แกรมมี่ยอมจ่ายค่าชดเชยแก่งกระจาน หอบ “บิ๊กเมาน์เท่น” กลับเขาใหญ่ตามคำเรียกร้อง ทุ่มงบไม่อั้นระเบิดสนามกอล์ฟ เนื้อที่ 1.2 พันไร่ มั่นใจจะเป็นเฟสติวัลที่ดีและย่ิ่งใหญ่ที่สุด รองรับคนดูถึง 7 หมื่นคน
เดินทางกลับมาอีกครั้ง หลังจากพักไป 1 ปีในที่สุดเทศกาลดนตรีที่ทุกคนจดจำได้ PEPSI PRESENTS BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 2017 (เป็ปซี่ พรีเซนต์ บิ๊ก เมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล 2017) ก็ได้ฤกษ์จัดอีกครั้งในวันที่ 9 - 10 ธันวาคม 2560 ณ ดิโอเชี่ยน เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา โดยในปีนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายจากแก่งกระจาน กลับมาตุภูมิเดิม “เขาใหญ่” หรือจะเป็นการทุ่มงบเนรมิตสนามกอล์ฟกว่า 1,200 ไร่ให้เป็นงานเฟสติวัลที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี รวมไปถึงด้านโปรดักชั่นที่สุดอลังที่สุดเท่าที่แกรมมี่เคยทำมา ซึ่ง CEO Gmm Music Business “ภาวิต จิตรกร” ได้เผยรายละเอียดให้ผู้สื่อข่าว MGR online ฟังถึงโปรเจกต์ยักษ์แห่งปีนี้ว่ารับรองได้เลยว่าคุณจะได้ภาพจำครั้งใหม่กับบิ๊กเมาน์เท่น 2017 แน่นอน
“ความพิเศษของปีนี้คือการกลับมาจัดที่เขาใหญ่ ซึ่งการจัดที่แก่งกระจานไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าในการทำงานทุกๆ ครั้งเราก็จะมีการทำแบบสอบถาม พอทำแบบสอบถามไป ก็ได้ผลมาว่าคนที่เคยไปบิ๊กเมาน์เท่นมีความประทับใจและอยากที่จะกลับไปจัดที่เขาใหญ่มากๆ แต่ด้วยความที่เราจะกลับไปที่เขาใหญ่ เรากลับไปจัดที่สถานที่เดิมไม่ได้ ซึ่งยังติดปัญหาอยู่ เราเลยต้องหาสถานที่ใหม่ มันเป็นความท้าทายที่เราจะต้องหาสถานที่ 1,200 ไร่ เพื่อจะจัดงานบิ๊กเมาน์เท่น ราวนี้ เลยได้ที่ดิโอเชี่ยน ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟ ความพิเศษคราวนี้คือการจัดบิ๊กเมาน์เท่น ในสนามกอล์ฟ 9 หลุม”
“ซึ่งเรากำลังพูดถึงพื้นที่ๆ ใหญ่มาก และเป็นพื้นที่ที่เขียวที่สุดเท่าที่เคยจัดบิ๊กเมาน์เท่นมา เพราะทุกที ที่เราไปหาสถานที่ใหม่ๆ ก็จะต้องมีการถางหญ้า ปรับพื้นที่ปรับหน้าดิน มันทำให้เกิดประเด็นว่า มีฝุ่นแดง แต่ครั้งนี้ไม่เลย เพราะครั้งนี้มันเป็นสนามกอล์ฟ 9 หลุมที่ใหญ่มาก และมีทัศนียภาพที่ลงที่สุด เท่าที่เคยจัดบิ๊กเมาน์เท่นมาเลย เพราะตามสนามกอล์ฟ จะมีต้นไม้ใหญ่ คราวนี้เลยเป็นสิ่งที่พิเศษและเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งเมื่อเรามาจากที่นี่คือการออกแบบเวทีใหม่ทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่รูปแบบเดิมเลย ซึ่งเวทีที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดจะเป็นการล้อมไปกับทัศนียภาพของสถานที่ มันทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ และได้ประสบการณ์ใหม่”
“แต่ชื่อเวทียังเป็นชื่อเวทีเดิม แต่ความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิม อย่างสัญลักษณ์เวทีวัวก็จะเป็นเวทีวัวใหม่ เพราะในทุกครั้ง อย่างตอนที่จัดที่โบนันซ่าหรือที่แก่งกระจานเราจะต้องทิ้งวัวตัวนั้นไว้ที่นั่นเลยแต่ด้วยความที่โอเชี่ยนเขาใหญ่เป็นสนามกอล์ฟเราไม่สามารถ ที่จะทิ้งวัวไว้ที่นั่นได้ ทำให้ต้องถูกสร้างใหม่ โดยจะให้อยู่กับเราต่อไปได้ในอีกแบบหนึ่ง วัวตัวเดิมก็ยังอยู่ที่แก่งกระจาน เพราะเราไม่สามารถขนย้ายได้ไหว ซึ่งเวทีวัวยังเป็นสัญลักษณ์ของบิ๊กเมาน์เท่นอยู่เหมือนเดิมเพียงแค่เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปนิดหน่อย ประสบการณ์ความสนุกของเวทีบัวยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่าจะเซอร์ไพรส์จากเดิมมากยิ่งขึ้น”
เป็นเรื่องไม่คาดฝัน ดีไซน์สนามกอล์ฟจัดเฟสติวัล ยันการเดินทางสะดวกที่สุด
“จุดเด่นของสถานที่นี้อีกอย่างหนึ่งนอกจาก พื้นที่ที่กว้างใหญ่และเขียวขจี ก็คือบิ๊กเมาน์เท่นครั้งนี้จะเป็นบิ๊กเมาน์เท่นที่ติดถนนใหญ่ ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาเลย การเดินทางมาสะดวก การเลือกสถานที่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเรามีตัวเลือกอยู่หลายที่ ก่อนที่จะได้มาเป็นที่นี่ เหตุผลที่เลือกที่นี่คืออย่างแรกเจ้าของเขาใจถึง การที่เราจะได้จัดเฟสติวัลในสนามกอล์ฟ 9 หลุม สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะมันไม่สามารถเป็นไปได้เลย และอีกอย่าง พื้นที่นี้เราสามารถดีไซน์ให้เป็นพื้นที่ปิดทั้งหมดได้ เพราะพื้นที่ 1,200 ไร่นี้เราจะล้อมรั้วทั้งหมด พื้นที่ที่กางเต็นท์ที่ให้เช่าจะอยู่ในพื้นที่ล้อมรั้วทั้งหมด ซึ่งจะต่างจากบิ๊กเมาเท่นเดิม เพราะบิ๊กเมาเท่นเดิมพื้นที่กางเต็นท์ จะอยู่ภายนอกงาน แต่คราวนี้ไม่ ตอนนี้เราได้มีการเตรียมเต็นท์ไว้ไม่น้อยกว่า 3,000 เต็นท์ โดยจำนวนคนที่จะไป ไม่อยากให้เกิน 70,000 คน เราตั้งไว้ว่าน่าจะประมาณ 50,000 คน”
เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับคนดู 7 หมื่น
“แน่นอนว่าจะต้องมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีสถานที่ไหน ที่ถูกทำไว้เพื่อจัดงาน ที่รองรับคนกว่า 7 หมื่นคนโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเราจะต้องไปสร้างเสริม เช่นการสร้างเรื่องของระบบห้องน้ำ ระบบความปลอดภัย คืออยากจะบอกว่าเฟสติวัลที่ประเทศไทย เป็นเฟสติวัลที่หรูมากๆ ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะห้องน้ำ เพราะเฟสติวัลในต่างประเทศ ห้องน้ำเขามีแค่การวางถังใหญ่ๆ แล้วเอาไม้พาด และเจาะรู แล้วเอาฝาคอห่านมาแปะ แล้วก็ทำผนังกั้น แล้วก็ถ่ายหนักถ่ายเบาลงไป ซึ่งทุกคนก็ถ่ายลงไปในถังใบใหญ่ใบนั้นเหมือนกัน แต่ห้องน้ำที่บิ๊กเมาน์เท่นที่เราเตรียมไว้ เรามั่นใจว่า สะดวกสบาย มากกว่าเฟสติวัลอื่นๆ ในต่างประเทศ ถามว่าเพียงพอต่อความต้องการมั้ยเท่าที่เราทำมาและจากสถิติเราคิดว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่มา เพราะที่ผ่านมาเราก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ”
