xs
xsm
sm
md
lg

จาก "โรงหนัง" ถึง "ค่ายมวย" : "เสี่ยฮุย" เบื้องหลังความสำเร็จของ "ศรีสะเกษ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




นาทีนี้หากถามถึงนักมวยคนไทยที่ดังที่สุด คงจะไม่มีใครยิ่งใหญ่เท่า "ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น" (วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก) อีกแล้ว

หลังเจ้าตัวสามารถป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก (ดับเบิ้ลยูบีซี) ด้วยการเอาชนะน็อคนักชกระดับโลกอย่าง "โรมัน กอนซาเลซ" ไปในยกที่ 4 ในการชกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านั้นอดีตแชมป์ชาวนิการากัวอาจจะยัง "คาใจ" ต่อความพ่ายแพ้ในการชกกันครั้งก่อน แต่มาโดน "เจ้าแหลม" น็อค "คาที่" เป็นครั้งแรกในชีวิตไปเช่นนี้ เชื่อว่าเจ้าตัวคงจะรู้ซึ้งแล้วว่าฝีมือของนักชกไทยคนนี้เป็น "ของจริง" แค่ไหน

นอกจากความพยายามหมั่นฝึกซ้อมของเจ้าตัวเองแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังในความสำเร็จครั้งนี้คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก "เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์" โปรโมเตอร์และเจ้าของค่าย "นครหลวงโปรโมชั่น" (Nakornluang Promotion) นั่นเอง

สำหรับคนในวงการมวยเองต่างก็เป็นที่รับรู้กันดีว่า "เสี่ยฮุย" คนนี้เป็นโปรโมเตอร์ที่เล็กๆ ไม่ แต่ใหญ่ๆ แกลุย มีการดูแลนักมวยในสังกัดชนิดที่ไม่เหมือนใครและแทบจะไม่มีใครเหมือน ถึงขนาดลงนวมซ้อมกับนักมวยในสังกัดก็มี

ที่สำคัญใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก

หากใครจำกันได้ ก่อนที่การชกครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะเกิดขึ้น ในการซ้อมเป็นเวลานานกว่า 4 เดือนของเจ้าแหลมนั้นแกได้มีการปรับเปลี่ยนเวลาในการซ้อมจากช่วงบ่ายเป็นตอน 4 ทุ่มแทน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้ตรงกับเวลาชกจริงที่กำหนดเวลาไว้ 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก) รวมถึงสั่งซื้อนวมยี่ห้อเดียวกับ โรมัน กอนซาเลส ใส่ชกมาถึง 2 คู่ ในการซ้อมและใส่ชกจริงเพื่อไม่ให้นักมวยในสังกัดเกิดความเสียเปรียบคู่ต่อสู้นั่นเอง

การดูแลนักมวยด้วยความใส่ใจเช่นนี้จะว่าไปแล้วพื้นฐานก็น่าจะมาจากการที่ในอดีตนั้นเสี่ยฮุยเองแกเคยเป็นนักมวยมาก่อน แถมมีสถิติที่ไม่ธรรมดาด้วยชกมวยสากลสมัครเล่นรวมถึงมวยสากลอาชีพ ทำสถิติชนะรวด 5 ครั้ง

แม้อนาคตการเป็นนักมวยดังจะรออยู่ ทว่าชีวิตแกต้องหันเหออกจากเวทีผืนผ้าใบเพื่อมาดูแลจอหนังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวแทน

หลังจากเข้าไปดูแลบริษัท นนทนันท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์รายใหญ่รายหนึ่งของบ้านเรา โดยมีโรงภาพยนตร์ในเครือมากมายกว่า 30 โรง เช่น นครหลวงราม่า ที่ศูนย์การค้านครหลวง เขตบางกอกน้อย, ผึ้งหลวงราม่า, NK THX ฯลฯ ร่วมกับพี่น้อง "สุพจน์ พิสิฐวุฒินันท์" (อดีตนายกสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ)แต่เสี่ยฮุยก็ไม่ได้ทิ้งความฝันเกี่ยวกับเวทีหมัดมวยแต่อย่างใด

เสี่ยฮุยเริ่มทำความฝันด้วยการเปลี่ยนโรงหนังเฉลิมศรีมาทำเป็นค่ายมวย "เฉลิมศรี" พร้อมปั้นเด็กฉายหนังคนหนึ่งขึ้นมาเป็นนักมวยในชื่อ "จ้าวสิงห์ทอง เฉลิมศรี" จากนั้น "สุวัจชัย เฉลิมศรี" ก็มาคว้าแชมป์ WBU มาประดับค่ายเป็นคนแรก

ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อค่ายเป็น "นครหลวงโปรโมชัน" มีนักชกดังอาทิ "นวพล นครหลวงโปรโมชัน" ก่อนสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท สภามวยโลก (WBC) ของ "วีระพล นครหลวงโปรโมชัน ด้วยการชกเพียง 4 ครั้ง รวมไปถึงการคว้าแชมป์และการป้องกันแชมป์ของเจ้าแหลมในครั้งนี้

นึกย้อนกลับไป หาก "เสี่ยฮุย" แกไม่เปลี่ยนโรงหนังให้เป็นค่ายมวยก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น? เพราะถึงตอนนี้ธุรกิจ "โรงหนังสแตนอโลน" แบบที่ว่านั้นได้พังทลายไปหมดแล้วนั่นเอง...
กำลังโหลดความคิดเห็น