เปิดอก “ใหม่ เจริญปุระ” ในวันที่งานน้อยลง-อัปค่าตัวแพงขึ้น ความรักกับสาวหล่อ ที่ยอมตายแทนได้

เปิดใจ “ใหม่ เจริญปุระ” ในวันที่ตัดสินใจรับงานน้อยลง เผยเคยคิดจะออกจากวงการเมื่อ 8 ปีที่แล้วแต่ทำไม่ได้ รู้สึกดีขนาดอัปค่าตัวแพงมากจนแกรมมี่ทักท้วงแต่ก็ยังมีคนจ้าง ลั่นรักอาชีพนี้ขอร้องเพลงจนกว่าจะไม่มีใครจ้าง พร้อมเผยถึงความสัมพันธ์กับสาวหล่อผู้จัดการส่วนตัว ที่ชื่อ “นิด” ประทับใจอีกฝ่ายเป็นคนดี รับไว้ใจมากให้ดูแลทุกอย่างให้แม้กระทั่งเรื่องเงินๆ ทองๆ สถานะเป็นคนที่มองตาก็รู้ใจ แต่ไม่ให้เรียกแฟนเพราะพระทักตนเป็นผู้หญิงต้องห้าม

เป็นร็อกเกอร์ดีว่าของเมืองไทยที่ชื่อเสียงโด่งดังเป็นตำนาน แต่พักหลังกลับไม่ค่อยเห็นผลงานของ “ใหม่ เจริญปุระ” ทางหน้าจอทีวีสักเท่าไหร่จนหลายคนบ่นคิดถึงว่าเจ้าตัวหายหน้าไปไหน ล่าสุดมีโอกาสเจอร็อกเกอร์สาวใหม่จึงไม่พลาดคว้าตัวมาถามไถ่ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าตั้งใจรับงานน้อยลง เหตุโหมงานหนักมา 30 ปีอยากพักร่างกายแล้ว ถึงกับงัดไม้ตายอัปค่าตัวแพงขึ้นเพื่อให้คนจ้างน้อยลง พร้อมเปิดใจถึงความสัมพันธ์กับสาวหล่อผู้จัดการส่วนตัว นามว่า “นิด” คนที่เป็นเหมือนดวงตาของตน ยอมตายแทนได้

“อีเวนต์จะน้อยค่ะ งานที่ออกทีวีน้อย ถ้าตามหน้าจอก็เลยเหมือนว่าเราหายไป แต่ถ้าเกิดคนที่เป็นแฟนคลับแล้วตามใหม่จริงๆ ก็จะรู้ว่าต้องไปตามที่ไหน ใหม่ เจริญปุระ ตามเพจ ในไอจี ในเฟซบุ๊ก ก็จะเห็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เลยดูเหมือนกับว่าเราทำงานไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน แต่คนที่เขาก็เป็นแฟนคลับเรา แต่อาจจะไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเรา ก็จะคิดว่าเราออกนอกวงการแล้วเหรอ ทั้งที่จริงๆ เราทำงานมีงานตลอด ทำงานเยอะจนเพื่อนๆ บอกให้พักบ้างเถอะ”

“จริงๆ แล้วงานแน่นค่ะ แค่ไม่ได้แน่นเหมือนสมัยก่อนที่อึกทึกครึกโครม อย่างวันนี้ใหม่มีงาน หลังจากนี้ก็จะเว้นวรรคไปเพื่อจะไปพักผ่อนตัวเอง ดูแลตัวเอง เตรียมไปลุยงานชิ้นใหม่ต่อไป มันจะไม่ได้เป็นแบบสมัยก่อนแล้วที่วิ่งวันละ 3-5 งาน อันนั้นทำให้เราดูอิดโรย เดี๋ยวนี้กลับมาดูแลสุขภาพซะส่วนใหญ่ และใหม่จะมีงานส่วนตัวคือน้ำแร่ และครีม ใหม่เป็นพนักงานบริษัทที่กินเงินเดือนด้วย เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย ก็จะดูแลด้านการตลาด ชีวิตเราก็จะไม่นิ่ง มีงานตลอดค่ะ”

