“เจ เจตริน” ลั่นเพลงคนละชั้นของ “เจ้านาย” ไม่ใช่ทาร์เก็ตในผับในบาร์ รู้ข้อกฎหมาย ไม่ให้ลูกชายละเมิด พาไปด้วยแค่อยากให้เรียนรู้การทำงาน ส่วนงานกลางคืนก็ไม่ใช่วิถีชีวิตลูกชาย บอกไม่รู้ดรามาจะเลยเถิดไปถึงไหน แต่เป็นคนใจกว้าง
เกิดกระแสดรามาขึ้นมาทันที หลังจากที่มีคนตาดีเห็น “น้องเจ้านาย” ลูกชายสุดฮอต “เจ เจตริน วรรธนะสิน” เข้าผับทั้งที่อายุไม่ถึง 18 ล่าสุด ทั้งคู่ก็ควงแขนมาเปิดใจถึงดรามาดังกล่าวในคอนเสิร์ตใหญ่ JDNA -X - TREAM CONCERT ณ ห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 21 GMM แกรมมี่เพลส ยันรู้ข้อกฎหมายไม่ละเมิด
เจ : “ตลอดระยะชีวิตการเป็นนักร้องของผม เจ้านายมีพ่อเป็นนักร้องจะติดตามผมไปทุกที่ ผมก็จะพาเขาไปดูคอนเสิร์ตทุกที่ ไม่ว่าจะในโรงแรม กลางแจ้งเวทีใหญ่ๆ แล้วยิ่งตอนนี้เขาเป็นเจ้านายมีซิงเกิลเพลงคนละชั้นแล้ว ก็จะต้องไปดูว่าเราทำงานยังไง เขาต้องรู้ทุกอย่างตั้งแต่ในห้องอัดและงานข้างนอก ดังนั้น ก็พาเขาไปดูทุกที่ สำหรับประเด็นที่ว่าเข้าผับทั้งที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ วันนั้นไปร้านของรุ่นพี่ที่สนิทกันมาก ร้านทองหล่อเล่นสด วันนั้นเป็นงานคอนเสิร์ตการกุศล จัดโดยตำรวจรุ่นใหญ่และเกษียณแล้ว สน.ทองหล่อ เอาเงินไปช่วยการกุศล ข้างบนจะเป็นร้านอาหาร ข้างล่างเป็นผับ เจ้านายก็ไปกินข้าวกับแม่และผู้ใหญ่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่วันนั้นเจ้านายไม่ได้เดินเข้าไปในผับ ไม่ได้ก้าวไปในอาณาเขตที่มีการขายเหล้า เคาน์เตอร์บาร์ ไม่ใช่เลย ทุกครั้งที่ผมให้เขาไปจะให้เป็นเหมือนแบ็กสเตจ ขนเครื่องดนตรี อยู่หลังเวที”
เจ้านาย : “ผมอยู่ข้างหลัง ไม่ได้เดินเข้าไป เราก็รู้ว่ามันไม่ถูกกฎหมาย เราก็ไม่ทำอยู่แล้ว ก็จะมีพี่บางคนมาขอถ่ายรูปก็อาจจะติดบรรยากาศข้างหลังไป”
เจ : “ผมระวังเรื่องนี้ตลอด ผมไปเล่นที่ทองหล่อเล่นสดครั้งนั้นเป็นรอบที่สอง รอบแรกก็มีคนอยากให้เจ้านายมา คนอยากเจอเขา ผมก็ยังบอกกับพี่ๆ เลยว่าไม่ได้ ถ้ามีภาพเจ้านายออกมาตรงที่มีคนดูในผับบาร์มันก็ผิดกฎหมายเพราะเขาอายุ 16 มันต้อง 18 ใช่มั้ย ครั้งที่สองเราก็พาไปเพราะเขาจะไปดูข้างหลัง คุยเรื่องดนตรี แต่ไม่ได้เข้าไปในส่วนของผับแน่นอน ไม่ต้องห่วง เขาไปกับพ่อ คือ ถ้าผมไม่ใช่พ่อเจ้านาย แล้วผมเป็นผู้จัดการค่าย แล้วเอาน้องไปอย่างนี้ก็คงจะบอกว่าว่าคุณเอาเด็กไปสถานที่แบบนั้น แต่นี่เขาก็ 16 แล้ว โตระดับหนึ่งแล้ว แต่ด้วยว่ากฎหมายมันไม่สามารถเดินเข้าไปในผับบาร์ได้ ส่วนรูปใครจะถ่ายก็ถ่ายได้ ไม่ซีเรียส
