xs
xsm
sm
md
lg

“วิทย์ ภูธฤทธิ์” อุ้มลูกหลั่งน้ำตา สารภาพนอกใจอดีตภรรยาฟาดคนใช้ แต่โต้เป็นชาวเกาะ คืนบ้านคืนรถ ไม่อยากโกหกสังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วิทย์ ภูธฤทธิ์” อุ้มลูกหลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย ยันไม่ได้จดทะเบียนสมรส “ไฮโซซูซี่” ประกาศลั่นไม่เคยเกาะกิน เพราะตอนที่คบกันตนมีงาน ย้ำตอนนั้นไม่มีสถานะทางสังคมทั้งคู่ แต่ยอมรับในความผิดพลาดนอกใจฟาดคนใช้ รับเรื่องผ่านมานานถึง 15 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำอีก ยันคืนบ้านคืนรถ ออกมายอมรับความจริงเพราะสงสารลูก ไม่อยากโกหกสังคม

กลายเป็นกระแสร้อนสำหรับกรณีไฮโซสาวรุ่นใหญ่ “ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา” ออกมาแฉอดีตสามีนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ “วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล” จนหลายคนมองว่าที่เขาคบกับผู้หญิงอายุมากกว่าเพราะหวังเงิน แถมอดีตภรรยาก็ออกมาแฉว่าสามีเคยมีอะไรกับคนใช้ รวมไปถึงอีกหลากหลายประเด็น รายการ “โหนกระแส” คืนนี้ โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกร ผลิตในนามบริษัท ดีวันดีคืน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางช่อง 28 ขอเปิดใจ “วิทย์ ภูวิฤทธิ์” ที่มาออกรายการพร้อมลูกสาว “น้องเบลล่า” เป็นครั้งแรก

“จริงๆ แล้วการคบกันระหว่างผมกับเขามันมีความต่างระหว่างวัย แต่ว่าช่วงที่คบกันแรกๆ ไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่มีเรื่องเงินทองอะไรทั้งสิ้น คบกันไปเรื่อยๆ แล้วเห็นอกเห็นใจกัน ตัวเราชื่นชมในตัวเขา เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา มีความสามารถที่เราเห็นแล้วชื่นชม คบกันไปเรื่อยก็กลายเป็นความรักความผูกพันขึ้นมา ผมก็ยืนยันว่าผมรักเขา อายุเราต่างกัน 2 รอบ 24 ปี เริ่มคบกันที่ผมอายุ 23 - 24 ปี ตอนนี้อายุ 48 ปี ก็ 25 ปีมาแล้ว ตอนที่คบกันก็ไม่เคยไปอยู่บ้านเขา”

“ย้อนกลับไปตอนแรกๆ ผมก็เป็นนายแบบ รู้จักกับเขาก็ไปมาหาสู่กันในระหว่างที่ว่าเป็นสถานที่ของผม เป็นห้องพักของผม และก็มีคบกันไปเรื่อยๆ เขาก็มาอยู่กับผม เหมือนกับประมาณว่าเป็นแฟนกันมั้ย มาอยู่ด้วยกันมั้ย ผมไม่ไปอยู่บ้านเขา เขาเลือกที่มาอยู่บ้านเรา กับคำครหาที่บอกว่าเราคบไฮโซ อาจจะเป็นภาพปัจจุบันที่ทุกคนมองเขา แต่ถ้าย้อนกลับเมื่อก่อน มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด เขาก็เป็นปกติธรรมดาทั่วไป”

จะพูดว่าเมื่อก่อนเขาไม่ใช่ไฮโซแบบนั้นก็ไม่ตรงซะทีเดียว เพราะเขาก็บ้านมีอะไรที่อเมริกา เขาก็เป็นคนที่มีฐานะในอเมริกา ที่นั้นเขาเรียกว่าไฮโซหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ ณ ปัจจุบันที่เมืองไทยเรียกเขาว่าไฮโซ”

ยันตอนคบกันไม่มีสถานะทางสังคมอะไรทั้งนั้น ส่วนตนก็มีงานทำ เป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรง ย้ำไม่เคยนำเงินอีกฝ่ายมาใช้