“จะนิ่งก็คือเวลาใหม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เราก็อยากจะฟิตแอนด์เฟิร์ม มีความสุข ให้อาหาร ให้วิตามินหัวใจหน่อย บางทีเห็นอย่างนี้มันดูไม่เหนื่อย แต่เราทำงานตรงนี้มา 30 ปีแล้วนะ เพราะฉะนั้นมันเหมือนกับว่า ทำยังไงให้ตัวเองรู้สึกสดใส เราต้องดูแลทั้งในและนอกวงการ เราก็ต้องอยู่กับตัวเราเองตลอดไปค่ะ”

ตั้งใจขึ้นค่าตัวแพงๆ ลูกค้าจะได้ไม่สู้ราคาเพราะอยากรับงานน้อยๆ อยากพักร่างกาย
“ที่ลดงานตัวเองเพราะเราทำมาเยอะแล้ว และอีกอย่างหนึ่งค่าตัวเราอาจจะแพงนิดนึง ใหม่ก็รู้สึกว่าถ้ามีงานปังจริงๆ ก็จะรับเลย แต่งานเราก็ไม่ได้น้อยลงขนาดนั้นนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานบิ๊กๆ หมดเลย เราค่อนข้างเลือกงานด้วยเหมือนกันนะ บางทีก็จะมีงานผับ ถ้าเขาสู้ราคาเราไหว เราก็โอเค อย่างราคาค่าตัวเรานี่ไม่ใช่เพิ่งขึ้นนะ แต่เราอัปให้แพงขึ้นมาแล้ว 15 ปี ตอนแรกแกรมมี่ก็ทักว่าแพงไปมั้ย แต่เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรพี่ หนูหายใจไม่ออก เวลาไปผับมันควันเยอะ บางทีมันดึกเที่ยงคืนตีหนึ่ง เขาก็บอกว่าถ้าอัปเยอะเดี๋ยวงานน้อยลงนะ ปรากฏว่างานกลับมา 200% เลย กลายเป็นว่าเขาสู้ราคาเรา จนใหม่ยังไงวะเนี่ย (หัวเราะ) แต่เราก็รู้สึกดี กลับมาตั้งสติว่าบางทีเราไม่ได้จะมาเอาสตางค์เขามากมาย แต่เราอยากสกรีนงาน ไม่ใช่ทัวร์คอนเสิร์ตกันจนจิตไหลไส้หลุด แต่งตัวกันบนรถรีบหัวกระเจิง (หัวเราะ)”

เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นนักร้องระดับตำนานที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีใครโค่นได้
“สิ่งที่ทำให้เรายังอยู่จุดนี้ได้ ใหม่ว่าข้อแรกต้องเป็นเพลงที่ยังติดอยู่ในหัวเขา ใหม่ทำเพลงใหม่มาหลากหลายเพลงเหมือนกัน แต่สุดท้ายเพลงเก่าๆ ก็ยังอยู่ในใจแฟนเพลง เราก็จะรู้สึกว่า แต่งไปเพื่อ (หัวเราะ) พอแต่งใหม่คนก็ยังจะชอบแบบเดิม แต่ก็โอเค เพื่อเป็นสีสัน ที่เหลือใหม่คิดว่าเป็นการวางตัว การไม่ลืมตัว การดูแลคุณค่าของงาน พัฒนาตัวเอง ต้องขอบคุณคุณแม่ที่สอนมาตลอดว่า แกอยู่วงการนี้ แกอย่ามาลืมตัวนะ ถ้าแกลืมตัว จบทันที เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเหมือนชิบที่ฝังลงไปในหัวเรา บอกตัวเองว่า รู้แล้วๆ ต้องกราบขอบพระคุณที่สอน ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะวันไหน ที่เราโด่งดัง คนตามเราไปเยอะ เราภูมิใจ ไม่ใช่เราผยอง เราต้องดูแลตัวเองด้วย ดูแลงาน เพราะตัวเราคือสินค้าอันหนึ่งที่มีหัวใจ แฟนคลับรักเรา เขารักเราที่หัวใจ เพราะฉะนั้นเราอย่าไม่ดีต่อเขา ต้องซื่อสัตย์กับงาน กับตัวเอง และกับแฟนคลับค่ะ”