ยันด้วยเพลงไม่เหมาะเข้าผับ ด้วยวุฒิภาวะก็ยังไม่ถึง ไม่รับงานกลางคืนให้ลูก
เจ : “เราไม่รับอยู่แล้ว รับตอนนี้ผมว่าก็คงไม่เหมาะ เพลงคนละชั้นของเจ้านายไปผับบาร์มันคงไม่ใช่ มันยังไม่ถึงเวลาด้วยวัยวุฒิเอง และตัวเลเวลการทำงานและพลังของเขายังไม่ไปตรงนั้น วันนี้เราออกเป็นซิงเกิลให้แฟนๆ เจ้านายได้ฟัง มีเอ็มวีให้ดู ได้จัดมีตแอนด์กรี๊ดก็เท่านี้แหละ เดี๋ยวปีหน้าออกสักหนึ่งซิงเกิล ทำไปเรื่อยๆ ค่ายเราชิลๆ ยังไม่มีนโนบายให้เจ้านายทัวร์คอนเสิร์ต พูดในฐานะพ่อและเจ้าของค่าย อาจจะเป็นแค่มีตแอนด์กรี๊ดแค่ตอนกลางวัน ไม่มีงานกลางคืนแน่นอน ก็จะยังพาเขาไปด้วยเหมือนเดิมครับ อยู่ข้างหลังเวทีคอยยกเครื่อง ยกไมค์ให้ผม เป็นเด็กยกเครื่องไม่รู้เหรอ (หัวเราะ)”
บอกเล่นคอนเสิร์ตดึกก็ไม่ใช่วิถีเจ้านาย และไม่รู้ดรามาจะเลยเถิดไปถึงไหน
เจ : “เจ้านายเขาละเอียดยิ่งกว่าผมอีก เขาจะแบบตรงนี้ไม่ได้นะพ่อ อย่างวันนั้นที่คนมาขอถ่ายรูปจะดึงเข้าไป เขาก็ไม่เข้า เขาไม่ได้ มันเป็นเรื่องของสามัญสำนึกของเราอยู่แล้วว่ามันทำไม่ได้เรื่องกฎหมาย แต่ดรามาอะไรผมไม่ได้ตามจริงๆนะ ไม่รู้ว่ามันจะเลยเถิดไปถึงไหน แต่ที่ทองหล่อเล่นสดวันนั้น จริงๆ เป็นงานการกุศลด้วย เป็นวันธรรมดาเราเริ่มเล่นตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่ง ถือว่าเล่นเร็ว ปกติผมจะขึ้น 5 ทุ่มถึงตี 1 ก็ไม่ใช่วิถีของเจ้านายอยู่แล้ว แต่แค่อยากให้เขาเห็น”
เจ้านาย : “ก็ไม่ค่อยมีใครมาถามเรื่องนี้นะครับ ก็ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนเดิม เราก็เป็นตัวเอง แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร เป็นเด็กยกเครื่องครับ”
เจ : “ผมไม่ค่อยกังวลอะไรกับเจ้านายนะ เพราะการดูแลตัวเองของเขาดีมาก การพูด การโพสต์ การใช้ชีวิต เขาเป็นคนนิสัยน่ารัก nice กับทุกคน ดีกับทุกคน ถึงแม้จะมีข่าวอะไร เขาก็ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ข่าวนั้น เราเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กเราต้องใจกว้าง เรื่องปกติธรรมดา เราเข้าวงการมันก็เป็นแบบนี้ครับ”