ยอดผู้กำกับเจ้าของหนังทำเงินอันดับ 1 ตลอดกาล มองว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ “ Wonder Woman” เป็นการ “ก้าวถอยหลังของฮอลลีวูด” ในการทำหนังเกี่ยวกับผู้หญิง และ “คาเมรอน” ก็ยังมองว่าตัวละคร “Wonder Woman” ยังมีความล้าหลังกว่า “ซาราห์ คอนเนอร์” ตัวละครนำในหนังชุด “คนเหล็ก” ของเขาด้วยซ้ำ
โดย คาเมรอน ได้กล่าววิจารณ์อย่างตรงๆ ตามสไตล์ว่า การที่ฮอลลีวูดมาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ Wonder Woman โดยเฉพาะในมุมที่ว่าหนังเรื่องนี้คือความ “ก้าวหน้า” ของฮอลลีวูดในการทำหนังที่มีผู้หญิงเป็นตัวนำนั้น “เป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง”
เขายังบอกว่าสุดท้ายแล้ว Wonder Woman ก็ยังเป็นตัวละครที่ขายภาพลักษณ์แบบเดิมๆ อย่างที่ ผู้ชายในฮอลลีวูดนำเสนอผู้หญิงในภาพลักษณ์นี้มาตลอด “ผมไม่ได้บอกว่าไม่ชอบหนัง แต่คิดว่ามันคือการก้าวถอยหลัง”
ไม่เท่านั้นเจ้าของหนังชุด Avatar และ Terminators ได้เทียบ Wonder Woman กับตัวละครสาวแกร่ง “ซาราห์ คอนเนอร์” ในหนังชุด คนเหล็ก ของเขา และกล่าวว่า “ซาราห์ คอนเนอร์ ไม่ได้เป็นไอคอนด้านความงาม … เธอแกร่ง, เป็นตัวปัญหา, เป็นแม่ที่ห่วย แต่ผู้ชมก็ยังยอมรับในความแน่วแน่ของเธอ สำหรับผมตัวละครแบบนั้นให้อะไรกว่าเยอะอย่างชัดเจน คิดดูว่าผู้ชมของเรากว่าครึ่งเป็นผู้หญิง”
ในการให้สัมภาษณ์กับ The Guardian สื่อดังแห่งเมืองผู้ดียังถาม คาเรมอน ว่าทำไมยุคนี้แล้ว แต่ฮอลลีวูดก็ยังนำเสนอภาพของผู้หญิงออกมาด้อยกว่าผู้ชาย ซึ่ง คาเมรอน ก็ยอมรับตรงๆ ว่า “ผมไม่รู้นะ ไม่รู้เหมือนกัน มีผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในฮอลลีวูดอยู่เหมือนกัน แล้วพวกเธอก็เป็นคนกำหนดแนวทาง ทำหนังให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ต้องการด้วย แต่ผมก็ไม่เคยเห็นพวกนี้จะทำอะไรเลย เพราะมันหลายครั้งแล้วที่ผมต้องสาธิตอะไรแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนต้องตะโกนสู้ลมอยู่คนเดียว”
แน่นอนว่าคำให้สัมภาษณ์ของ คาเมรอน ถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนทันที โดยส่วนใหญ่กล่าวหากลับว่า คาเมรอน กำลังพยายามแสดงความเหนือ และผูกขาดการตีความหมายของคำว่า “สตรีนิยม (Feminism)” เอาไว้คนเดียว และยังแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เข้าใจความหมายของคำว่าสตรีนิยม ในยุค 2000s เลย ยังมีบางคนที่บอกว่าตัวละครหญิงของ คาเมรอน ในหนังหลายๆ เรื่องอาจจะเป็นตัวละครที่น่าชื่นชม แต่ฉากที่ เจมี ลี เคอร์ติส ต้องถูก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนคเกอร์ ที่เป็นสามีบังคับให้แก้ผ้าเต้นยั่วใน True Lies นั้นเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับผู้หญิงมาก
คาเมรอน วัย 63 ปี กำลังจะเปิดกล้องหนัง Avatar ภาคต่อไปที่เขาเตรียมจะถ่ายทำหนังติดต่อกันถึง 4 ภาค เพื่อเข้าฉายตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป