ถือเป็นการออกมาเผยถึงสาเหตุของการลาวงการอย่างเป็นทางการครั้งแรกของอดีตพระเอกหนุ่มชื่อดัง “สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์” หลังเจ้าตัวได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ให้กับคนที่สงสัยผ่านการ Live Stream บน twitch แบบยาวเหยียด
(อ่าน “สเตฟาน” หม่ำไปเล่าไปเหตุลาวงการ บอกไม่ชอบให้ใครบงการชีวิต เผยเคยกินเหล้าคืนละ 5 หมื่น)
ทั้งนี้ ในการเปิดใจดังกล่าวต้องบอกว่ามีคำพูดหลายอย่างของเจ้าตัวที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งทางทีมข่าวบันเทิงเองขอขอสรุปประโยคเด็ดๆ ที่อาจจะโดนใจของใครหลายคนมาให้ได้รับทราบกันอีกครั้ง
- ผมแค่อยากจะใช้ชีวิตของผมเหมือนคนทั่วไป...ผมมาเล่นละครผมก็แค่เป็นพระเอกตอนที่ผมเล่นละคร แล้วพอผมกลับบ้านไปผมก็กลายเป็นคนสามัญชนทั่วไปธรรมดา ผมต้องการแบบนั้นน่ะ
- ไม่ใช่ว่าผมไม่มีความสุขกับการเล่นละครนะ ผมก็มีความสุขกับการเล่นละคร แต่ว่าชีวิตผมไม่มีความสุขกับการที่ชีวิตผมเป็นดารา
- ผมเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ผมไม่ได้ติสท์นะ ผมทำตัวเป็นคนปกติอยู่ในวงการมันอยู่ไม่ได้ คนที่อยู่ในวงการมันต้องทำตัวอยู่ในวงการ มันต้องแยกแยะให้ได้ แต่ผมแยกแยะไม่ได้
- ผมเหนื่อย ผมเบื่อที่จะต้องทำอะไรตามคนอื่น...ผมเป็นคนทำอะไรเพราะผมอยากทำ แล้วผมจะมีโรคจิตอย่างหนึ่งผมรู้สึกว่าผมไม่มีอิสระไม่ได้ ผมอยากใช้ชีวิตในทางที่อยากใช้ ผมไม่ต้องการเป็นทาสใคร
- ผมเล่นละคร 10 ปี ผมได้หยุดนับวันได้เลย 50 - 60 วันเอง ผมได้หยุดสงกรานต์ทุกปี วันพ่อก็ไม่ได้หยุด วันแม่ก็ไม่ได้หยุด
- มีครั้งหนึ่งผมโกรธคนในกองถ่ายมาก...ผมโกรธมาก ผมถามเลยนะมึงไม่มีแม่เหรอ ไอ้สัตว์วันนี้วันแม่นะโว้ย มึงยังจะให้กูทำงานอีกเหรอ?
- ผมไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับปัจจุบันเลย ผมใช้เวลามองถึงอนาคตอย่างเดียวว่าอีก 4-5 เดือนผมถ่ายละครเรื่องนี้จบ จบปั๊บเรื่องใหม่มาผมก็ก้มหน้าถ่ายไป ก้มหน้า 10 ปี จนผมตื่นมาอีกทีผมอายุ 30 แล้ว
- ดาราเป็นทาสสังคม คนที่มีชื่อเสียงก็เป็นทาสของสังคม ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเราก็จะมีผู้พิพากษาเป็นสังคมอยู่ตลอดเวลา มามองเรา มาตัดสินเรา มาคิดว่าว่าสิ่งที่เราทำดีหรือไม่ดี ซึ่งผมไม่ชอบแบบนั้น
- ถ้าผมจะเป็นตัวอย่างของเยาวชนก็ต้องยกที่ทั้งดีและไม่ดี ไม่ใช่เรื่องดีชมตัวเอง พอเรื่องไม่ดีมาโทษคนอื่น นั่นแหละคือการที่เราเป็นทาสนะ
- อย่าง เบนซ์ เรซซิ่ง...ผมคิดว่าถ้าเค้าไม่ได้แต่งงานกับแพท ไม่ว่าเค้าจะทำผิดหรือถูก เค้าทำแบบเดิมนี่แหละ แต่สังคมจะไม่ไปลงโทษเค้าขนาดนี้ การที่เค้ามีชื่อเสียงมันทำให้เค้าเป็นทาสของสังคม แล้วผมไม่ได้อยากเป็นอย่างนั้น
- ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบที่จะอยู่ในวงการนี้ ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนหยิ่งแล้วคิดว่าตัวเองดีกว่าวงการ ไม่ใช่ ผมแค่รู้สึกเหนื่อยกับสิ่งพวกนี้
- ประมาณปีที่ 9 แม่ผมป่วย โรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต ต้องฟอกไตวันเว้นวัน ผมรู้สึกว่า 10 ปีที่ผมทำงานมาผมไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่เลย
- ตั้งแต่เด็กผมขอกับพระเจ้าตลอดว่าขอให้ผมได้ตายก่อนพ่อแม่ ผมจะได้ไม่ต้องเสียใจตอนที่พ่อแม่จากไป ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นมุมมองของคนเห็นแก่ตัวมากนะ
- ต้องอยู่ให้พ่อแม่ภูมิใจ แล้วก็ให้เค้าไปก่อนเรา ผมว่านี่คือสิ่งที่เราตอบแทนพ่อแม่ได้ที่สุดแล้ว ผมก็เลยออกมาจากวงการมาอยู่กับเค้า ทุกวันทำกับข้าวกินกัน ล้อเล่นกันทุกวัน จนแม่ผมเสีย
- พอแม่ผมเสียปีกว่าแล้ว ผมย้ายบ้านมาอยู่กับพ่อและน้องสาวคนเล็ก พ่อ 76 แล้ว ซึ่งผมก็อยากใช้เวลาอยู่กับพ่อให้นานที่สุดและนี่ก็คือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ผมลาออกจากวงการ
