันต้องเป็นดิวหมดเลย ดิวตัดสินใจจบเรื่องนี้ไปตั้งนานแล้วว่าไม่โกรธกัน แล้วเรามาขอโทษกัน ให้มันจบ ให้มันสบายใจทั้งสองฝ่าย หลังจากนี้เจอกันที่ไหนจะได้ไม่ต้องมาตึงกัน มันหมดยุคที่เจอกันแล้วฮี่มๆ ใส่กัน เราถึงพยายามนัดเคลียร์กันแต่พอวันนี้มาถึงจุดนี้แล้ว กลายเป็นว่าไปแจ้งความดิวทำร้ายร่างกายพร้อมข่มขู่”
“ดิวเลยยังไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ของเขา เขาทำแบบนี้กับดิวเพื่ออะไร ในเมื่อดิวเป็นฝ่ายโดนกระทำ ทุกอย่างมันเห็นๆ กันอยู่แล้ว และสิ่งที่ดิวพูดไม่ใช่แค่คำพูดแต่ทุกอย่างมันมีหลักฐาน อย่าใช้ภาพที่ทุกคนติดว่าดิวเป็นแบบนั้นแบบนี้ หรือบทในละครที่ดิวเล่นเป็นตัวร้ายเอามาทำร้ายดิวแบบนั้นเลย เรื่องจริงกับในละครก็ไม่เหมือนกัน อดีตกับปัจจุบันก็คนละเวลากัน”
“ก็อยากบอกว่าพี่งงค่ะว่าน้องทำอะไรอยู่ เราคงต้องเคลียร์กันค่ะ คุยกันแหละ แต่ก็มันต้องเป็นในเรื่องของกฏหมายอยู่แล้วค่ะ ถามว่าดิวจะเอาเรื่องมั้ย ไม่มีความคิดจะเอาเรื่องเขาหรือว่าอะไร แต่ดิวก็คงต้อง ปกป้องตัวเองเพื่อความบริสุทธิ์ตัวเอง ส่วนหลังจากนั้นดิวเชื่อว่าถ้าน้องดูอยู่ยังไงน้องต้องขอโทษดิว เพราะว่าน้องพูดขอโทษไปแล้ว แต่พอเหตุการณ์เป็นแบบนี้ก็แล้วแต่น้องแล้วกันนะคะ ว่าต้องทำยังไง”
ยันไม่เกี่ยวกับ “ไผ่ วันพ้อยท์” ฝ่ายชายไม่เข้ามายุ่ง แต่พร้อมซัปพอร์ต
“ไม่เลยค่ะ แต่ถามว่าเรื่องนี้พี่ไผ่รู้สึกยังไง เขาก็ไม่พอใจ อยู่แล้ว ไม่พอใจทางการ์ดด้วย ไม่พอใจทุกอย่าง แต่ว่าพี่ไผ่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้หญิง เรื่องของผู้หญิงคือพี่ไผ่เขาเป็นคนมีเหตุผลพอ เพราะว่าเรื่องของผุ้หญิงผู้ชายไม่ยุ่ง ให้ไปเคลียร์กัน แต่ว่าดิวขอความช่วยเหลือใดๆ ก็ตามพี่ไผ่ยินดีพร้อมช่วยและซัปพอร์ต แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นแค่รู้สึกว่าเรื่องของผู้หญิง มันเกิดจาการที่เราไม่มีสติ แต่ว่าพอเราคิดได้ มันก็เข้าใจได้ เพราะว่าตัวดิวเองเรายังต้องการโอกาส แล้วทำไมตอนน้องเขามีสติคิดได้ เขาต้องการโอกาสจากดิว ดิวควรต้องดีกับเขา ดิวคิดแค่นั้นก็ไม่มีอะไร”
