ผลการชันสูตรได้เปิดเผยว่า “แคร์รี ฟิชเชอร์” ได้เสียชีวิตลงเพราะ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” และปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถระบุได้ นอกจากนั้นยังมีการตรวจพบยาเสพติดหลายประเภททั้ง โคเคน และเฮโรอีนในร่างไร้วิญญาณของเธอด้วย
TMZ อ้างรายงานอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่แห่งสำนักงานชันสูตรแห่งลอสแอนเจลิส ที่จะระบุว่าได้มีการพบยาเสพติดหลายประเภทในร่างกายของเจ้าของบทเจ้าหญิงเอลา ทั้ง โคเคน, เฮโรอีน และยาอี แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ฟันธงอย่างชัดเจน ว่ายาดังกล่าวมีผลต่อการเสียชีวิตของเธอหรือไม่ อย่างไรก็ตามเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่ายาเสพติดเหล่านั้น สามารถทำให้ผู้เสพมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเธอได้ แต่ไม่สามารถระบุปริมาณของสารดังกล่าว และช่วงเวลาที่เธอได้รับสารเสพติดเข้าไปในร่างกาย
แคร์รี ฟิชเชอร์ วัย 60 ปี เป็นลูกสาวของดาราชื่อดัง เด็บบี เรย์โนลด์ โดยตัวของเธอโด่งดังมาจากหนังไตรภาค Star Wars และยังได้ร่วมแสดงในไตรภาคชุดใหม่ที่เพิ่งกลับมาสร้างอีกครั้ง ซึ่งประเดิมด้วย Star Wars: The Force Awakens แต่นอกเหนือจากผลงานในหนังสุดฮิตแล้ว ฟิชเชอร์ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาเสพติด และปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเธอเคยนำประสบการณ์ต่างๆ มาถ่ายทอดเอาไว้ในนิยายเรื่อง Postcards from the Edge
แต่ในขณะที่เธอกำลังได้รับความสนใจ จากการกลับมารับงานแสดงในหนังชุด Star Wars แคร์รี ฟิชเชอร์ กลับต้องเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน หลังมีอาการหัวใจวายระหว่างเดินทางด้วยเครื่องบินจากลอนดอนไปลอสแอนเจลิสในวันคริสมาสต์เมื่อปีที่แล้ว และเสียชีวิตหลังจากนั้นอีก 2 วันต่อมา แต่ที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้นเพราะอีกแค่ไม่กี่วันหลังลูกสาวเสียชีวิต เด็บบี เรย์โนลด์ ดาราตำนานนฮอลลีวูด มารดาของ ฟิชเชอร์ ก็มาเสียชีวิตไปอีกคน
โดยในปลายปีนี้ Star Wars: The Last Jedi ผลงานเรื่องสุดท้ายในชีวิตของ ฟิชเชอร์ จะได้ลงโรงเข้าฉาย ซึ่งตามข่าวระบุว่าเธอได้ถ่ายทำฉากของตัวเองหมดเรียบร้อยแล้ว และผู้สร้างก็ยืนยันได้แล้วว่านี่จะเป็นหนังภาคสุดท้ายของตัวละครเจ้าหญิงเลอาด้วย ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่มีบทบาทอยู่ในหนังภาค 9 อันเป็นภาคจบปิดไตรภาคชุดที่ 3 ของ Star Wars