xs
xsm
sm
md
lg

“เวฟ สาริน” เคลียร์ข่าวว่าที่เจ้าสาวเป็นทอม ยันไม่รู้เป็นทายาทตึกใบหยก ซึ้งใจพ่อ-แม่ไม่เรียกสินสอดสักบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เวฟ สาริน” ยืนยันว่าที่ภรรยา “บุ้ง” ไม่ได้เป็นทอม แต่ยอมรับตอนแรกไม่มั่นใจจนได้มาคบกันถึงมั่นใจว่าเป็นผู้หญิง โต้เป็นหนูตกถังข้าวสาร แจงคบกันโดยที่ไม่รู้อีกฝ่ายเป็นทายาทตึกใบหยก เผย บุ้งอยากแต่งงานตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่ตนไม่พร้อม บอกแฟนเป็นใครตนเป็นใครต้องดูตัวเองก่อนคู่ควรหรือไม่ ซึ้งใจพ่อ-แม่ฝ่ายหญิงไม่เรียกสินสอด

เป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว เมื่อนักแสดงหนุ่ม “เวฟ สาริน บางยี่ขัน” ประกาศเตรียมเข้าประตูวิวาห์กับ “บุ้ง สะธี” ทายาทพันล้านของตึกใบหยก หลังทั้งคู่คบหาดูใจกันมา 5 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่า สาวบุ้งเป็นทอม และหนุ่มเวฟเป็นผู้ที่เปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ รวมไปถึงประเด็นที่เจ้าตัวถูกมองตกถังข้าวสารมีแฟนรวย ล่าสุด ว่าที่เจ้าบ่าวเวฟได้มาเปิดใจเคลียร์ทุกประเด็น ในรายการ คุยเช้า Show ออกอากาศทางช่อง one 31 พร้อมเผยถึงจุดเริ่มต้นความรักในครั้งนี้เมื่อ 14 ปีที่แล้ว

“ระยะเวลาที่เราเจอกันจนมาคบกัน รวมทั้งหมด 13 - 14 ปี รู้จักกันเพราะเขาเป็นเพื่อนของรุ่นน้อง ก่อนหน้าที่จะมาคบกัน รู้จักกันมา 8 ปีแล้ว และที่กลับมาเจอกันได้เพราะน้องสาวโทร.มาถามว่า พี่เวฟมีคนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้รึเปล่า เราก็ถามกลับว่า ใครจะเปลี่ยน พอมีคนรู้จักอยู่บ้าง เขาก็บอกว่าน้องบุ้งจะเปลี่ยน เราก็ถามว่าบุ้งไหน เขาก็บอกว่า บุ้งนี้ เราก็บอกงั้นเดี๋ยวมาคุยกัน”

“มันคือช่วงของจังหวะชีวิตของแต่ละคน คือผมโสดพอดี ถามว่าถูกชะตาอะไรเขา ผมชอบตรงที่เขาเป็นตัวของตัวเอง แล้วเขาเป็นคนที่หลายบุคลิก มีทั้งสนุกสนาน ทั้งจริงจัง ถ้าใครที่รู้จักเขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ตัวจริงเขาเป็นคนน่ารักครับ แล้วก็ขี้เล่น ที่สำคัญคือผมชอบผู้หญิงไม่แต่งหน้า”

เผยไม่ชอบผู้หญิงในวงการบันเทิง
“ไม่ชอบครับ คือ จริงๆ ผมรู้สึกว่าเขามีอะไรบดบังความเป็นตัวของเขาตลอดเวลา คือ ผมโตมากับคุณแม่ที่ไม่แต่งหน้าเลย เขา (บุ้ง) ทำให้ชีวิตผมมีอะไรหลากหลายมากขึ้นในชีวิตมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรหลายๆ อย่าง พออยู่ด้วยกันแล้วมันไปกันได้ อยู่กันมา 5 ปีแล้วครับ เราทะเลาะกันบ่อยครับ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เยอะ ถามว่ามีหวงหึงบ้างมั้ย มีครับ ช่วง 3-4 เดือนแรกก็มีเยอะมาก แต่การง้อกันนั้นก็แล้วแต่ใครจะง้อใครครับ ที่เรามัดใจเขาได้เพราะความเป็นตัวของตัวเองมากกว่า ไม่มีการเฟคเข้าหากัน”