“จริงๆ ประเด็นเรื่องเงินทอง มันเป็นประเด็นใหญ่พอสมควร กับภาพที่คนอื่นมองผม เพราะความต่างระหว่างวัยและอะไรหลายๆ อย่างมองว่าผมคบผู้หญิงที่อายุมากกว่าแล้วมองว่าเราคบเพราะเงินมั้ย จริงๆ ตอนนั้นผมก็ทำงานเล่นละคร ถ่ายโฆษณา เขาก็ทำงานของเขา ก็อยู่ด้วยกันคบกันต่างคนก็ต่างทำงาน ช่วงนั้นย้ายตัวเองจากอเมริกามาอยู่เมืองไทย มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พูดง่ายๆ ตอนนั้นทั้งเขาและผมก็ไม่มีสถานะอะไรทั้งนั้นทางสังคม”

ไม่เคยเอาเงินเขามาใช้ ยืนยันครับ เงินตอนนั้นเพราะน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่ถ้าถามว่าผมเคยซื้ออะไรให้เขา หรือเขาซื้ออะไรให้ผมก็เคยครับ ในด้านกำลังทรัพย์เขาอาจะมีมากกว่าผม แต่ส่วนที่ผมให้ ผมไม่เคยเบียดเบียนเขา”

ทำธุรกิจร่วมกัน เก็บเงินร่วมกัน แต่บ้านต้องเป็นชื่อตนเพราะเป็นเงื่อนไขของแบงก์ อีกฝ่ายอายุมากแล้วกู้ไม่ได้
“ทรัพย์สินทั้งหมดมันอยู่ในชื่อผม ช่วงที่อยู่ด้วยกันก็ทำธุรกิจค้าขายเครื่องสำอาง ร่วมกันทำ ผมอาจจะทำไม่ได้เท่าเขา เขาอาจจะทำมากกว่า แต่ร่วมกันทำ เงินที่ได้มาก็เก็บร่วมกัน บัญชีเงินก็อยู่ในชื่อผมมั่ง ชื่อเขามั่ง แต่ตัวเงินทั้งหมดเขาเป็นเก็บ เงินทั้งหมดเขาก็เอาไปลงทุนเป็นทรัพย์สินซื้อบ้าน ซื้ออะไร บ้านเป็นชื่อผม สาเหตุที่เป็นชื่อผมก็เพราะว่าตัวเขาเองตอนนั้น 50 แล้ว มันมีเงื่อนไขของแบงก์จะผ่อนบ้าน 20 ปี ด้วยอายุแล้วไม่ได้ ก็เลยต้องใช้ชื่อผม ส่วนรถมาทีหลังแต่เป็นชื่อผม บ้านหลังนั้นซื้อเมื่อปี 45 ราคาติดป้ายขาย 20 ล้าน ไม่รวมตกแต่ง รถคันนั้น 12 ล้าน ณ ตอนนั้น 30 กว่าล้าน บ้านก็ใช้เงินที่ทำธุรกิจมาด้วยกันผ่อน”

“พอผ่อนหมดก็ไปกู้มาเพื่อไปทำธุรกิจของเขา ผมไม่เอาเงินมาเลย ยืนยันครับ ซึ่งบ้านเป็นชื่อของผม ก็ต้องเป็นผมกู้ ผมเป็นคนเซ็นกู้”

เปิดใจไม่ได้จดทะเบียน ทำสัญญาคืนบ้านคืนรถ ก่อนย้ำเป็นหนี้ที่อีกฝ่ายก่อเอง
“ผมไม่ได้จดทะเบียนนะครับ อยู่กินฉันสามีภรรยา สัญญาตัวนี้ทำขึ้นเมื่อเดือนเมษา 2560 เพิ่งทำครับ ทำขึ้นเพื่อคืนบ้านให้เขา หลังจากผ่อนเสร็จ (ถ้าเขาไม่ผ่อนคุณก็ซวย?) ตามนั้นเลยครับ ส่วนรถถามว่าผมผ่อนด้วยมั้ย มันก็มีบ้าง เพราะเป็นเงินที่ได้จากการทำธุรกิจ แต่เขาเป็นฝ่ายดูแลเงิน มันก็ต้องมีเงินผมอยู่บ้าง ซึ่งในสัญญาก็คือคืนไปแล้วครับ ถ้าบอกว่าเราคืนแต่หนี้ก็ไม่ใช่นะครับ เพราะเป็นหนี้ที่เขาก่อ”

ยอมรับนอกใจ พลาดมีอะไรกับคนใช้ แต่เป็นเรื่องเมื่อ 15 ปีก่อนและไม่เคยทำผิดอีก
จริงครับ แต่ว่าน้องเขามาฝึกงานที่บ้าน ไม่เชิงคนรับใช้ มันเป็นเรื่องเมื่อ 15 ปีมาแล้ว มันเป็นความผิดพลาดของผม ผมยอมรับ ส่วนที่บอกว่ามีอะไรกับหลาน ก็ไม่ใช่หลานของเขา ไม่ใช่หลานของผม เป็นศัพท์นามที่เรียกกันระหว่างคู่กรณี เขาเรียกผมว่าคุณอา เป็นการคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งเขาไปเห็นในโทรศัพท์ เขาคิดว่าเป็นหลาน ก็ยอมรับว่ามีกรณีนี้จริง ผมคิดว่านอกใจนะครับ เป็นข้อผิดพลาด ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระหองระแหง”

“ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าผมขโมยของให้ผู้หญิงอื่น มันอาจจะเป็นคำพูดที่เขาพูดเอง แต่ถามว่าผมหยิบไปมั้ย ผมหยิบไปครับ แต่เป็นของในบ้านนั้นแหละ ผมไม่อยากแก้ตัวอะไรมาก อย่าใช้ว่าขโมยเลย ผมก็หยิบไป ประมาณว่าหยิบไปให้อีกคนลองใส่แล้วมีหลักฐานเป็นรูปภาพแค่นั้นเอง แต่ของก็เอากลับมาครับเป็นแหวนอย่างเดียว ก็ยอมรับว่าเป็นเพลย์บอยคนหนึ่งครับ”

บอกมีลูกหลังแยกทางกันแล้ว ร้องไห้ไม่อยากโกหกสังคมเพราะมีแก้วตาดวงใจ หวั่นผลกระทบไปตกที่ลูก
“ถ้าคนจะต่อว่าก็ไม่เป็นไร ต้องตอบถามความจริง เป็นเรื่องที่ผมได้ทำไป แต่มันนานมากแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้วในชีวิตผม เพราะทุกวันนี้ผมก็มีแก้วตาดวงใจของผม ผมไม่อยากโกหกสังคม มันพูดไม่ถูก (ร้องไห้) มันเห็นความน่ารักของเขาแล้วไม่รู้จะพูดยังไง คือในระหว่างที่ผมไปมีคนใหม่ มันแยกกันอยู่ ตกลงพูดคุยว่าเราแยกกันอยู่ ถ้ามีโอกาสที่จะกลับมาหากันก็ว่ากัน แต่พอแยกกันแล้วก็ไม่สามารถกลับคืนมาได้ หลังจากนั้นค่อยมามีลูก”

ผมออกมาพูดเพราะไม่อยากให้ผลกระทบไปตกที่ตัวลูกในภาพพจน์ของผม ผมไม่ได้เกาะผู้หญิงกิน และไม่ได้เป็นคนอย่างที่เขาคิดว่า ผมคบผู้หญิงที่อายุมากกว่าเพราะเงิน ตอนนี้ไม่เจ้าชู้แล้วครับตั้งแต่มีเขา ทุ่มเทให้ทุกอย่าง จะไม่มีอีกแล้ว”

“ผมอยากจะบอกว่าผลกระทบที่เข้ามาผมห่วงลูกที่จะเติบโตมาในอนาคต ผมอยากจะเคลียร์ประเด็นที่เรียกว่าคบเพราะเงินหรือเปล่า เอาเงินคนนั้นคนนี้มาหรือเปล่า เอาเงินผู้หญิงมาหรือเปล่า ไม่มีทั้งนั้นครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น