“พี่ไผ่เขาพูดว่าถ้ามีอะไรให้เขาช่วยยินดี ขอให้เอ่ยปาก แต่ว่าเราเข้าใจว่ามันจบแล้วนะ เพิ่งมารู้เมื่อวานว่าไม่จบ กลายเป็นว่าดิวไปทำร้ายเขา แต่ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายลงบันทึกประจำวันและโดนขู่พี่ไผ่ทราบแล้ว เขาบอกว่าเรื่องของผู้หญิงให้เคลียร์กัน แต่ถ้ามีผู้ชาย เจอเขา นั่นคือสิ่งที่เขาพูด ไผ่ วันพอยท์ ก็คือ ไผ่ วันพอยท์ จะมาพูดให้หหนุงหนิงมันไม่ใช่ แต่วันนี้สิ่งที่เราเข้าใจ คือมันเป็นเรื่องของผู้หญิง ดิวคิดว่าเอาอยู่ ถ้าน้องขอโทษดิวก็อภัย แต่ตอนนี้มันเป็นบานปลายไปไกลมาก ยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่ถามว่าจะเอาเรื่องมั้ย คงไม่มีแล้ว ถ้าดิวไม่ได้เจ็บอีก ถ้ายังไม่จบหรือกระแสจากคดีความใดๆ ดิวก็พร้อม เพราะดิวมีหลักฐานทุกอย่าง เรื่องนี้ดิวบริสุทธิ์จริงๆ แต่ถ้าไม่จบแล้วดิวโดนอย่างอื่น ดิวฝากพี่ๆ ด้วย ดิวจบที่ตัวของดิวขอให้อภัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องปกป้องตัวเอง อยู่ที่ความคิดน้องเขา ว่าจะขอโทษมั้ย อันนี้แล้วแต่”
รับรัก “ไผ่” มีปัญหา หันมากี่ครั้งก็ยังอยู่ตรงนี้ ควรค่าแก่การง้อ
“ก็ยอมรับว่าที่ผ่านก็มีปัญหากันจริง เพราะด้วยวัยที่มันแตกต่างกัน สังคม กลุ่มเพื่อนที่มันแตกต่างกัน ด้วยอายุ ก็มีปัญหากันจริงๆ และพอปัญหาต่างๆ มันเกิดขึ้น บวกกับปัญหาเรื่องนี้ ทำให้ดิวเห็นว่าเขาก็ยังอยู่ตรงนี้ เขาก็คงโกรธดิว และเขาก็คงไม่พอใจดิวในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องในความซ่าๆ ของดิว และพูดตามประสาดิวก็คือกำลังตามง้อเขาอยู่”
“ก็ยอมว่ามีปัญหา มันเป็นธรรมชาติของคนที่คบกัน เขาก็งอนเรา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องนี้ซะทีเดียว ซึ่งมันอาจจะเป็นปัญหาที่แตกต่างกันด้วยวัย การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน มันเลยทำให้เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น และเราก็เป็นแบบสุดโต่ง เขาก็เลยอวยพรในไอจีเขา (ยิ้ม) ตามนั้น น้องว่าง้อสำเร็จนะคะ ส่วนเรื่องทริปกระชับคงยังไม่ได้คิดหรอก แต่พอเกิดปัญหานี้ขึ้นมา แม้เขากำลังโกรธเราอยู่ หรือเขางอนเราอยู่ แต่พอเราหันมาเขาก็ยังอยู่ที่เดิม เราก็ซึ้งน้ำใจเขาด้วย เขาก็ควรได้รับการง้อของเราไง”
“ถามว่าง้อเสร็จจะแต่งมั้ย เอาเรื่องนี้ก่อนดีมั้ย เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะต้องไปโรงพักหรือเปล่า ก็อุ่นใจที่เขาคอยซัปพอร์ตมากค่ะ และมั่นใจว่าไม่ว่าดิวจะอยู่ในสถานะใดๆ กับเขา เขาทำให้ดิวได้เห็นว่าหันมาเมื่อไหร่ ก็มีเขาอยู่เสมอ ดิวว่าเขาก็ใช้ได้ค่ะ”