xs
xsm
sm
md
lg

“จุ๋ม อุทุมพร” รับผิด ชีวิตคู่พังเพราะบ้างาน บอกกลับมาดูแล “เทียรี่” เพราะอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“จุ๋ม อุทุมพร” เผยว่า ยังรักและดูแลห่วงใยอดีตสามี “เทียรี่” มากขึ้น ลั่นพร้อมจะกลับมาดูแลกันด้วยความรักที่เมตตา บอกอดีตชีวิตคู่พังเพราะเลือกงานมากกว่าคนในครอบครัว รับเคยเป็นคนเจ้าชู้มาก คบทีละหลายคน

นับเป็นดาราที่ยังคงความสวยตลอดกาล สำหรับ “จุ๋ม อุทุมพร ศิลาพันธุ์” ที่ล่าสุดเจ้าตัวขอออกมาเผยถึงเรื่องราวความรักในอดีตกับอดีตสามีนักร้องชื่อดัง “เทียรี่ เมฆวัฒนา” ผ่านทางรายการ “ยิ่งศักด์ยิ่งแซ่บ” โดยสาวจุ๋มยอมรับว่า ที่ผ่านมา ตนเองเป็นคนเห็นแก่ตัว พยายามเลือกงานมากกว่าคนในครอบครัว ทำให้บางครั้งชีวิตครอบครัวอาจไม่สมบูรณ์ ลั่นอดีตเคยเป็นคนเจ้าชู้มาก คบทีละหลายคน แต่ตอนนี้เข้าใจชีวิตมากขึ้น พร้อมจะกลับมาดูแลกันด้วยความรักที่เมตตาอีกครั้ง

“รู้จักกับเทียรี่ เพราะเขาเป็นคนมีเสน่ห์ อบอุ่น ตอนนั้นก็ต่างคนต่างชอบกัน เราย้ายบ้าน ขายบ้านเก่าไป บังเอิญบ้านใหม่ไปอยู่ซอยเดียวกับคุณเทียรี่ ขับรถสวนกันทุกวัน จนเขาเข้าบ้านเรา ไปรู้จักพ่อแม่ แม่สื่อแม่ชักเยอะ ตอนนั้นเล่นละครกับ เบิร์ด ธงไชย เขาเป็นคนแอบเอาเบอร์ตนไปให้เขา”

“ก็ใช้ชีวิตด้วยกันมาประมาณ 15 - 16 ปี ส่วนที่เลิกกัน เพราะเราเป็นคนที่ตัดสินใจผิดพลาด บางทีคนเรากำลังจะประสบความสำเร็จเยอะๆ เราก็เลือกงานมากกว่าเรื่องครอบครัว ไม่น่าเชื่อว่าเราเกิดความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นในขณะหนึ่ง อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาก จนไม่หันกลับมาดูอีกคนหนึ่ง”

“ถามว่าอยากมีชีวิตครอบครัวเหมือนเดิมมั้ย เอาจริงๆ ก็อยากกลับไปเหมือนเดิม อยากแก้ตัว เราเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่เดินคนละทางเฉยๆ แต่ในปัจจุบันมีความสงสารคุณเทียรี่ เพราะเขาทำงานหนัก ต้องทำกายภาพ ขาเขาก็ไม่ค่อยดี กับมาคิดว่าเขาก็เป็นพ่อของลูก เราก็ขอบคุณเขาที่มีลูกแสนน่ารักให้เราสองคน รู้สึกผิดมั้ยที่ทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ ไม่รู้สึกผิด แต่รู้สึกเสียดาย”

เผยสาเหตุที่ต้องปิดฉากรัก เพราะเลือกงานมากกว่าคนในครอบครัว

“เมื่อไหร่ที่เราไขว่คว้าหาความสำเร็จมันก็ไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนั้นเราจับหรือทำอะไรก็สำเร็จไปทุกอย่าง และลูกค้าก็เยอะเห็นเงินเห็นอะไรมากมาย แล้วตัวเราเองก็สนุกด้วย ตอนนั้นเราแทบไม่ได้อยู่เมืองไทยเลย จนทำให้เราไม่ได้หันกลับไปดูครอบครัว แล้วตัวเขาเองก็งานเยอะ ทัวร์คอนเสิร์ตตลอด เวลาที่เราจะเจอหรือปรับความเข้าใจเลยไม่ค่อยมี คนเราถ้าเสพติดความสำเร็จมากเกินไปมันไม่ดี จริงๆ ส่วนลึกในใจมันเฟล”

“ปัจจุบันเรารู้สึกแล้วว่าการประสบความสำเร็จ แล้วเงินทองหล่นเหลือ มันไม่ใช่ ถ้าเลือกได้เราจะเลือกทั้งสองอย่าง เราจะเลือกประคับประคอง อันนี้เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สมัยก่อนเห็นแก่ตัว ยอมรับค่ะ ปัจจุบันนี้เลยมาขอแก้ตัว หันมาดูแลใส่ใจเป็นเพื่อนกับคู่ครองคนเก่าของเรา คุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นเพื่อนสนิทและพร้อมจะดูแลเขา”