ยันว่าที่ภรรยาไม่ใช่ทอม แต่ยอมรับมองภายนอกก็ไม่มั่นใจจนมาคบกับถึงมั่นใจว่าแฟนเป็นผู้หญิง ฟุ้งถึงบุ้งจะออกทอมแมนๆ แต่ดูแลตนเต็มที่ทุกอย่าง
“คนเราถ้าเห็นภายนอกมันไม่มั่นใจหรอก นอกจากจะได้ศึกษากันจริงๆ ถามว่า ตัวจริงหวานมั้ย ผู้หญิงก็คือผู้หญิงนะ เป็นผู้หญิงคนนึง เขาเป็นคนชอบสบายๆ ไม่ชอบใส่กระโปรง ไม่ทะมัดทะแมง ถามว่าอยากมีโมเมนต์ที่แฟนแต่งตัวหวานๆ สวยๆ มั้ย ถ้าเกิดไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ ถ้าเป็นคนอื่น คู่อื่น เขาก็อยากให้แฟนแต่งตัวหวานๆ แต่สำหรับผม อยากให้เป็นตัวของเขา ส่วนใหญ่เราสองคนจะแต่งตัวคล้ายกัน อย่างเพื่อนๆ เรา อย่างแรกๆ ที่ถามเลยคือ ทอมเหรอ คบทอมเหรอ เราก็จะบอกว่า ลองคุยกับเขาดูก่อนแล้วจะรู้”

“จะเห็นว่าลุคเขาเป็นเหมือนผู้ชาย แต่เวลาที่เขาดูแลผม เขาดูแลเต็มที่ทุกอย่าง เราเรียกแทนกันว่า หมู ครับ ถ้าไม่หมู ก็จะเรียก เล็ก เขาจะแทนตัวว่า ตัวเล็ก แล้วมันจะเป็นคำติดปากเขาไป”

บอกไม่มีโมเมนต์ขอแต่งงานโรแมนติกๆ เหมือนในละคร แจงฝ่ายหญิงอยากแต่งตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วแต่ตนยังไม่พร้อม แฟนเป็นใครตนเป็นใครต้องดูตัวเองก่อน
“ผมบอกตรงๆ นะว่าผมไม่มีโมเมนต์นั้นเลย คือเรื่องการแต่งงานการใช้ชีวิตคู่ เราคุยกันมานานแล้ว เขาก็อยากจะแต่ง 2 ปีที่แล้ว เราก็คุยกัน แต่เรายังไม่พร้อม หนึ่งคือเขาเป็นใครเราเป็นใคร ต้องดูตัวเองก่อน ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่เขาที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองมา 5 ปี ปัจจุบันนี้ที่ได้แต่งงานก็ต้องขอบคุณเขาที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองต่อว่าเราจะดูแลลูกสาวเขาได้ (จุดไหนที่เราอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนี้?) ตลอดเวลาครับ เราอยู่กับเขาแล้วรู้สึกดี อยู่แล้วมีความสุข อบอุ่น เรารักที่เขาเป็นตัวเขา รักในครอบครัวเขา เพื่อนๆ เขา เพราะแวดล้อมเขาให้โอกาสตัวเองที่เราพิสูจน์ได้ และเขาไม่แคร์ข่าวเรา”

โต้เป็นหนูตกถังข้าวสาร ยันไม่รู้อีกฝ่ายเป็นทายาทตึกใบหยก
“มันไม่เกี่ยวกับฐานะ ผมพูดตรงๆ ว่า ผมคบเขาครั้งแรก ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาเป็นทายาทใบหยก คือมันเป็นสิ่งของนอกกาย เราคบกันด้วยใจมากกว่า ถามว่าเครียดมั้ยในตอนแรกที่มีคนมองว่าเราตกถังข้าวสาร เอาจริงนะ เครียด กลัวว่าครอบครัวเขาจะมองยังไง คนรอบข้างเขาจะมองยังไง เราเครียดมากกว่า แต่ก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ บอกว่า เวฟไม่ต้องไปอ่านนะ ใครอยากจะเมนต์อะไรก็ไม่ต้องไปสนใจ ข่าวพวกนี้มันมาเดี๋ยวก็ไป เรารู้ว่าเราเป็นยังไง”

ฤกษ์แต่งวันที่ 12 พ.ย. นี้ พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่เรียกสินสอดสักบาท
“คุณพ่อคุณแม่น่ารักมาก ไม่ได้เรียกสินสอดอะไรเลย แต่เราก็ต้องเป็นตามพิธีการ ตามสมควรให้เหมาะกับพิธีการครับ ชุดแต่งงานคงไม่ได้เห็นชุดเจ้าสาวเหมือนตามงานแต่งทั่วไป เขาอยากแต่งอะไรก็คือตัวของเขา มันเป็นของภายนอกครับ ส่วนเรื่องลูกผมอยากมีนะ ตัวบุ้งเขาเป็นคนที่รักเด็กอยู่แล้ว หลานคนเดียวที่เป็นลูกพี่ชาย บุ้งเขาดูแลดีมากครับ”

ขอบคุณว่าที่เจ้าสาวที่อยู่เคียงข้างมาตลอด 5 ปี ขอบคุณครอบครัวแฟนที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง
“จริงๆ ผมไม่ค่อยได้บอกเขาหวานๆ แต่วันนี้ก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณที่อยู่ดูแลกัน อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 5 ปี ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่ๆ น้องๆ ในครอบครัวของน้องบุ้งนะครับ ที่ให้โอกาสผมพิสูจน์ตัวเอง”









กำลังโหลดความคิดเห็น