xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊ หฤทัย” สุดทน ผัวถูกรุมกระทืบคาร้าน!! โร่แจ้งความเอาเรื่องเจ้าของค่ายมวยดัง ซัดหากินอยู่ในเมืองไทยแต่รังแกคนไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักร้องดัง “อุ๊ หฤทัย” ควงสามีแจ้งความ ถูกฝรั่งเจ้าของค่ายมวยดังยกพวกข่มขู่ รุมกระทืบสามีคาร้าน อ้างคู่กรณีสั่งตัดกางเกงมวยเอาไว้ 6 ปี ไม่ยอมมาเอา หวั่นเป็นหนี้สูญเลยเอามาขาย เผยเงินแค่ 8 พัน ต้องทำกันถึงขั้นนี้ กร้าวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะต้องเสียใจกับการกระทำ

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน. ลุมพินี นักร้องดัง “อุ๊ หฤทัย ม่วงสมบุญ” พร้อมสามี “สมโชค สุทธิโสม” และทนายความ “จงรักษ์ เหล็งหนูดำ” เข้าแจ้งความกรณีถูกเจ้าของค่ายมวยดังสัญชาติอิตาเลี่ยนยกพวกรุมทำร้ายร่างกายนายสมโชค ข่มขู่ แถมยังประจานกล่าวหาก๊อบปี้แบบกางเกงมวย หลังจากทีี่พบว่ามีแบบกางเกงของแบรนด์หยกขาว 2 แบบแขวนอยู่ 2 ตัว ลั่นจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

“เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์ทั้งต่างชาติและคนไทยมาชกต่อยสามีอุ๊ถึงที่ร้านที่เราประกอบธุรกิจกางเกงมวย อยู่บนถนนพระราม 4 นี่แหละค่ะ นี่เป็นสาเหตุที่เราจะต้องมาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ซึ่งวันนั้นสามีอุ๊ถูกชก 4 หมัด และชายฉกรรจ์คนอื่นที่เป็นคนไทย 4 คน เขาก็มีลักษณะกักขังหน่วงเหนี่ยวสามีของอุ๊ ทำเป็นปิดประตู ทำเป็นพกพาอาวุธ และข่มขู่ลูกจ้างอุ๊ที่เป็นผู้ชายไม่ให้เข้ามาช่วยสามีอุ๊

“เขาข่มขู่ประกาศกร้าว ข่มขู่ทุกคนที่อยู่ในร้านไม่ให้ใครช่วย และสามีอุ๊คนเดียวก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งก็มีมิสเตอร์ฟิลิปโป้ เป็นคนสัญชาติอิตาเลี่ยน เป็นเจ้าของค่ายมวยหยกขาว เป็นเจ้าของค่ายมวยไทย ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจตัดเย็บกางเกงมวย โดยมีอุ๊กับสามีเป็นซัปพลายเออร์และผลิตนวมยี่ห้อหยกขาวด้วย และมีทางศรีกรุงซึ่งเป็นซัปพลายเออร์เหมือนกัน การดำเนินธุรกิจทุกอย่างราบรื่นนะคะ เพราะเราออกแบบกางเกงมวยให้เขา และเราเป็นเจ้าของแบบของเราดั้งเดิมที่ขายมายาวนาน เราอนุญาตให้เขาติดป้ายหยกขาว ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นเป็นปกติ”

“โดยที่ทางร้านคือสามีอุ๊เนี่ยเป็นคนซื่อสัตย์มาก เราให้คำมั่นสัญญากับเขาว่าเราจะไม่ผลิตและเราจะสงวนแบบหยกขาวไม่ไปขายให้กับใคร จะไม่ละเมิด สัญญานี้เรารักษามาตลอดเป็นเวลาเกือบ 10 ปี แต่เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เขาเห็นว่าในร้านของเรามีกางเกงหยกขาวแขวนอยู่ 2 แบบ ซึ่งขายจริงค่ะ เนื่องจากมันเป็นกางเกงที่เราคิดว่าเขาไม่มาเอาแล้ว เราคิดว่ามันเป็นหนี้สูญไปแล้ว เราเคยตามให้เขามาจ่ายสตางค์ ให้เขามาเอากางเกง เขาก็ไม่มา ซึ่งเขาออเดอร์ตั้งแต่ก่อนสนามมวยลุมพินีจะย้ายไปรามอินทราด้วยซ้ำ ก่อนที่อุ๊จะท้องลูกสาวคนเล็กอีก กางเกงทั้งหมดมีประมาณ 20 ตัว มีอยู่ 2 แบบ ตรงนั้นเขาอาจจะเข้าใจผิด แต่การเข้าใจผิดเราคุยกันได้ ไม่ใช่ว่ามาใช้ความรุนแรง”

