xs
xsm
sm
md
lg

อึ้งข่าวร้าย! “น้องสกาย” ลูก “ใจเริง” ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เริ่มลามสมอง ต้องทำคีโมต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แฟนคลับสุดช็อก “น้องสกาย” ลูก “ใจเริง” อาการล่าสุดตรวจพบป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเริ่มลามสมอง ทำคีโมวันนี้วันแรก พ่อเผยหมดค่ารักษาเป็นล้าน แต่ยังใจชื้นหมอบอกมีโอกาสรักษา

กลายเป็นข่าวช็อกใจแฟนๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ล่าสุด รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้เปิดใจสัมภาษณ์คุณพ่อ “น้องสกาย” ดาราเด็ก ที่รับบทเป็นลูกชายใจเริง ในละครเพลิงบุญ ซึ่งผลตรวจก้อนเนื้อบริเวณกระดูกสันหลัง ปรากฏว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และบางส่วนลามขึ้นสมอง วันนี้ (29 ก.ย.) ทำคีโมเป็นครั้งแรก

โดยคุณพ่อเผยว่าหลังจากที่มีการผ่าเอาชิ้นเนื้อตรงไขสันหลังไปตรวจ ซึ่งอาการของน้องเบื้องต้นก่อนไปตรวจ เขาซึมและไม่วิ่งเล่นเหมือนเคย ไม่อยากเดิน ทานอาหารได้น้อยลง ตาบวมเล็กน้อย จนครอบครัวส่งตัวไปแอดมิดที่ รพ. หมอก็รักษา จนมา mri ไขสันหลังถึงทราบ อาการของน้องทรุดเร็วมาก เดินมีอาการเซ สุดท้ายตอนนี้ผลก้อนเนื้อออกมาว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ช่วงแรกเป็นการให้คีโมบำบัด วันนี้เป็นวันแรก ที่ทำคีโม ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงและให้เครื่องช่วยหายใจ ระยะยาว 8 - 9 เดือน คงได้รักษาด้วยการทำเคมีบำบัด

ประมาณ 4 วันที่แล้วที่น้องต้องผ่าตัดก้อนเนื้อ ซึ่งหลังจากผ่าเพิ่งมาทราบผล อาการตอนนี้ขาขยับได้เพิ่มขึ้นนิดหน่อย ถ้ามี 5 ระดับก็ขยับได้ในเลเวลที่ 2 ความรู้สึกตัวยังดี คุยได้ แต่ยังอารมณ์ไม่ดี ยังไม่เล่นเหมือนเคย

ในส่วนของสมอง หลังจากมีการเจาะเอาน้ำไขสันหลังไปตรวจก็พบว่าเชื้อได้เข้าไปในไขสันหลังและสมองเล็กน้อย แต่หมอก็แจ้งว่าโรคมะเร็งในเด็กมีโอกาสรักษาให้หายได้ ตนก็วางใจทีมงานคุณหมอให้ดูแลอยู่ ไม่เหมือนของผู้ใหญ่ ซึ่งคุณหมอไม่ได้แจ้งให้ทราบว่าเป็นระยะที่เท่าไหร่ แต่เนื่องจากน้องอาการแย่ลง เลยคิดว่าน่าจะไม่ใช่ระยะแรกๆ

ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไวมาก ในช่วงนั้นน้องยังร่าเริงแจ่มใสตามปกติ แต่มีอีก 1 อาการที่สังเกตว่าน่าจะเป็นข้อบ่งชี้ของโรคนี้ ตอนนอนน้องมีเหงื่อออกบริเวณหน้าผาก ไม่ว่าจะเปิดแอร์เย็นแค่ไหน ซึ่งตนก็คิดว่าเขาขี้ร้อน แต่ไปอ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็มีข้อบ่งชี้ว่าการมีเหงื่อออกในตอนกลางคืนก็เป็นข้อบ่งชี้ได้ว่าเป็นโรค ตอนนี้เข้าไปที่ต่อมน้ำเหลืองก็เข้าไปที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ไตโตหน่อย ขาก็ยังไม่ปกติ

ในส่วนของค่ารักษา จาก รพ.เดิมที่เข้าไปรักษา ค่อนข้างสูงมาก มีการผ่าตัดด้วย รพ. นั้นเกือบล้าน แต่ตอนนี้ย้ายมา รพ. ที่เป็นของรัฐ ยังไม่ทราบว่าต้องเท่าไหร่ แต่การรักษาคง 8 - 9 เดือน

ขณะนี้กำลังใจครอบครัวค่อยๆ ข้างดีขึ้นจากวันก่อนๆ ที่น้องมีอาการทรุดเร็ว ตอนนั้นกำลังใจเสียกันหมด ตอนนี้กำลังใจดีขึ้นเพราะหมอบอกว่าโรคนี้รักษาให้หายได้ ถ้ารักษาต่อเนื่อง




กำลังโหลดความคิดเห็น