“จุ๋มเองก็อยากฝากเตือนสติไว้กับผู้หญิงทุกคนว่า จริงๆ แล้วผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมีเยอะ แต่จุ๋มไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งมากกว่าใคร คือ จุ๋มอยากบอกว่าถ้าเรารู้จักปล่อยว่าง ไม่ต้องไปคว้ามันทุกอย่าง เผลอๆ สิ่งที่มันสมบูรณ์แบบมันอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่เรามองไม่เห็น ตอนนี้จุ๋มก็อยากกลับไปเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ จุ๋มยังบอกกับพี่เทียรี่เลยว่า ถ้าวันใดเขาไม่มีคนดูแล แก่ตัวลงไม่สบายหรือเป็นอะไรไป จุ๋มยินดีที่จะดูแลเขา เพราะคิดไปคิดมาเขาเป็นผู้ชายที่ดีในชีวิตเราที่เคยเจอมา”

บอกอดีตเป็นคนเจ้าชู้มาก แถมยังคบทีละหลายคน

“จริงๆ มีเพื่อนไม่เยอะค่ะ เพราะตัวเราเองเป็นคนขี้เบื่อ อย่างที่บอกเมื่อก่อนเป็นคนเจ้าชู้ด้วย คบที่หลายคน เป็นคนเลือกได้ แล้วก็ทิ้งต่อหน้าต่อตา ทำคนเจ็บมาเยอะมาก ถ้าบอกว่ากรรมมันตามสนอง จุ๋มว่ามันไม่ใช่ แต่มันคือกรรมของชาติปางไหนไม่รู้ แต่ตัวจุ๋มเองก็โดนหลอกเหมือนกัน โดนแบบแสนสาหัส โดนไม่เหมือนเพื่อนเข้ามา โดนเหมือนปีศาจเข้ามาเลย น่ากลัวมาก เข้ามาไม่รู้ตอนไหนเลย มารู้ตัวอีกทีก็บงการชีวิตไปแล้ว”

“จากคนที่เก่ง คนที่รู้ตัวและฉลาดมาก กลายเป็นคนโง่ที่ไม่รู้อะไร เขาพูดอะไรมาก็เชื่อตามอย่างเดียวเลย แต่คนที่มองเห็นคือคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดเรา ก็จะเป็นคุณแม่และน้อง เขาบอกว่าจุ๋มเปลี่ยนไปเยอะ เหมือนคนโดนของ เราก็ฟังเฉยๆ และก็มานั่งคิดตาม เออจริงด้วย ตอนนั้นถูกโกง ถูกหลอกเอาเงินไป ตอนนั้นเรารับไม่ได้ ทำใจไม่ได้ ก็จัดการสะสางทุกอย่างเสร็จ แม่จุ๋มก็เอาน้ำมนต์มาอาบให้ เอาทรายของพระมาขัดตัวให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า”

ตกต่ำเพราะรักและไว้ใจคนใกล้ตัว

“เขาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องงาน เหมือนมาเป็นผู้จัดการเรา คือ เราประมาทและเผลอตัวจนโดนคนจ้องและเข้ามาทำลาย ทุกอย่างก็โดนสวมรอย ตอนนั้นยอมรับว่ากลายเป็นคนจิตตก กลายเป็นคนที่ถ้าไม่จัดการให้เด็ดขาดเรื่องนี้จะนอนตายตาไม่หลับ ต้องลุกขึ้นมาจัดการส่วนหนึ่งเพื่อให้รู้สึกว่าฉันตาสว่างไม่ได้โง่แล้ว ตอนนั้นก็เสียหายเป็นล้าน”

“ถามว่าลูกให้กำลังใจอะไรมั้ยในตอนนั้น คือลูกผู้ชายค่อนข้างเด็กก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ ส่วนลูกสาวเขาคงไม่สบายใจเหมือนกันที่คนนี้เข้ามายุ่งในชีวิตแม่ ตอนนี้เขาโอเคแล้ว เขายุให้แม่มีแฟน เขาบอกแม่เหงา แม่อยู่บ้านคนเดียวแม่ต้องมีใครนะ พอเราหันกลับมามองย้อนดูตัวเองก็ไม่เอาแล้วค่ะ เรามีความรู้สึกว่าไม่จำเป็น”

“แต่ก็มีอารมณ์อยู่ช่องหนึ่งที่เราเคยเหงาจับใจ อยากมีใครสักคนหนึ่ง เพราะนั่นคือสิ่งที่เราอยากจะแก้แค้นความล้มเหลวของเรา แต่ตอนนี้เราเลิกเสี่ยงแล้ว ไม่เอาตัวเขาไปเสี่ยงในวงเวียนของความรัก ตอนนี้ก็ขอไม่เลือกแล้ว เพราะเรายังมีคุณแม่ที่ต้องดูแล”



กำลังโหลดความคิดเห็น