xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “ดีเจเชาเชา” ร้องไห้ไม่อยากสึก! เดินหน้าสู้คดีขับรถชนคนตายต่อ โอดยังหลอน ต้องให้แฟนขับรถให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ดีเจเชาเชา” คิดไม่ผิดที่บวช เผยแม่แฮปปี้มาก ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ยอมรับถึงกับร้องไห้ไม่อยากสึก โยนเรื่องคดีให้ทนาย รับยกเหตุการณ์ขับรถชนวัยรุ่นดับเป็นบทเรียน โอดยังหลอน ต้องให้แฟนขับให้


“ดีเจเชาเชา” ร้องไห้ไม่อยากสึก! เดินหน้าสู้คดีขับรถชนคนตายต่อ โอดยังหลอน ต้องให้แฟนขับรถให้

จากกรณีที่ “ดีเจเชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม” ขับรถชนวัยรุ่นเสียชีวิต และวันที่ 1 มิ.ย. ดีเจดังได้บวชอุทิศให้คู่กรณี ณ วัดสระมณี จ.อุดรธานี ล่าสุด ดีเจดังก็สึกออกมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมรับงานเป็นพิธีกรในงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์เซรั่มบำรุงหนังศรีษะ MASS H-1 หน้าอาคารสีลม คอมเพล็กซ์ ย้ำตัดสินใจถูกที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิต

“ยังไม่เบียดนะครับ คาดว่า จะเก็บตังค์อีก 2 - 3 ปี ดูให้เหมาะสมก็น่าจะโอเค ถ้ามีข่าวดีจะรีบบอกแล้วกันนะครับ ผมก็คิดว่าตัดสินใจถูก ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชายเราได้มีโอกาสบวช เราก็ได้บวชให้กับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งวันที่บวช แม่กับพ่อพี่เป็นคนที่มีความสุขที่สุด เพราะเราสังเกตว่าเขายิ้มตลอดเวลา แม่บอกว่าได้อาศัยชายผ้าเหลือง เกาะใบบุญขึ้นสวรรค์ แค่นั้นก็มีความสุขที่สุดแล้ว”

“แล้วก็บวชให้กับครูบาอาจารย์ บวชให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์พ่อพิฆเนศ บวชให้กับคนที่เรานับถือ และบวชให้กับน้องที่เสียชีวิตด้วย อันนั้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ตั้งใจจะทำให้เขา ได้ทำก็รู้สึกว่ามันมีความสุข เราได้ศึกษาพระธรรม เราเป็นพระใหม่ที่อาจจะท่องไม่คล่องเท่าไหร่ แต่ในส่วนอื่นๆ ที่เราช่วยวัดได้เต็มที่ก็อาจจะเป็นพระพีอาร์ มีญาติโยมมาจากอุดรฯ เพื่ออยากจะมาถ่ายรูปกับพระ หลวงพี่เชา และจองเพลเกือบทุกวัน ขอบคุณมากๆ ที่มาเลี้ยงเพลพี่เชาตอนที่บวชอยู่ มาครบเลย พิซซ่า เคเอฟซี ชาบู หมูกระทะมาหมดเลย”

ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่มีความสุขมากๆ และที่สำคัญมันสงบ คำถามที่คิดในใจตลอดเวลาแล้วมันไม่มีคำตอบ มันก็มีคำตอบ ทำให้ย้อนคิดกลับไปว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร และย้อนคิดกลับไป ทำตัวยังไง ผลสุดท้ายจะเป็นยังไง มันก็ได้ให้หลักคำสอนทางพุทธศาสนาช่วยทำให้เราใจเย็นขึ้น และสึกออกมาพร้อมทำงานได้เต็มที่ รู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกมากๆ แฮปปี้มีความสุขครับ”

เผยถึงกับร้องไห้ไม่อยากสึก แต่ต้องสึกเพราะหน้าที่การงานที่รออยู่
“วันที่สึกออกมาวันที่ 15 เชื่อมั้ยว่าร้องไห้ ไม่อยากสึก แต่ด้วยการงานที่มันรออยู่ข้างหน้า ต้องบอกพระอาจารย์ว่าขออนุญาตสึก พระอาจารย์ก็เข้าใจ คือ วันที่ 1 - 3 เนี่ยเป็นวันที่ยากที่สุดสำหรับคนที่บวช เพราะมันเหมือนเราต้องไปปรับตัวใหม่ วันที่ 1 เหมือนดีเพลสชั่น ไม่รู้ปรับตัวได้หรือเปล่า วันที่ 2 เป็นสึนามิ มันเริ่มหิวกลางคืน เริ่มโน่นนี่นั่น เราจะปฏิบัติตัวได้มั้ย ต้องตื่นตีสี่ครึ่ง วันที่ 3 ถ้ารอดวันนี้ได้ก็รอดแล้วคือวันหายนะ ใครจะผิดศีลยังไง คืนที่ 3 เนี่ยน่าจะเป็นคืนที่ยากสุด เพราะเราเริ่มคุ้นชินกับวัดแล้ว ถ้าเอานิสัยตัวเองเข้ามา รับรองพรุ่งนี้เช้าต้องปลงอาบัติกันแน่นอน อาจแอบกินมาม่า แต่เราได้ฝึกจิต ฝึกความอดทนในช่วงกลางคืน และได้ตื่นเช้า ฉันเช้า ฉันเพล”

“ทุกวันนี้ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่ได้เข้าไปบวชเรียน เพราะทุกวันนี้ตื่นไม่เกิน 7 โมงเช้า ทำโน่นนี่ ตอนอยู่วัดก็บิณฑบาตและรู้สึกว่าการตื่นเช้าทำอะไรได้เยอะเลย และได้เจอผู้คนที่น่ารัก โดยเฉพาะวัดที่ไปบวชที่อุดรฯ พ่อแม่แม่เฒ่าเราเหมือนเป็นลูกหลานเขา เขารู้วาเราชอบน้ำอัดลมก็บิณฑบาตน้ำอัดลมมาให้แต่เช้า แต่ก็จะมีหมู่บ้านบางบ้านที่ประทับใจ คือ ก้าวแรกเอาแตงโมมาให้ลูกหนึ่ง เขาบอกเหมือนเป็นการฝึกว่าเราจะไหวหรือเปล่า เอาแตงโมมาให้เราบิณฑบาต เดินไปเรื่อยๆ แล้วก็มีตักบาตรข้าวเหนียว ก็ต้องขอบคุณด้วยที่เมตตาและดูแลเชาเชาระหว่างบวชที่โน่น ขอบคุณชาวบ้านบ้านมากๆ ครับ”

ส่งทนายดูแลเรื่องคดีขับรถชนโจ๋ 18 ดับ เชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวร ยกเป็นกรณีศึกษาให้ตัวเอง
“ตอนนี้ให้ทนายประสานงาน รอรวบรวมหลักฐานฝั่งเราให้เยอะที่สุด ให้มากที่สุด ให้ทางตำรวจสรุปสำนวนคดี ปล่อยให้ทางทนายดำเนินการ ทางทนายก็บอกว่าให้เราดำเนินการไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถือว่าสบายใจ แต่เหมือนกับคนที่เคยทำอะไรผิดแล้วฝังใจ ถึงแม้เราไม่ได้ตั้งใจแต่มันจะมีบางแว้บที่มันแว้บเข้ามา แต่ก็ทำให้รู้ว่าในชีวิตคนเรา คนที่เจอหนักกว่าเราก็มี เขายังผ่านมาได้เลย แล้วทำไมเราจะผ่านไปไม่ได้”

“เราคิดตลอดว่าเป็นประสบการณ์ของชีวิตในช่วงชีวิตหนึ่ง บางคนอาจไม่เจอ แต่เราบังเอิญต้องเจอ แล้วเราก็ต้องผ่านไปให้ได้ แล้วพี่ก็เชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวร รู้สึกว่าอย่างน้อยๆ วันนั้นคนอยู่ตั้งเยอะตั้งแยะ แต่มีรถเราวิ่งมาคนเดียว เราเลยคิดว่าชาติที่แล้วหรือชาตินี้คงไปเอาอะไรของเขามา เลยต้องชดใช้ต้องมาเกิดเรื่องราวแบบนี้ แต่ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะเก็บเป็น Case studyให้กับตัวเองและต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง และผ่านไปให้ได้ ใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ทุกวันนี้ก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว บอกทุกท่านเลยว่ายังรับงานเหมือนเดิม ยังสามารถจ้างพี่เชาเชาได้อยู่ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่ตำรวจ เพราะทางเราให้ทางทนายเป็นผู้จัดการทั้งหมด ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ ก็น่าจะเร็วๆ นี้ ถามว่าได้เจอครอบครัวเขามั้ย ก็ให้ทางทนายเป็นคนติดต่อหมดเลย เพราะเขาบอกว่าให้เราทำงานไป ตรงนี้เขาดูแลให้”

หลอนๆ ไม่กล้าขับรถเอง ต้องให้แฟนขับให้
ใช่ครับ เริ่มแหยงๆ ปีนี้อาจมีคนขับรถ ใช้คนขับรถดีกว่า มันต้องมีบ้างที่ตัวเองต้องขับรถ มันก็ต้องระวังมากขึ้นต้องใช้ความเร็วให้น้อยและใช้ความระมัดระวังด้วย เวลาเราขับรถบนถนนต้องมีสติ ฝากถึงคนที่ขับรถบนท้องถนนด้วย ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน มันมีอะไรที่ถ้าจะเกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเราจะใช้ชีวิตโดยการมีสติ แล้วไม่ประมาทเราเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ เป็นบทเรียนอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้เราต้องจำไว้ และมีสติในการใช้ชีวิตครับผม”

กำลังโหลดความคิดเห็น