จากข้อความสั้นๆ ที่ “พิชญ์ กาไชย” โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ของตัวเอง “ก็ว่าไม่....เราก็เพอร์เฟกต์ในระดับหนึ่งเด้ออ” พร้อมกับติดแฮชแท็ก “ต่ำตมไม่หยุด” กลายเป็นชนวน ดรามาที่ลุกลามบานปลายที่สุดในรอบสัปดาห์
เหตุอันเนื่องมาจากอดีตคน (เคย)รัก อย่าง “โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร” ไปให้สัมภาษณ์ในรายการคลับฟรายเดย์ โดยพูดถึงสาเหตุของการเลิกรากับแฟนเก่า ด้วยสาเหตุเพราะจับได้ว่าผู้ชายไม่ซื่อสัตย์ ทั้งที่ตนไว้เนื้อเชื่อใจมาตลอด โดยประโยคที่พีคที่สุดก็คือ
“เราก็เฟอร์เฟกต์ในระดับนึงแล้ว.....”
แม้จะไม่เอ่ยชื่อพาดพิงว่าเป็นใคร แต่ก็เป็นอันรู้กันว่าหมายถึงพิชญ์ ที่เคยคบหากันอยู่พักใหญ่ ขณะที่เป็นศิลปินร่วมค่าย อาร์เอส
จริงๆ ถ้าพิชญ์อยู่นิ่งๆ เรื่องนี้ก็คงไม่มีประเด็นเท่ากับการที่เจ้าตัวจงใจหยิบข้อความของอีกฝ่ายมาโพสต์เหน็บแนมในทวิตของตัวเอง ก่อนที่แฟนคนปัจจุบันจะโพสต์สมทบตามมาอีกดอกเอาเข้าจริงๆ ทั้งโฟร์ ทั้งพิชญ์ ล้วนตกเป็น “เหยื่อ” ทางการตลาดของรายการด้วยกันทั้งสิ้น
หรือใครจะเถียงว่า การที่คลับฟรายเดย์เลือกโฟร์มาออกรายการ เพราะเล็งแล้วว่า เรื่องราวความรักของโฟร์ ซึ่งยังไม่เคยถูกพูดถึงที่ไหนมาก่อน ย่อมสามารถเรียกเร็ตติ้งคนดูได้อย่างแน่นอน
ไม่ผิดที่โฟร์จะพูดถึงเรื่องราวในอดีต ถ้าบังเอิญว่าเรื่องราวในอดีตของตัวเอง จะไม่ไปกระทบกับปัจจุบันของคนอื่น โดยเฉพาะคนอื่นที่ว่า เป็นคนที่สังคมรู้จักกันดีด้วย
พิชญ์เองก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงอารมณ์กับการที่ตัวเองถูกพาดพิงถึงแม้จะไม่ได้ระบุชื่อ แต่การลงมาเล่นด้วยของพิชญ์ กลายเป็นว่าเป็นการพาตัวเองลงไปอยู่ในเกมของรายการอย่างจัง โดยมีการ ”ขยี้” ซ้ำ ด้วยฝีมือของแอดมินเพจของทางรายการ ที่เอามาขยายผลต่อเพื่อปั่นกระแส
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เพราะจากเทปรายการหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา สังเกตเลยว่า คลับฟรายเดย์ ตั้งใจหยิบเรื่อง ดรามาของดารา
มาเรียกเร็ตติ้งตลอด
ไม่ว่าจะเป็นเทปที่สัมภาษณ์ “น็อต-วรฤทธิ์” ในประเด็นที่พูดถึง “จอย-รินลณี” ที่พิธีกรถามว่า สามารถร่วมงานกันได้มั้ย ? และคำตอบก็คือ.....เอาจริงๆนะ ไม่ได้ แต่น็อตกลับมาเฉลยภายหลังว่า เป็นการตอบไปเพื่อให้รายการมีสีสันเท่านั้น !! หมายถึงว่าคำถาม-คำตอบ มีการเตี๊ยมกันมาก่อนแล้วหรือไม่ ? อย่างไร ? ลองถามใจเธอดู
กรณีของ “หญิง-รฐา” อีกเช่นกัน ที่ให้สัมภาษณ์ถึงอดีตพระเอกที่เคยคบกันระยะสั้นๆ แล้วก็จบเกมกันไป เพราะเธอรับไม่ได้กับพฤติกรรมของฝ่ายชายที่เป็นโรคพระเอ๊ก พระเอก เวลาไปไหนมาไหนจะต้องแอบซุ่มอำพรางตัวตลอด ทำเหมือนไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งในรายการระบุเพียงอักษรย่อว่า อ. แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่คนจะคาดเดาว่าหมายถึงพระเอกคนไหน ผลก็คือบรรดานักข่าวก็ตามไปสัมภาษณ์ความเห็นของพระเอก อ. คนนั้น กันอย่างพร้อมเพรียง
กรณีของน็อต กรณีของหญิง-รฐา ก็ไม่ต่างอะไรกับเคสต์ของโฟร์ ที่จะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นความจงใจของรายการที่จะทำให้เป็นประเด็น ผิดกันที่ 2 กรณีแรก ไม่ได้มีตัวละครซับซ้อนมากมาย หรือถูกขยี้ต่อ เรื่องก็เลยจบไปแบบรวดเร็ว
ส่วนเคสต์ของโฟร์ ที่มันบานปลายต่อ ก็เพราะดันไปเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่สังคมรู้จักกันดีทั้งสิ้น โดยประเด็นเกิดขึ้นภายหลังจากมีคนไปตั้งกระทู้ไปในพันทิปว่าอยากให้ทางรายการคลับฟรายเดย์เชิญ “หยาดทิพย์ ราชปาล” มาเป็นแขกรับเชิญบ้าง !!
หยาดถูกดึงเข้ามาในเกม เพราะมีการโยงไปข้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ “พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล” เจ้าของรายการ กับอดีตนักแสดง “เอส-วรฤทธิ์” ที่แม้จะไม่เปิดเผยแบบชัดแจ้ง แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่าคบกันในสถานะไหน
คือเป็นความตั้งใจของเจ้าของกระทู้ที่ต้องการเหน็บแนมพี่ฉอดว่า เอาเรื่องความรักของคนอื่นมาสร้างกระแส ขณะที่ความรักของตัวเอง ก็น่าแฉไม่แพ้แขกรับเชิญ ซึ่งเรื่องนี้แซ่บตรงที่ว่า พี่ฉอดบังเอิญ (หรือจงใจ ?) โพสต์รูปในไอจี ซึ่งเป็นคำพูดของตัวละครในช่อง Gmm 25 แต่ดันเข้ากับสถานการณ์ที่กำลังดราม่าเข้มข้นในโลกโซเชียลพอดี แถมยังมีมือดีสร้างทวิตปลอม อ้างว่าเป็นของพี่ฉอด โพสต์ข้อความแสบๆ คันๆ ทำให้เรื่องมันถูกขยายต่อไปกันใหญ่
วังวนความสัมพันธ์ระหว่างพี่ฉอดกับเอส เริ่มลามจากหยาด ไปถึงว่าน-ธนกฤต , บอย พีช เมกเกอร์ แม้กระทั่งกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ และมาช่า วัฒนพานิช
แต่งานนี้ ยังมีนักแสดงสาววิกหนองแขมอีกคนหนึ่ง ที่น่าจะต้องขอบคุณสังคมที่ลืมไปว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มากกว่าหยาด ที่โดนนักข่าวตามสัมภาษณ์จนขาขวิดด้วยซ้ำไป เพราะเธอคนนี้นี่เอง ที่เคยมีอดีตรักกับเอส ก่อนที่ฝ่ายชายจะผละไปเพื่อผูกสัมพันธ์กับเจ้าแม่เอไทม์ และเป็นเจ้าของซีนเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา กับดรามาเราสามคน ณ ร้านอาหารดังย่านเหม่งจ๋าย ซึ่งเจ้าของเป็นผู้จัดรายใหญ่ของช่อง 3 และเป็นต้นสังกัดของนักแสดงสาวคนดังกล่าว เสมือนพากันมาหยามถึงถิ่น
วกกลับมาที่เรื่องของโฟร์กับพิชญ์ !!
ถามว่าถ้าจะให้แฟร์กันจริงๆ ทางรายการน่าจะต้องเชิญฝ่ายหลังไปออกรายการบ้าง เพราะเชื่อว่าน่ามีแง่มุมอะไรเพิ่มเติมในส่วนที่ฝ่ายแรกพูดไม่หมด ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของ #ต่ำตม ก็ได้ใครจะรู้ !!
เรื่องนี้ได้รับการบอกกล่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้คนหนึ่ง ให้ข้อมูลมาว่า ที่โฟร์ให้สัมภาษณ์ในรายการ เน้นย้ำว่าความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของความรักนั้น ค้านกับพฤติกรรมที่เจ้าตัวเองก็คบซ้อน โดยระหว่างที่เป็นแฟนกับพิชญ์ ก็มีการแอบคบหากับวีเจ. หนุ่มรุ่นน้องคนหนึ่ง ชื่อเล่นว่า ป. ซึ่งเพื่อนในฝั่งผู้ชายต่างก็รับรู้ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่สุดท้ายเป็นทาง ป. เอง ที่รู้สึกไม่มั่นคงในสถานะที่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ กระทั่งเมื่อไปเจอกับนักร้องสาวร่วมค่ายเดียวกับโฟร์ ชื่อ บ. (งานนี้คู่ดูโออย่างมดรอดตัวไป) ก็เลยเริ่มต้นสานความสัมพันธ์กัน เมื่อความรู้ถึงโฟร์ ก็เที่ยวโทร. ไล่เช็คกับบรรดาเพื่อนร่วมค่ายตัวเอง อารมณ์หวงว่ากิ๊กเด็กจะทิ้งตนไปคบกับนักร้อง บ. แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ เพราะตัวเองก็มีสถานะเป็นแฟนกับพิชญ์อยู่ เลยต้อง (จำยอม) ปล่อยให้ทั้งคู่คบหากัน
ถึงทีตัวเองโดนพาดพิงบ้าง ไม่รู้ว่างานนี้โฟร์จะโพสต์ข้อความแล้วติด # ต่ำตม ไปถึงใครอีกหรือเปล่า !!??
ที่มา นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 400 15-21 กรกฎาคม 2560