คุณคิดว่าคุณเป็นใครที่อยู่ดีๆ จะมาชกต่อยจะมากระทืบคนในบ้านและโดยเฉพาะเป็นคนไทย ตัวคุณเองประกอบธุรกิจมวยไทย มาหากินอยู่ในประเทศไทย ทำมาหากินกับศิลปวัฒนธรรมไทย แต่ว่ามารังแกคนไทยแบบนี้ ซึ่งมีการซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบธุรกิจกับคุณ อุ๊ประกาศเลยว่าครั้งนี้อุ๊ไม่ยอมแน่นอน และคนไทยที่รับใช้เขาและมากับเขาคุณจะต้องเสียใจที่คุณเข้าข้างคนผิด คนที่ใช้ความรุนแรง เราคนไทยด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเหตุผล ที่เราเอากางเกงเขามาขายเพราะว่ามันนานมากแล้ว ตัวเราก็ไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจผิด แต่เรื่องพวกนี้มันคุยกันได้ ไม่ใช่ว่ามากระทืบเราถึงในร้าน เรารับไม่ได้”

“ที่สำคัญ ชายอินเดีย อาจจะเป็นคนไทย สัญชาติไทย แต่ว่าเป็นชายอินเดียที่โพกผ้าที่อยู่ในคลิป ที่มาประกาศหน้าร้านว่าร้านอุ๊ก๊อบปี้ ทำธุรกิจก๊อบปี้ ทำให้เราเสียใจมากนะคะ และจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดในการดำเนินธุรกิจของเราที่ทำมาอย่างซื่อสัตย์สุจริต เราไม่เคยไปก๊อบปี้ของเขาแน่นอนค่ะ เพราะเราไม่มีเวลาหรอก เราออกแบบให้เขา เราสงวนแบบให้เขา เราเก็บรักษาไว้อย่างดี แต่ซัปพลายเออร์อย่างเราผลิตให้หลายแบรนด์ ไม่ใช่เขายี่ห้อเดียวที่ทำธุรกิจกับเรา หรือคิดดูว่ายี่ห้อลุมพินีของเราก็ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศก็ไม่แพ้เขา โดยที่เราไม่ต้องไปจัดอีเวนต์หรือใช้โฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าเราเป็นนักออกแบบและเรามีศักยภาพ เราก็ควบคุมการผลิตแบบใช้ความประณีต เราไม่ใช่โรงงานใหญ่โต แต่เราใช้ใจในการทำธุรกิจของเรา คุณสามารถไปตรวจสอบได้จากโรงงานใดก็แล้วแต่ว่านายสมโชคหรือจากหฤทัยไปจ้างผลิตป้ายยี่ห้ออื่นมาใช้ในร้านเรา ไม่มีแน่นอน”

แจ้ง 3 ข้อหา บุกรุก ทำร้ายร่างกาย หมิ่นประมาท เผยยังข่มขู่จะยกพวกมาถล่มร้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อุ๊ : “ก็มีคดีการบุกรุกเคหสถาน ข้อหาทำร้ายร่างกาย และหมิ่นประมาทค่ะ 3 เรื่องนี้ที่อุ๊จะแจ้งความดำเนินคดีกับเขา ซึ่ง สน.ลุมพินี ก็ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจเรียบร้อยแล้วนะคะ และมีคลิปวิดีโอที่ลูกจ้างของอุ๊ในร้านถ่ายเอาไว้ค่ะ เขาข่มขู่ เขาประกาศจะปิดร้านอุ๊ จริงๆ เขาบอกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเขาจะมาปิดร้านอุ๊ จะเอาชายฉกรรจ์มาถล่มร้าน อุ๊ก็ไปนั่งรอ แต่ไม่เห็นมีใครมานะ”