มาตามคำเรียกร้องจนต้องจ่ายค่าชดเชยสัญญาแก่งกระจาน
“เท่าที่ผมทราบช่วงเวลาไม่น่าตรงกัน ทางเราได้เซ็นสัญญากับทางแก่งกระจานไว้แค่ 3 ปี เอาเป็นว่าเราก็ต้องมีการชดใช้ และมีการรับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่าย และมีการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งการตัดสินใจนี้เป็นการตกลงร่วมกันของทางแกรมมี่กับทางป๋าเต็ด โดยคอนเซ็ปชื่อ บิ๊กเมาน์เท่นก็หมายถึงเขาใหญ่อยู่แล้ว เพราะจุดเริ่มต้นเดิมของบิ๊กเมาน์เท่นคือเขาใหญ่เฟสติวัล และคนทุกคนรู้สึกว่าบิ๊กเมาน์เท่นมันต้องอยู่ที่เขาใหญ่ และทำให้เกิดมีการเรียกร้อง เมื่อปีที่แล้วเราหยุดไป 1 ปี ครั้งนี้เรามีการทำแบบสอบถามเพื่อหาว่าทำยังไงให้บิ๊กเมาน์เท่นสนุกที่สุด อะไรคือสิ่งที่คนต้องการมากที่สุด แล้วเผอิญว่าเรื่องของโลเกชั่น เป็นหนึ่งในท็อปสามอันดับที่แฟนๆ พูดถึงว่าบิ๊กเมาน์เท่นถ้าไม่ใช่เขาใหญ่ก็ไม่ใช่บิ๊กเมาน์เท่น มันเลยเป็นที่มาที่ไปของการเปลี่ยนแปลงสถานที่ครั้งนี้”
“เรื่องการปรับปรุงสถานที่ข้อแรกคือไม่มีที่ไหนที่เหมาะสมสมบูรณ์กับการที่จะจัด เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีการจัดการทั้งการเปิดหน้าดิน ด้วยการถางที่ โดยเรามีการดีไซน์ออกแบบใหม่ โดยเลือกบางที่ ที่ต้องมีการเปิดหน้าดินให้เป็นที่จอดรถ ในพื้นที่ที่เป็นส่วนของสนามกอล์ฟ บนพื้นหญ้า ที่ ไม่อยากให้เกิดความเสียหายเราก็จะพยายามทำให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด การจราจรภายนอกภายในเรามีการออกแบบใหม่เพื่อให้กระทบกระเทือนต่อพื้นที่น้อยที่สุด เรามีการรองรับกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น”
อุบตอบงบประมาณ แต่ลั่นเป็นเฟสติสวัลที่ใช้เงินเยอะที่สุด
“เรื่องจำนวนตัวเลขผมอาจจะเปิดเผยไม่ได้ แต่สิ่งที่บอกได้คือเป็นงบประมาณจัดโชบิทที่สูงที่สุดของแกรมมี่ในปีนี้ เป็นเฟสติวัลที่ใช้เงินมากที่สุดของปี ซึ่งงบส่วนใหญ่เป็นงบของการจัดงาน ในเรื่องของโปรดักชั่นเป็นหลัก ลองคิดดูว่าการที่เราจะเนรมิตสนามกอล์ฟในพื้นที่ที่ว่างเปล่าให้เป็นงานเฟสติวัลที่สนุกที่สุด ผมกับป๋าเต็ดคุยกันว่างานครั้งนี้จะเป็นการเกิดเมืองใหม่ บิ๊กเมาน์เท่นคือการเกิดเมืองใหม่ เพราะคุณซื้อบัตร 1 ครั้ง คุณ ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้น 48 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องออกไปที่อื่นได้เลย นั่นแปลว่าต้องมีทุกอย่างครบ นั่นคือที่กินที่นอน ห้องน้ำ หมายถึงที่ใช้ชีวิตทั้งหมด มันคือการลงทุนที่เราลงทุนมากที่สุด ในเรื่องของสัญญาสถานที่นั้น ยังไม่ได้ระบุว่าจะเซ็นกันกี่ปี แต่เรามีการตกลงที่จะทำโปรเจคร่วมกันกับทางสถานที่นี้ในหลายๆ โปรเจกต์”
