“อนันดา” ไม่ซีเรียส “โบว์” ซุ่มเงียบดูดวงกับ “หมอดูอีที” บอกไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก่อนพูดเต็มปาก ไม่ใช่แฟน ไม่คลิก เคยพยายามแล้วแต่ไม่ใช่ เปิดใจมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เลิกกัน ไม่ให้ความสำคัญเรื่องการแต่งงาน ไม่ต้องการมีลูก ไม่ได้คิดว่าจะเป็นผู้สืบทอดดีเอ็นเอ
ตอบชัดเจนเคลียร์หมดจด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยังแทงกั๊กเรื่องความสัมพันธ์กับ “โบว์ เบญจศิริ” ถึงขนาดฝ่ายหญิงเอาดวงเรื่องความรักไปถามหมอดูชาวพม่าชื่อก้องโลก “หมอดูอีที” ก่อนเสียชีวิต ซึ่ง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ก็เผยในงานเปิดตัว 3 ตัวละครหลัก ละครศรีอโยธยา พร้อมกลิ่นเอกลักษณ์ประจำตัวละคร ณ ร้านทรูแบรนดิ้งช็อป ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ยันไม่คลิก ไม่ใช่แฟน เคยพยายามแล้ว ไม่ใช่ไม่พยายาม แต่ก็ได้แค่เพื่อนเท่านั้น
“ตอนนี้เป็นช่วงพักครับ อย่างที่บอกผมมีแฟนมา 10 กว่าปี ก็ขอหยุดบ้าง โบว์ก็ไม่ใช่แฟน คือไม่ใช่ไม่พยายามนะ แต่มันอาจจะเหมาะเป็นเพื่อนมากกว่า ก็ไม่ได้พัฒนากันต่อครับ คือถ้ามันเกิดขึ้นมันคงจะเกิดขึ้นไปนานแล้ว เรื่องที่เขาลงรูปเฟซไทม์หา สมัยนี้เขาก็เฟซไทม์หากันหมด ทั้งพ่อทั้งแม่ลูกหลานก็เฟซไทม์หากันหมด ก็ไม่ได้คลิกครับ เป็นเพื่อนกันดีกว่า”
“ตอนนี้เราก็คุยกันอยู่แล้วครับ เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่ 18 - 19 ผมไม่ได้ตามไอจีเขา ก็เลยไม่รู้เหมือนกันเรื่องรูปที่เขาลง ไม่สามารถคอมเมนต์ได้ครับ เคยงอนนางมาเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยไม่ฟอลโลว์เลย แล้วก็ลืมกลับไปฟอลโลว์ (หัวเราะ) เลยไม่รู้ว่าเขาโพสต์อะไรบ้าง เรื่องรูปผมไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเขาจะลงรูปอะไรก็ตาม เราสนิทกัน เพื่อนกัน แต่คนที่เห็นเราอยู่ด้วยกันผมก็เข้าใจว่ามันเข้าใจผิดได้ง่าย”
ปัดโบว์อยากเปิดแต่ตนอยากปิด ย้ำอีกที ไม่ใช่เราไม่พยายาม
“ไม่ถึงขนาดนั้น ผมย้ำอีกทีว่าไม่ใช่เราไม่พยายามกัน เพียงแต่พอถึงจุดหนึ่งคนที่จะคบกัน หรือพอเราข้ามเส้นจากเพื่อนมาเป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกนะ มันเป็นเรื่องของรูปธรรมด้วยว่าถึงเวลาเราทำได้จริงหรือเปล่า ซึ่งเรารู้จักกันมาตั้งแต่ 19 นี่เราก็ 35 กันทั้งคู่ ถ้ามันจะใช่ป่านนี้คงแต่งงานกันไปแล้วมั้ง (หัวเราะ)”
บอกมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เลิกกัน เลยไม่ให้ความสำคัญเรื่องกระดาษแผ่นเดียว
“เรื่องอนาคตตอนนี้ยังไม่มอง มันอาจจะมีแว้บๆ คือ ผมมาจากบ้านที่พ่อแม่เลิกกัน เขาเลิกกันตั้งแต่ผม 14 - 15 เคยคิดมานานแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวมันไม่ใช่แค่กระดาษชิ้นหนึ่งที่บอกว่าคุณคือภรรยา คุณคือสามี ทุกวันนี้พ่อแม่ผมก็ยังเจอกัน พ่อผมก็ยังพาครอบครัวไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ ยังไปเจอแม่ผมอยู่เลย มันอาจจะเป็นครอบครัวที่แปลกๆ นะ ผมเลยไม่ยึดติดว่าต้องแต่งงานถึงจะสร้างครอบครัวได้ ตั้งแต่เด็กผมก็รู้สึกว่าวันหนึ่งความรู้สึกนี้คงเปลี่ยน พอวัย 20 ก็ยังไม่เปลี่ยน พอมา 30 เราก็คิดว่าเดี๋ยวคงเปลี่ยนคงอยากแต่งงานมีครอบครัว ก็ไม่ปฏิเสธ แต่ความรู้สึกนั้นมันก็ไม่มาจริงๆ (หัวเราะ) ไม่รู้จะตอบยังไง เดี๋ยวรอ 40 แล้วกัน เดี๋ยวรอดู (หัวเราะ)”