เผยเคยคิดจะเฟดตัวออกจากวงการตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว แต่ทำไม่ได้
“จริงๆ ตั้งใจจะเฟดตัวเองมากกว่า 8 ปีด้วยซ้ำไป มุมมองเราเป็นอีกแบบหนึ่ง ณ ตอนนั้น เรามองว่าต้องอยู่อย่างฟู่ฟ่าตลอดเวลารึเปล่า ต้องดังตลอดเวลารึเปล่า ซึ่งจริงๆ แล้วเรามองดารารุ่นใหญ่หลายคนมากที่อายุเยอะแล้ว แต่เขาก็ยังรักการร้องเพลง แล้วคุณยังรักอยู่รึเปล่า มีคนต้อนรับมั้ย ถ้ามันมีและมันสร้างความสมดุลกันได้ ก็พบกันตรงนั้น แต่ถ้ายังอยากร้องแต่ไม่มีใครจ้าง ก็ไปเถอะ ใหม่เป็นคนไม่ชอบหลอกตัวเอง คือเธอไม่ได้อย่าบอกว่าเธอได้ อย่าหลอกตัวเองเลยดีกว่า แล้วมันจะทำได้ไม่นาน เราเป็นคนชอบทำงาน ถึงเราไม่ได้ทำตรงนี้แล้ว แต่มีคนเชิญไปร้องเพลงเพื่อเป็นเกียรติ แล้วมีคนต้อนรับ เราก็โอเคแล้ว”

“แล้วงานนี้มันอยู่กับใหม่มาค่อนชีวิต งานแสดง งานเพลง เพราะฉะนั้นมันมีพระคุณกับใหม่มาก ใหม่คงทิ้งเขาและสะบัดก้นไปไม่ได้หรอก เคยบอกไว้เสมอว่า เราอย่าคิดว่าตัวเองดัง แล้วทำตัวสวยฟู่ฟ่าไปวันๆ ควรดูแลผู้มีพระคุณ ควรดูแลผู้อยู่เบื้องหลังและคนข้างหน้าด้วย คนที่ให้งานให้โอกาสคุณ คุณได้ตอบกลับเขามั้ย ดูแลเค้าดีแค่ไหน แล้วคุณเป็นคนดีจริงมั้ย ดังในด้านที่ดีมันดีนะ ดีกว่าไปดังแค่ฟรุ๊งฟริ๊งไปวันๆ เพราะใหม่ยึดมั่นในตรงนี้จริงๆ นะ เห็นเป็นคนสมัยใหม่ แต่ก็เป็นคนหัวโบราณด้วย โลกมันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราต้องปรับตัว หาตัวเองให้เจอ แล้วยึดมั่นในสิ่งที่เราเลือกมาแล้ว ให้มันอยู่ในตัวเรา อย่าให้ไปจากเรานะ”

ไม่ใช่แค่ลักกี้อินเกม แต่ยังลักกี้อินเลิฟด้วย เมื่อถามถึงคนดูแลหัวใจ ใหม่ก็เผยถึงสาวหล่อผู้จัดการส่วนตัวที่ชื่อ “นิด” ว่าดูแลกันมา 21 ปีแล้ว ไว้ใจทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเงิน มองตาก็รู้ใจ ไม่เคยเจอใครดีกับตนขนาดนี้มาก่อน
“ก็เป็นผู้จัดการใหม่นะคะ ดูแลกันมา 21 ปี เขาเป็นรุ่นน้อง 6 ปี ตอนแรกรู้จักกันมาตั้งแต่เขายังไม่จบปริญญาตรี เขาเป็นเพื่อนรักใหม่คนหนึ่ง ก็รักกันแน่นแฟ้น คนนี้เขาบอกว่า จะตายแทนใหม่ได้นะ ก็จะรอดู (หัวเราะ) (ที่เขาบอกว่าตายแทนกันได้ อันนี้มันต้องพิเศษมาก?) คือใหม่ชอบพูดว่า ถ้าใหม่ตายยังไง ก็ฝากให้ทำนั่นทำนี่ด้วย เขาก็บอกว่า ไม่ชอบๆ อย่าพูดๆ ถ้าใหม่ตายยังไง เดี๋ยวเขาก็ตายตาม คือเขาเป็นคนดี เป็นคนชอบอุปมาอุปไมย”

“เขารับหน้าที่ดูแลน้ำแร่ใหม่ ดูแลผลิตภัณฑ์ใหม่ ดูแลชีวิตใหม่ บางทีก็ดูแลไปถึงลูกสุนัข คุณแม่ หายา ดูแลบ้าน คือเขาดูยันสากกระเบือยันเรือรบ ชนิดที่ว่ามีน้ำใสใจจริง และเป็นคนดีจริงๆ เราไม่ต้องพิสูจน์กัน เพราะเราเห็นมาตั้งแต่น้องยังเล็ก จนวันนี้เขาจบปริญญาโท จนจะต่อ ปริญญาเอก เรียกว่าเขาประสบความสำเร็จของเขา และในขณะเดียวกันเราก็กล้าให้เขาดูเงินเราด้วย เพราะเราไว้ใจเขา แต่เราก็แอบดูอยู่ (หัวเราะ) เหมือนเขาอ่านใจเราออกด้วยนะ เป็นคนที่มองตาก็รู้ใจ เราคิดอย่างนี้ เรายังงงทำไมรู้”

ยกให้อีกฝ่ายเป็นกัลยาณมิตรที่เป็นดั่งรากแก้วที่สำคัญในชีวิตตน
“อืม… ใหม่คิดว่าเป็นกัลยาณมิตรนะคะ เหมือนเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเป็นอะไรใดๆ เพื่อนแท้สำคัญ เพราะมันเป็นพื้นฐาน เป็นรากแก้วที่สำคัญของชีวิต ใหม่ว่าเพื่อนแท้หายาก โดยเฉพาะยุคนี้ ก็คือเพื่อนกิน เพื่อนนอน เพื่อนเที่ยว เพื่อนอะไรมันมีหมด แต่ใหม่อาจจะอยู่โรงเรียนแต่ย้ายโรงเรียนบ่อย เพราะฉะนั้นเพื่อนมันก็มีนะ แต่เขาแต่งงานกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้เรามีอยู่คนสองคนสามคนที่ไม่ว่ามาครั้งใดก็อยู่ ใหม่ว่าหายาก รักษาเขาให้ดี ดีกว่า”

“บางทีเราไม่ลงรูป ก็เหมือนเราบ้าถ่ายรูปคนเดียวรึเปล่า เขาเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปนะ ใหม่ก็จะชอบเล่นเซลฟี่ พอถ่ายจริงๆ ก็ไม่ได้ลง เพราะว่าด้วยความเหมาะสมอะไรต่างๆ ด้วย อีกอย่างแกสำอาง แกพะวง กลัวไม่สวยนั่นนี่ แต่ว่าพอสุดท้ายพอเราลง คนก็จะเริ่มมาแซว ทำไมหวานจัง เขาก็จะถือมาก เลยรู้สึกว่าไม่ต้องถ่ายด้วยกันดีกว่า”

ถึงใครต่อใครจะรับรู้ว่าเป็นคนพิเศษ แต่เจ้าตัวไม่สะดวกให้เรียกสาวหล่อว่าเป็นแฟน เหตุเพราะโดนพระทักหลายคนว่าเป็นผู้หญิงต้องห้าม คบใครก็ห้ามแต่งงาน ห้ามมีแฟน
“ไม่ค่ะ เพราะว่าหนึ่งอาจจะด้วยดวงชะตาด้วย สองใหม่ค่อนข้างมายด์ด้วย เพราะพระทักเราหลายคนว่าเราเป็นผู้หญิงต้องห้าม เพราะฉะนั้นไม่มีแฟนดีกว่า ไม่อยากมีใครที่มาเป็นแฟน พระทักว่าไม่ต้องแต่งงาน ห้ามมีแฟน ห้ามมีคู่ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม เราต้องอยู่คนเดียวแบบแมนๆ ถ้าเกิดจะมีเพื่อนเป็นเพื่อนกันเลยดีกว่า อย่ามาเป็นแฟน พอเป็นแฟนมันจะไม่ดี ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะคะ แต่พอหลายๆ คนพูด เราก็เริ่มคิดจริง สมัยเด็กๆ เราก็คิดมากเนอะ มาตอนนี้ไม่คิดมากแล้ว ก็ต้องเริ่มเข้าใจค่ะ มันเป็นอย่างนี้หลายๆ ครั้งแล้ว บางทีเราเจอคนรักที่ดีๆ แต่สุดท้ายมันก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเลิกกันไป (แสดงว่าถ้ามีความรักดีๆ เข้ามาก็ขอให้อยู่กันไปแบบนี้ ไม่ต้องระบุสถานะ?) ใช่ เป็นเพื่อนเป็นอะไรดีกว่า อีกอย่างเราเลยจุดนั้นมาแล้วด้วย”

“ตัวเขา(นิด)โอเคค่ะ เขาเป็นคนที่เข้าใจในตัวใหม่ และเข้าใจในชีวิตใหม่ จริงใจ เข้าใจเรามากพอสมควร เป็นคนที่รักเรา เลิฟมีเลิฟมายด็อกจริงๆ เค้าไม่ได้คิดอะไร แกเคยหาแฟนให้ใหม่ด้วย แต่เราบอกไม่เอาแล้ว เราไม่ต้องการแฟนแล้ว คือเราคบกันแบบที่ไม่ได้มาคิดว่าจะต้องจิ๊จ๊ะอะไรกัน ถามว่าจะเป็นคนที่เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเลยมั้ย คือใหม่ไม่กล้าพูดอะไรอย่างนี้ เพราะชีวิตไม่มีความแน่นอน แต่กับคนนี้ที่เรากล้าพูดว่าเขาเป็นคนดี ดูแลเราดี”

ถึงกับออกอาการเขิน บอกสาวหล่อเปรียบเหมือนดวงตาของตนที่คอยดูแลทุกอย่างในชีวิตให้
“(หัวเราะเขินๆ) เปรียบเขาเป็นตาให้เราละกันค่ะ เขาเป็นหูเป็นตาให้เรา ส่วนแม่เป็นหัวใจของเรา (ยิ้ม) เขาดูแลเราดีจริงๆ สิ่งหนึ่งที่ต้องขอบคุณมากๆ ก็คือแต่ก่อนจะมีคนมีความรู้สึกเข้าไม่ถึงเรา เราหยิ่งรึเปล่า หรือบางก็จะแบบใหม่อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ว่าเขาจะพยายามทะลายเราจริงๆ ให้รู้จักตัวตนเราจริงๆ คนก็พูดกันไป เขาก็จะทะลายตรงนั้นให้ด้วยวิธีของเขา ให้คนรู้สึกว่าจริงๆ เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น และก็ดูแลเราดีมาก เหมือนแกเป็นหมอดูเลย คอยบอกว่าคนนี้อย่าเข้ามาใกล้นะ เหมือนช่วยสกรีนคนให้เรา เหมือนเขามีเซ้นส์ เราดูเหมือนเป็นคนที่เก่งกว่าเขา แต่บางทีเราก็มีจุดด้อยจุดบอด พอเรามีคนที่เป็นตาที่สามให้ ช่วยดูว่าอันนี้ไม่เหมาะ อันนี้โป๊อย่าทำเลย หรืองานนี้ให้จัดเต็มเลย ซึ่งเขาจะคอยดูตรงนี้ให้เราค่ะ”