“เป๊ก - ทอม” กอดคอกันรวย รับงานคู่เพียบ จิ้นกันแบบพี่น้อง บอกชอบแนวเพลงเหมือนกัน เตรียมทำเพลงคัฟเวอร์ร่วมกัน ปัดอัปค่าตัวเพิ่ม เผยรับงานเรตค่าตัวไม่เหมือนกัน ยอมรับการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป งานเยอะขึ้น ความเป็นส่วนตัวน้อยลง
ดังแพ็กคู่จริงๆ สำหรับสองหน้ากากสุดฮอต “เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร” และ “ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์” ที่ล่าสุดออกงานเปิดตัวโกลบอลแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี เลย์ เพราะชีวิตต้องมีรสชาติ (Life Needs Flavor) ณ ควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ ทั้งคู่ก็เผยว่าช่วงนี้จะมีงานคู่ตามมาอีกเพียบทีเดียว
เป๊ก : “หลังๆ จะมีคู่กันเรื่อยๆ ครับ เดี๋ยวจะมีหนังสือที่เราไปถ่ายแบบกันมาหลายเล่มอยู่เหมือนกันที่ยังไม่ได้วางแผงครับ ก็จิ้นแบบพี่น้องครับ”
ทอม : “ด้วยความที่ว่าเราอยู่ในรายการเดียวกันตอนที่เราใส่หน้ากากจิงโจ้และหน้ากากทุเรียน เราชอบเพลงอะไรที่มันใกล้ๆ กันด้วย ชอบอาร์แอนด์บีเหมือนกันด้วย ก็ดูเหมือนเป็นพี่น้องร้องเพลงด้วยกันครับ”
เป๊ก : “และคาแรกเตอร์ของทอมก็จะน่ารักๆ แฟนคลับก็ชอบ เขาก็เลยมาจับคู่เล่นกับจิงโจ้”
ทอม : “ซิงเกิลร่วมกันก็อยากนะ เราเคยคุยกันอยู่ว่าอาจจะมีคัฟเวอร์ด้วยกัน ก็ชวนกันอยู่ครับ แต่ถ้าจะเป็นเพลงจริงจังอาจจะต้องคุยหลายฝ่าย แต่คัฟเวอร์เราทำกันเล่นๆ อยู่แล้วครับ ต้องรอดูเวลาที่เราสองคนว่างกันด้วยครับ แต่ว่าตอนนี้ต้องติดตามเพลงใหม่ของพี่เป๊กก่อนครับ”
เป๊ก : “ค่าตัวเพิ่มเป็นดับเบิ้ลมั้ยเหรอ ไม่นะ สบายๆ (หัวเราะ) จริงๆ เราก็มีเรตของเราแต่ละคนอยู่แล้วครับ แต่ถ้าเป็นสองคนก็ต้องบวกเข้าไปเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ แต่เป็นแพ็กเกจคู่เรายังไม่ได้คิดขนาดนั้นครับ”
ทอม : “ตอนนี้ก็อยากลองเปลี่ยนการแต่งตัวให้แซ่บบ้าง พี่เป๊กเป็นคนแต่งตัวแซบใช่มั้ยครับ วันนี้ผมเปลี่ยนแนวก็เลยค่อนข้างมั่นใจ ปกติผมก็จะเขินๆ หน่อย คอสตูมก็จะถามว่าโอเคมั้ย สีฉูดฉาดเจ็บไปหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรดูพี่เป๊กใส่สิ (หัวเราะ)”
ยอมรับชีวิตเปลี่ยนไป งานเยอะขึ้น ไม่มีเวลาของตัวเอง
เป๊ก : “ที่ขอโทษบนเวทีวันนั้น ก็เหมือนเวลาที่เราทำอะไรไม่น่ารักมันก็มีการขอโทษเป็นเรื่องปกติครับ ก็มีสัญญาครับ คือพอเรามาอยู่ตรงนี้ มันก็ยังไม่ค่อยคุ้น บางทีไลฟ์สไตล์ของเรามันก็ยังเหมือนเดิม การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนเหมือนกันครับ ทำงานเยอะขึ้น มีเวลาของตัวเองน้อยลงครับ แฮงค์เอาต์นี่งดเลยครับ เปลี่ยนมาเป็นแฮงก์เอาต์บนเวทีกับแฟนคลับ”
“จริงๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรขนาดนั้นครับ เพราะเวลาผมไปคอนเสิร์ต เพื่อนๆ ก็ตามมาเชียร์อยู่แล้ว อย่างเมื่อวานไปเล่นที่ร้านแถวทองหล่อเพื่อนๆ ก็ตามมาเชียร์ ทุกวันมันก็สนุกครับ ข้อตกลงกับผู้จัดการไม่มีครับ เราก็ยังคงเป็นตัวเอง แต่ถ้าอะไรที่มันสามารถจะปรับให้ทำงานได้ง่ายขึ้นก็คงจะต้องปรับเพื่อทุกคนครับ”
ทอม : “ของผมไม่มีอะไรครับ ผมก็ยังเป็นตัวเองเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้จักตัวผมมากขึ้น รู้จัก รูม 39 มากขึ้น เวลาไปโชว์ตามร้านกลางคืนหรืออีเวนต์ก็มีแฟนๆ มาเชียร์ เรามองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะปกติเป็นคนขี้เขิน เวลามองไปที่ไม่มีคนรู้จักเราจะทำตัวไม่ถูก เกร็งๆ แต่เราเจอเขาบ่อยเหมือนเป็นคนรู้จักกันแล้ว เป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง มองไปก็อุ่นใจ กล้าพูด กล้าร้อง กล้าเล่นมากขึ้น เป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรามากกว่า”
“เรื่องความเป็นส่วนตัวต้องบอกว่าผมโชคดีที่มีแต่คนรอบข้างที่ดี แฟนคลับที่ดี เขาเลยไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนตัวหรือทำให้รู้สึกอึดอัดเลย เจอกันก่อนหรือหลังโชว์ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ข้อตกลงกับแฟนคลับไม่มีนะครับ ผมว่าเขารู้ขอบเขตของเขามากกว่า เวลาที่เขาตั้งใจมาเชียร์เรา เขาก็มาเชียร์เรา รู้ว่าหน้าที่ของเขาทำอะไรบ้างที่จะไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของทีมงาน ก็น่ารักครับ”
เป๊ก : “ของผมก็ไม่มีอะไรครับ อาจจะมีพี่ๆ นมซ้าย นมขวาช่วยดูแล ทุกวันก็อาจจะมีเรื่องเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นเราก็ไม่สามารถบังคับหรือห้ามได้ทุกคน ก็เลยอาจจะต้องให้นมๆ ช่วยกัน แต่ก็คงไม่ได้มีมาตรการเป็นกฎหรืออะไรขนาดนั้น ทุกคนก็ตั้งใจจะมาให้กำลังใจเรา มาร่วมสนุกกับเรา เหมือนเป็นแฟมิลี่ครับ”