“ก็หลังจากที่เขาเข้ามาทำร้ายก็ได้มีการคุยกันแล้วค่ะว่าสาเหตุมากจากที่คุณมาออเดอร์แล้วไม่ยอมมาเอา มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราจะแอบผลิตกางเกงคุณแล้วเอามาขาย มันไม่ใช่ แต่เราคิดว่าคุณไม่มาเอาแล้ว เราก็ไม่อยากให้มันเป็นหนี้สูญ คุณก็ควรที่จะเห็นใจเราบ้าง ร้านเราก็ต้องใช้สตางค์ใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราคิดว่ากางเกงที่มันอยู่ในกล่องเอามาผันเป็นสตางค์ได้เพื่อใช้จ่าย เราก็คิดว่าเราคงเอามาขาย เขาออเดอร์ไว้นานถึง 6 ปีนะคะ แต่ไม่มาเอา”

สามีอุ๊ : “จริงๆ ก่อนหน้านี้ ผมแจ้งเขาไปว่ากางเกงเสร็จแล้ว แต่ทำไมคุณไม่ยอมมารับ เรื่องการมารับหรือไม่มารับผมไม่ทราบว่าเขาจะไม่มาหรือเขาจะบ่ายเบี่ยงเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็แจ้งไปแล้ว จนระยะเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนมาเกิดเรื่องนี้ครับ”

อุ๊ : “เราก็มาได้ข่าวว่าเขาไปเปิดโรงงานของเขาเองคือเราผลิตกางเกงให้เขาช่วง 4 ปีแรกเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ขายดีค่ะ จนเขาไปผลิตด้วยตัวเอง เปิดโรงงานด้วยตัวเอง เขาก็คงต้องการลดต้นทุนตามปกติของนักธุรกิจหรือพ่อค้าค่ะ”

ไม่ฟันธงคู่กรณีพกอาวุธมาด้วย บอกถ้าสู้กลับเรื่องอาจบานปลายมากกว่านี้
สามีอุ๊ : “ที่บริเวณเบ้าตาขวาครับ ผมจำไม่ได้ว่าโดนตรงไหนบ้าง แต่ที่เบ้าตาจะหนักสุด ก็โดนไป 4 หมัดครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้ต่อสู้ เพราะคิดว่า 6 คนที่มารวมถึงตัวเขามันน่าจะรุมผมนะ เขามีอาวุธในมือมั้ยผมไม่ได้สังเกตนะ แต่เด็กๆ ในร้านสังเกตเห็นว่าคนไทย 4 คนหิ้วกระเป๋ามา และพอเด็กในร้านจะเข้ามาช่วยผม เขาก็ทำท่าเหมือนจะหยิบอะไรสักอย่างตรงชายเสื้อ เด็กๆ เขาเห็นก็มาเล่าให้ฟัง ซึ่งผมคิดว่าถ้าวันนั้นผมต่อสู้กลับเรื่องมันน่าจะบานปลายนะ คิดว่าผมคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ผมคงต้องเข้าโรงพยาบาลแน่ๆ เลย แต่ผมคิดว่าคงไม่ถึงกับพยายามฆ่า แต่จริงๆ แล้วชาวต่างชาติคนนี้เขาตัวใหญ่กว่าผมอีกนะ เขาไม่ต้องพาคนไทย 3 - 4 คนมาอีกก็ได้ ถ้าเขาจะเข้ามาคุยเรื่องธุรกิจมันน่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้ แต่นี่มาแล้วรอเวลา 1 - 2 ชั่วโมงแล้วเรียกคนอื่นเข้ามาเพื่อที่จะมาเป็นพรรคพวกและเข้ามาที่ร้านเรา”

ซัดเงินแค่ 8 พัน ต้องทำกันถึงขั้นนี้ กร้าวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต้องเสียใจในการกระทำ
อุ๊ : “เขาเตรียมการไว้แล้วค่ะ เพราะเขามานั่งที่ร้านเป็นชั่วโมงตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนที่จะเกิดเหตุ มันทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก ทำเหมือนเป็นมาเฟียข่มขู่คุกคาม ถามว่าเรากลัวมันมั้ย เราไม่กลัวเลยนะ และอุ๊จะดำเนินการตามกฎหมายตอบโต้ให้มากที่สุด ให้เขาได้รับรู้ให้เขาเสียใจในการกระทำของเขา ตอนแรกอุ๊ก็เข้าใจผิดเหมือนกันคิดว่ากางเกงมีเป็นล็อตใหญ่ เป็น 100 ตัว แต่มาถามจริงๆ แค่ 20 ตัวเอง เรายังคิดว่าล็อตใหญ่ เงินเป็นแสนๆ แต่ไม่ใช่เลย ทั้งหมดมันแค่ 8,000 บาท ตัวละ 400 บาทเท่านั้นเอง”






กำลังโหลดความคิดเห็น