“เจ๊ฉอด” ลั่นผนึกกำลัง “กลุ่มเจ้าสัวเจริญ” เพิ่มทุนช่อง GMM25 หนึ่งพันล้าน เพื่อความมั่นคงและเติบโต ตอบโจทย์ “ทีวีดิจิตอล” ยังมีอนาคต ยันอีกฝ่ายไม่ได้เข้ามากอบกู้วิกฤต แต่เป็นเพราะมั่นใจในศักยภาพ GMM 25 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ย้ำไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง ยิงตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ใช้งบน้อยกว่าแต่ผลตอบรับรุนแรงกว่า
ไม่ได้เข้ามากอบกู้วิกฤต! “เจ๊ฉอด” ลั่น “กลุ่มเจ้าสัวเจริญ” เพิ่มทุน 1 พันล้าน เพราะ GMM25 มีอนาคต
ฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า แกรมมี่ ขายทีวีดิจิตอลช่อง GMM25 จนเหลือหุ้นแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ รับเงินจากลูกชาย “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าของอาณาจักรธุรกิจเบียร์ช้าง เครื่องดื่ม และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทยสูงถึง 1 พันล้านบาท
ล่าสุด “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงข่าวดังกล่าวในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต JDNA -X - TREAM CONCERT ณ ห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 21 GMM แกรมมี่เพลส โดยยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาซื้อหุ้นเดิม แต่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มอีก 1 พันล้าน เพราะเห็นในศักยภาพ GMM25 ไมได้เข้ามากอบกู้วิกฤต แต่เข้ามาเพราะช่องมีแนวโน้มที่ดี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทีวีดิจิตอลยังมีอนาคต
“ในลักษณะของการมีผู้ลงทุนเข้ามาร่วมลง จริงๆ ก็มีหลายที่และหลายท่านให้ความสนใจในช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ของเราที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ตรงใจใครหลายๆ คนซึ่งในที่สุดเราก็ได้ผู้ร่วมลงทุนที่มีความสนใจ และสามารถที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพซึ่งกันและกันได้ ถามว่าดีลนานมั้ย ถ้ามองในแง่ที่มีฝ่ายมองเรามา เขาสนใจเรามานานแค่ไหน อันนี้ไม่รู้ แต่ถ้าคุยกันและที่ดีลกัน ก็เมื่อไม่นานมานี้เอง”
บอกอีกฝ่ายไม่ได้มาซื้อหุ้นเดิม แต่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มอีก 1 พันล้าน
“อันนี้เรียกว่าเป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนนะ เขาไม่ได้มาซื้อหุ้นในส่วนที่มีอยู่แล้ว คือเดิมเรามีทุนจดทะเบียน 800 ล้านบาท และทางเราก็เพิ่มทุนจดทะเบียนมาเป็น 2,000 ล้านบาท และทางผู้ที่เข้ามาใหม่ก็ใส่ไป 1,000 ล้านบาท และเราก็ใส่ไปอีก 200 ล้านบาท ก็พอดีเท่ากับทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท มาซื้อหุ้นในการเพิ่มทุน และการที่เราได้เพิ่มทุน ก็เพราะว่าเราจะได้มีศักยภาพขยายงาน ขยายธุรกิจให้มันแข็งแรงมากขึ้น และในแง่ของการบริหารเราก็ยังจัดการเหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ในแง่ของการทำงาน ผู้คนก็ยังทำงานกันเหมือนเดิม แต่ในแง่ของการบริหารก็เป็นเรื่องของทางบอร์ดที่มีสัดส่วนครึ่ง”
เห็นภาพชัดขึ้น “ทีวีดิจิตอล” ยังมีอนาคต
“ถามว่ามีผลต่อภาพของช่องมั้ย คิดว่ามันเป็นเรื่องดีนะ จริงๆ บริษัทที่เข้ามาเขาเป็นบริษัทที่ลงทุนโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นการที่เขาตัดสินใจมาลงทุนในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งนั้น เงินเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ เขาก็ได้ผ่านการพิจารณามาแล้วว่าบริษัทไหนจะให้ผลตอบแทนได้ดี และวันนี้ที่ทุกคนถามว่าอนาคตทีวีดิจิตอลจะเป็นยังไง อันนี้แหละคือคำตอบ มองจากการที่มีคนอยากมาร่วมลงทุนแบบนี้ มันทำให้เรามองเห็นภาพชัดว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลมันยังมีอนาคตอยู่ แม้แต่คนที่อยู่นอกวงการนอกธุรกิจนี้เขาก็ยังสนใจในธุรกิจนี้เลย ทำให้เรามองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าช่องเราจะมีอนาคตที่ชัดเจนมากขึ้น”
“ส่วนเรื่องนโยบายของช่องนั้นก็ไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะเป็นการตกลงที่ชัดเจน การบริหารจัดการงานต่างๆ ก็ทีมงานเดิมทั้งหมดเลย อย่างที่บอกเขาเป็นบริษัทการลงทุน คือเขาเอาเงินมาลงทุนเพื่อผลกำไร ผลตอบแทน คล้ายกับการร่วมทุนของช่องวัน”
เพิ่มทุนเพื่อความมั่นคงและเติบโต ตอกย้ำว่าช่องไม่ได้แย่จนต้องหาผู้ร่วมทุน แต่เป็นเพราะมีแนวโน้มที่ดี
“คือมองแบบนี้ว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้การทำงานได้มั่นคงและเติบโตมากขึ้นในสายงานทีวีดิจิตอลนี้ อย่างที่บอกว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลมันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนสูงโดยธรรมชาติของมัน เพียงแต่ว่านะวันนี้ในแง่ของช่องเรา ธุรกิจของ GMM25 มันเดินทางมาถึงจุดที่มันจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เขาก็เลยอยากมาร่วมทุน ไม่ได้เกิดจากช่องเราแย่แล้วเดินต่อไปไม่ได้ จนต้องหาผู้ร่วมทุน แต่เป็นการจับมือร่วมกันที่เห็นโอกาสซึ่งกันและกันมากกว่า”
มองเห็นศักยภาพ อนาคต และเส้นทางที่เติบโต
“ถ้าเขาจะลงทุนกับทีวีดิจิตอล และวันนี้มีกว่า 20 กว่าช่อง และมีช่องเยอะมากที่อยากจะให้มีผู้มาร่วมทุนแบบนี้ และเขาก็เลือกเรา มองเห็นศักยภาพในการทำงานของช่องเรา เขาถึงไม่ได้มีความตั้งใจที่ไม่ได้มาเปลี่ยนแปลงอะไร เขามาลงทุนร่วมหุ้นกับเราเพราะเขาเห็นว่าการทำงานแบบนี้มันมีอนาคต มีเส้นทางที่เติบโต เขาไม่ได้มากู้วิกฤตหรือต้องมาปรับเปลี่ยนอะไร ในส่วนของทางเราก็ถือว่าจะเป็นเรื่องดีมากกว่า และก่อนหน้านี้มีหลายเจ้าก็มีติดต่อเข้ามา แต่ก็เป็นเรื่องของทางบริษัทเป็นการตัดสินใจเลือกมากกว่า”
“ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลเป็นธุรกิจที่ต้องลงทุน และอาศัยระยะเวลาในการทำงาน มันไม่ใช่เงินอย่างเดียวที่จะทำให้มันเกิดความสำเร็จ คือ มีเงินมันก็ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะมันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงิน แต่ในอีกทางหนึ่งมันก็ต้องใช้อย่างอื่นร่วมไปด้วย ซึ่งถ้ามีเงินด้วยและมีโอกาสอย่างอื่นร่วมไปด้วย มันก็จะไปได้ด้วยดี ซึ่งการมาของเขาก็อย่างที่บอก เขาก็ไม่ได้เข้ามาเพื่อจะมาเปลี่ยนแปลงอะไร เขาลงมาร่วมหุ้นกับเราเพราะเห็นเราเป็นเรา”
ยิงตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ใช้งบน้อยกว่าแต่ผลตอบรับรุนแรงกว่า
“แรกเริ่มเดิมทีของช่องgmm25 ตั้งแต่วันแรกที่เราเข้ามารับงานในช่องนี้ เราพูดถึงคำๆ หนึ่งคำว่าความแตกต่าง ทุกคนอาจจะไม่เข้าใจว่าความแตกต่างตรงนั้นคืออะไร แต่มาถึงวันนี้เราว่าทุกคนมองเห็นแล้ว ความแตกต่างที่ว่าคือเรายิงตรงถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ ว่าเราแตกต่างจากคนอื่นอย่างไง เราไม่ได้ใช้กล้องทีวีในการออนแอร์อย่างเดียว เราใช้ออนไลน์ควบคู่ไปด้วย เรามีงานออนกราวน์ด้วย แพ็กเกจการขาย ทุกอย่างมันแตกต่างกันหมด มาถึงวันนี้สิ่งที่เราทำไปใช้งบน้อยกว่าช่องอื่นๆ แต่ผลตอบรับกลับมามันรุนแรง มันได้ความเผยแพร่ที่กว้างขวางและชัดเจน ที่ผ่านมาเราทำงานแบบประโยชน์สูงสุดจริงๆ เราไม่ได้ลงทุนใช้เงินซื้อทุกอย่าง คอนเทนต์แพงๆ เราก็ไม่ไปประกวดประชันกับเขาด้วยซ้ำ เรามีทิศทางของเรา ทุกวันนี้การที่เรามีทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น ก็อาจจะเป็นโอกาสอีกโอกาสที่เราสามารถขยับขยายให้มันมากขึ้น แต่อย่างที่บอกว่าเงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่มันคือการประกอบร่างรวมตัวที่ทำให้เกิดความแข็งแกร่งขึ้น เพราะเรามีเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น แล้วเราก็มีผลงานและมีพลังในการทำงานแบบของเราที่ทำให้ทุกอย่างเป็นโอกาสที่ดีขึ้น”
“ไม่น่าจะมีการเพิ่มทุนเพิ่มอีกนะ เพราะอย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจง่ายๆ ที่จะมีใครมาร่วมจับมือกันแบบนี้ ก็ต้องเห็นศักยภาพรวมกันจริงๆ ถ้าถามว่าเห็นอะไร เราก็ทำงานปกติ คือเราก็ทำแพลนของปีหน้า ในปีหน้าเราอาจจะเห็นคอนเทนต์ที่มากขึ้น ใช้เงินในการลงทุนมากขึ้น การร่วมทุนครั้งนี้มี 4 ส่วน คือ จีเอ็มเอ็ม 25, เอไทม์มีเดีย (วิทยุ), จีเอ็มเอ็มทีวี และก็เอไทม์ทราเวเลอร์”
“เรื่องกำหนดผลประกอบการก็ไม่ขนาดนั้น ในแง่ของการเข้ามาเป็นบอร์ดบริหาร มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าการเข้ามาของผู้ถือหุ้นร่วมจะกดดันในเรื่องผลประกอบการ เพราะจริงๆ แล้วในส่วนของการทำงานปกติ ในฐานะของการที่เราเป็นซีอีโอก็มีการกำหนดกับทางบริษัทอยู่แล้วจะต้องเป็นอย่างไงบ้าง มันเป็นเรื่องของการบริหารการจัดการอยู่แล้วในปีหน้า ในส่วนของการตั้งเป้าของช่องเรามีการตั้งอยู่แล้วว่าเราจะมุ่งเน้นในแง่ของอะไรบ้าง มันไม่ได้ความว่าเขามาร่วมทุนแล้ว เราถึงไปตั้งเป้า”
มั่นใจช่อง GMM25 จะไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง แค่เป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ธุรกิจแข็งแรง
“ไม่ อันนี้ส่วนตัวเราได้คุยกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ ซึ่งเขาได้บอกกับเราว่าเขาเองก็ไม่ได้รู้จักอะไรกับธุรกิจตรงนี้เท่าไหร่หรอก อย่างที่บอกว่าเขามาในฐานะผู้ร่วมทุน เขาไม่ได้จะมาเปลี่ยนมาแก้ มาปรับอะไร คงไม่ใช่ตรงนั้นในเชิงของนโยบาย ในการร่วมทุนครั้งนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องของการบริหารจัดการ ในแง่ดีคือทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ในยุคนี้มันคงดีกว่าการที่ต่างคนต่างอยู่ วันนี้การจับมือกันน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการที่ทำให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น เพราะมันมีปัจจัยภายนอกภายในเยอะแยะเต็มไปหมด”