“ถามว่ามองข้ามเรื่องงานแต่งงานมั้ย ความรู้สึกแบบนั้นมันเกิดขึ้นผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ ก็ดีใจแทนคนที่มีครอบครัว มีความรู้สึกแบบนั้น แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นแล้วผมแต่งงานขึ้นมาก็ไม่ต้องตกใจแล้วกัน เพราะผมก็ไม่ได้ปิดไม่ได้ปฏิเสธอะไร”
“ผมก็ชอบเด็กนะ คือเราไม่ได้คิดว่าตัวเราสำคัญว่าจะต้องสืบทอดดีเอ็นเอ สืบทอดตระกูล แต่ถ้าวันหนึ่งไปทำอะไรเขาแล้วเขาเกิดมีขึ้นมา (หัวเราะ) ผมก็เป็นพ่อของลูกคนนั้นอยู่แล้ว”
ยันโสด ไม่ได้คบโบว์ ส่วนคนเข้าใจผิดก็ไม่ใช่ปัญหาของตน
“ตอนนี้ไม่มีใคร กับโบว์ไม่ใช่ว่าไม่พยายาม แต่ก็ไม่ได้คบกัน แล้วก็ไม่ใช่ว่าปฏิเสธคนอื่นแต่ช่วงนี้ไม่ได้คิดเรื่องพวกนั้น คนเข้าใจผิดนั่นไม่ใช่ปัญหาของผม ผมรู้อยู่ว่าตอนอยู่ด้วยกันมันอาจจะเป็นแบบนั้น ถึงเนื้อถึงตัวกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าคนอื่นเอาไปคิดก็ช่วยไม่ได้ ไม่กลัวปิดกั้นสาวอื่น ชีวิตนี้พักเบรกเรื่องผู้หญิงบ้างก็ได้ ไม่ใช่เรื่องผิด มีแฟนมาสิบกว่าปีแล้วพักบ้างก็ได้”
“ไม่ได้กลัวเรื่องมีครอบครัวนะ เพียงแต่เราไม่มีรูปแบบที่จะสามารถมาอธิบายให้ได้ว่าครอบครัวจะเป็นแบบไหน คนที่สามารถตอบได้ คือ คนที่คิดถึงอนาคตแล้วก็วางภาพของครอบครัวตัวเอง แต่ผมนิยามให้ไม่ได้ เพราะผมไม่รู้ว่าครอบครัวของผมจะเป็นยังไง ชีวิตของผมก็ประหลาดพอสมควรอยู่แล้ว ผมคิดนะ เพียงแต่ผมไม่ได้กำหนด ผมไม่สามารถคอนเฟิร์มให้ได้ว่าความคิดนั้นคือความจริง มันไม่ใช่สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้แต่ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นเราก็แค่ลองคิดเป็นภาพเฉยๆ ไม่ใช่ว่าอยากให้ความคิดนั้นเกิดขึ้นจริงๆ”
เมินฝ่ายหญิงไปดูดวงเรื่องความรักกับหมอดูอีทีที่พม่า ยันไม่เชื่อดวง
“ไม่รู้ เขาไม่ได้มาเล่าให้ฟัง ส่วนตัวผมเชื่อไม่ได้เชื่อเรื่องดวง ส่วนที่ดูเขาจริงจัง อันนั้นอาจจะเป็นเพราะเพื่อนในกลุ่มเขาทำแบบนั้นเลยเชื่อเรื่องพวกนั้น แต่ต้องไปลองคุยกับเขาดูอีกทีหนึ่ง ลองอ่านเขาดูเพราะเขาเป็นคนค่อนข้างเซอร์เหมือนกัน”
“เรื่องจะปิดโอกาสเขา เขาไม่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะเขามีแฟนง่ายจะตาย มันไม่แปลกหรอกที่ช่วงนี้คนจะจับจ้องเพราะช่วงนี้เราเจอกันบ่อย โบว์มีกิจกรรมที่ปางช้างเชียงใหม่เยอะ ส่วนผมก็ไปดูแลกิจการที่นั่น โบว์เขาคิดอยากไปอยู่เชียงใหม่ก็เลยมาปรึกษาผมเรื่องโรงแรม ร้านกาแฟ เพราะเขามีที่อยู่ที่นั่น เราเจอกันบ่อยก็มีรื้อฟื้นความหลังเหมือนเป็นจังหวะที่ทำให้เราได้กลับมาเจอกันอีก”
ถ่านไฟเก่าเคยคุแต่ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น
“ไม่เชิงเรียกว่าถ่านไฟเก่า แต่มันก็มีมุมนั้นด้วย แต่มันก็มีอะไรมากกว่านั้นด้วย เป็นทั้งเพื่อน และเป็นทั้งคนที่คบกันแบบนั้นหลายอย่าง รู้จักกันมาเป็นสิบปี มันมีหลายอย่างจะให้ตีความเป็นอย่างเดียวมันเป็นเรื่องยาก รู้จักกันในฐานะเพื่อนในวัยเด็กบ้าง วัยโตบ้าง รู้จักกันในฐานะแฟนคนอื่น ชีวิตวนเวียนมาเจอกันผมไม่สามารถเอาทั้งหมดในสิบกว่าปีมาตีความให้ได้”
“คนจับตามองก็ไม่กดดันนะ ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เราอยู่ในวงการนี้มานานชินแล้วไม่ได้รู้สึกเป็นเรื่องใหญ่โต ผมก็พูดในมุมของผมว่าที่ผ่านมาคืออะไร แต่รายละเอียดอื่นๆ มันก็เป็นเรื่องของคนอื่นที่ผมไม่สามารถพูดได้ เอาเป็นว่าในอนาคตอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด”