“อ่ำ อัมรินทร์” พ้อเฝ้ารอละคร 5 ปี กว่าจะมีใครกล้าจ้างเล่นละคร ยิ้มรับชีวิตใหม่หลังเลิกเมีย เผยจิตใจสงบขึ้น-เลิกบ้า ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น หลุดพ้นห้วงแห่งทุกข์ด้วยธรรมะ รับเมียเก่ายังรู้เรื่องราวของตนทุกเรื่อง สบายใจที่ยังอยู่ ไม่ได้ล้มหายตายจากกัน แม้ไม่กลับมาเป็นครอบครัว เชื่อ “แอลลี่” จะรู้ พ่อรักลูกมากแค่ไหน
หายหน้าหายตาไปเลยทีเดียวหลังจากที่มีปัญหา เนื่องมาจากการหย่าร้างกับอดีตภรรยา “จอย อัจฉริยา อังคสุวรรณศิริ” ล่าสุดนักร้องนักแสดง “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” กำลังจะมีผลงานละครเรื่องใหม่เรื่อง “สิงหะ นาคะ” ซึ่งทำพิธีบวงสรวงที่สตูดิโอ ทีวีธันเดอร์ ลาดพร้าว 94 โดยเจ้าตัวเปิดใจด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า ตอนนี้เป็นคนใหม่ เลิกบ้าเลิกเพี้ยน ด้านเมียเก่าถึงแม้ไม่ได้กลับมาเป็นครอบครัวแต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน
“ก่อนจะมารับละครเรื่อง สิงหะนาคะ ผมก็อยู่บ้าน ก็ไหว้พระ พาแม่ไปเที่ยวบ้าง แล้วก็เตรียมงานส่วนตัวที่จะทำอะไรหลายอย่างกับรายการทีวี แล้วผมรอคอยโอกาสจากใครที่จะให้โอกาสที่จะได้เล่นละคร ผมไม่สามารถไปบอกใครได้ว่าผมอยากเล่นละคร ด้วยภารหน้าที่ต้องมีอยู่ที่บ้านที่จะต้องดูแล แล้วทางทีวีธันเดอร์ติดต่อมาให้ผมเล่นละคร พอได้รับได้ข้อมูลประเภทไหน เล่นกับใครบ้าง ก็ตกลงเล่น โดยเฉพาะมีรายชื่อของอาจารย์ต๊อก (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) อยู่ด้วย ไม่ต้องตัดสินใจนานเลย”
“ผมไม่ได้เล่นละครมา 5 ปีเลยนะ ผมไม่ได้เลือกนะ ผมเล่นได้ อย่างในเรื่องนี้ผมเล่นเป็นหมา 3 ตอนแรกไม่เห็นหน้ากันเลย เพราะว่าอาจารย์เขาจะเป็นอาจารย์ที่ปรุงยา รักษาลูกศิษย์ที่จะใช้อภินิหารเปลี่ยนแปลงตัวเป็นอะไรต่างๆ ส่วนเรื่องเคาะสนิม โอ้โห งงเลยนะ เพราะว่าเป็นทีมงานใหม่และเป็นนักแสดงใหม่ด้วย มีอาจารย์ต๊อกคอยบอกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะว่าผมไม่ค่อยได้อ่านบทนะ ไม่ใช่ว่าขี้เกียจนะ สายตาไม่ดี ใส่แว่นสายตาแล้วจะทำให้ปวดหัว มีปัญหาเรื่องการอ่าน”
เผยจิตใจสงบขึ้น ผ่านช่วงเวลาทำความเข้าใจจนหลุดพ้นห้วงแห่งทุกข์ บอกถึงจะไม่ใช่คนใหม่ แต่อะไรที่ทำให้ขัดแย้งกับคนอื่นจะไม่ทำ
“ที่ผมหายไป ผมไปทำธุระของตัวเองในเรื่องของส่วนตัว ที่จะพยายามคลี่คลายเรื่องราวของตัวเองให้ตัวเองเข้าใจที่สุด เรื่องของสถานะที่เปลี่ยนไปเรื่องของปัญหาที่จะเข้ามา ปัญหาที่เราไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา คลี่คลายปัญหาอะไรต่างๆ ด้วยเวลาผ่านพ้นและการที่เราทำความเข้าใจ พอตัวเองเข้าใจแล้วเราก็หลุดพ้นๆ จากห้วงความทุกข์ ก็อาจจะมีธรรมะที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย เข้าวัดเข้าวา ไม่ถึงกับปฏิบัติหรอกแค่เราไปร่วมบุญกับเขา มันสบายใจ เกิดความเข้าใจกับทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเรา ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวมากนัก”
“ผมรู้ว่าตัวเองเกรงกลัวต่อบาป เพราะกรรมที่ผ่านมาทำให้เราทุกข์ ที่เราไปทำอะไรไว้ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราก็ผ่านพ้นมาด้วยเรื่องอะไร คือการที่เราทำใจให้สงบๆ และสงบกับสิ่งที่เราศรัทธานำไปสู่สติ ถามว่าผมเป็นคนใหม่มั้ยผมก็ยังเหมือนเดิม ถ้าหยาบก็หยาบเหมือนเดิม ถ้าดีก็ดีเหมือนเดิมนะ แต่พวกอารมณ์ที่ทำให้ขัดแย้งกับคนอื่นผมคงไม่ทำ”
ฟุ้งลุยรายการ “ต้องแวะ” ออนแอร์ททบ.5
“ผมได้โอกาสจากทางช่อง 5 แล้วจะออกอากาศวันที่ 22 ก.ค.นี้ ชื่อรายการต้องแวะ คือเรามีเป้าหมายอยู่ที่หนึ่งระหว่างทางมีเรื่องสนใจมากมายเราเลยต้องแวะๆ รายการเดินทางนั่นแหละ เกี่ยวเก็บประสบการณ์ข้างทาง”
เมียเก่าพาลูกเที่ยวอเมริกา 1 เดือน ดีใจที่ลูกมีความสุข
“ตอนนี้น้องอยู่อเมริกา คุณจอยพาไปเที่ยว แอลลี่เคยไปตอน 6 เดือน ตอนนั้นเขาไม่รู้เรื่องอะไร แล้วเขามีความหวังอยากจะไป แล้วพอดีว่าเขาเรียนดีมาก ก็เลยแอลลี่ไปด้วย ก็ไปกันเกือบเดือนจะกลับมาวันที่ 13 ก.ค.นี้ เขาส่งรูปภาพมาให้ดู เขามีความสุขมาก”
“เขาโตเป็นสาวแล้วเราก็ไม่หวงนะ เราจะดูแลในหน้าที่ที่เรามี เราพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเองเพื่อที่จะได้มา แล้วก็ให้สิ่งที่ดีที่สุดแกลูก ผมไว้ใจคุณจอยว่าเขารักแอลลี่มากที่สุด เรื่องเข้าวงการผมว่าเดี๋ยวเขาก็มา เพราะว่าเขาก็ชอบอยู่นะ ถามว่ามีแววมั้ยเขาเป็นศิลปินแต่เด็ก ตั้งแต่เล็กมา เราปล่อยให้เขาเป็น ถ้าไม่ถูกไม่ควรเดี๋ยวคุณจอยเขาจะตักเตือน แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว”
รับเมียเก่ายังรู้เรื่องราวของตนทุกเรื่อง สบายใจที่ยังอยู่ ไม่ได้ล้มหายตายจากกัน แม้ไม่กลับมาเป็นครอบครัว ยันเลิกบ้าแล้ว
“ผมไม่มีโอกาสเจอคุณจอยเองมากกว่า เพราะว่าตัวของผมคือคุณจอยเข้าใจผม คือบ้านที่ผมอยู่ตรงนี้จะไปรับเขาที่สาทรแล้วไปโรงเรียน ผมก็จะเหนื่อย เมื่อไหร่ก็มาหากันได้นะ แล้วจอยรับรู้เรื่องราวของผมทุกอย่างเลยนะ มันผ่านเรื่องราวที่ไม่เข้าใจจนตอนนี้เข้าใจกันจริงๆ แล้ว ว่าอะไรคือเหตุนั้นและสิ่งที่เราสบายใจคือเรายังได้เห็นไม่ได้ตายหายไปไหน และสิ่งที่ต้องทำคือทำให้เขาสบายใจมากที่สุด เขาจะพยายามดูแลเราได้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เราก็จะไม่ทำตัวบ้าๆ บอๆ เหมือนก่อนว่าอยากทำอะไรทำเลย ตอนนี้เราก็กลับมาคิดว่าเราเหมาะสมที่จะทำมั้ย”
“ถามว่าเขาเป็นที่ปรึกษามั้ย เรียกว่าเป็นคนวางบิล เขาเป็นคนเก็บตังค์ เรื่องจะพาน้องมาอยู่ด้วย บ้านผมเปลี่ยนไปเยอะ ถ้าน้องมาอยู่คงจะงงเพราะว่าบ้านผมออกไปทางจิตรกรรม ผมว่าเขาอยู่กับแม่ดีที่สุดนะ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงด้วย ตอนนี้เราดูอยู่และเขารู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน”