“ก็ต้องยอมรับว่าการจัดงานทุกงานในโลกล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง ผมว่าบิ๊กเมาน์เท่นมันเลยจุดของการทำพาณิชย์ไปแล้ว จุดของการทำพาณิชย์หมายถึงบิ๊กเมาน์เท่นคือการ สร้างวัฒนธรรมของคนที่รักดนตรี แน่นอนว่าในฐานะผู้จัดงานเราก็อยากที่จะทำกำไร แต่ว่าเราก็ไม่ได้ทำแบบที่ประหยัดที่สุดเพื่อให้เกิดกำไรสูงที่สุด เพราะจุดยืนของบิ๊กเมาน์เท่นยังต้องเป็นเฟสติวัลที่ดีที่สุด ลงทุนมากที่สุด ศิลปินครบถ้วนที่สุด และดีที่สุดสำหรับคนดู แล้วถ้าพูดในทางกลับกันในฐานะที่เป็นศิลปิน ผมก็ว่าศิลปินก็อยากขึ้นเวทีนี้มากที่สุด สำหรับผมบิ๊กเมาน์เท่นไม่ใช่สินค้าทางดนตรี แต่มันเป็นเรื่องของวงการดนตรี”
ลั่นอยากได้รับการสนับสนุน ไม่อยากให้จดจำแค่เขาใหญ่
“ที่เรามีความตั้งใจในการทำ เราก็อยากที่จะให้คนสนับสนุนและให้ความสนใจ อย่างในปีนี้เรามีการเน้นเรื่องของการโปรโมตมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และมีการโปรโมตเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมาเพราะเนื่องจากว่าในเดือนตุลาคมเราจะไม่มีการโปรโมตใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญ เรามีบัตร early cow ซึ่งจัดจำหน่ายวันเดียวเท่านั้น คือ 31 สิงหาคมนี้ โดยบัตรนี้จะลดราคากว่าปกติเหลือแค่ 1,500 บาทเท่านั้น โดยมีการจำหน่ายที่เซเว่น โดยบัตรที่เราเตรียมไว้ มีไม่เกิน 50,000 ใบ อยากฝากไว้ตรงนี้ว่าให้รีบจอง เพราะเดี๋ยวบัตรจะหมด”
“สิ่งที่อยากให้จดจำอย่างแรกเลย คือบิ๊กเมาน์เท่นคราวนี้ จัดที่ ดิโอเชี่ยนเขาใหญ่ ไม่ได้อยากให้จำแค่ว่าจัดที่เขาใหญ่ สิ่งที่ 2 บิ๊กเมาเท่นคราวนี้ มีศิลปินที่ต้องโดนใจคุณแน่นอน เพราะครั้งนี้มีศิลปินกว่า 200 ศิลปินและมีทุกแนวเพลง สิ่งที่สำคัญที่สามคือบัตร early cow ที่ลดราคาจาก 2,000 เหลือ 1,500 บาท ซึ่งถือว่าถูกที่สุด ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ถูกกว่านี้อีกแล้วไม่ต้องกลัวว่าในอนาคต จะมีบัตรผีหรือบัตรอะไรที่ถูกกว่านี้ ไม่มีแน่นอน”
ชาวบ้านเฮลั่น นำธุรกิจและรายได้กลับมา
“เราได้มีการพูดคุยกับทางชาวบ้านแล้ว ซึ่งในทางกลับกัน ชาวบ้านดีใจมากที่เรากลับไปจัดที่เขาใหญ่ ตอนที่ไปมีชาวบ้านเขามากอดป๋าเต็ดเลยด้วย เพราะว่าการที่เราจัดงานที่นั่น เหมือนเป็นการนำธุรกิจและรายได้ไปให้เขา ตอนนี้มีชาวบ้านเยอะมากที่ขอมาขายของที่บริเวณงาน ในส่วนของเรื่องเสียง ก่อนหน้านี้เราได้มีทดลองจัดงานที่นั่นมาแล้ว คือคอนเสิร์ตนั่งเล่นเฟสติวัล ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี