“หนูเล็ก ก่อนบ่าย” ปวดใจ พ่อป่วยหนักสารพัดโรครุม ล่าสุด ปวดท้ายทอยจนร้องไห้ แถมแม่อายุ 75 ยังป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่วซ้ำอีก แค่วูบเดียวที่คิดสั้น ลั่นตอนนี้ไม่ต้องห่วง เลิกคิดฆ่าตัวตาย จะขออยู่ดูแลจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
กำลังเผชิญกับปัญหาพ่อป่วยหนักสารพัดโรครุม สำหรับ “หนูเล็ก ก่อนบ่าย” หรือ “ภัทรวดี ปิ่นทอง” ล่าสุดเจ้าตัวก็เผยว่าอาการยังทรงตัว จากที่เคยกังวลเรื่องติดเชื้อก็หายแล้ว แต่พ่อกลับปวดท้ายทอยหนัก ทนไม่ไหวถึงขนาดร้องไห้
“ตอนนี้พ่อก็ทรงๆ ค่ะ แต่ว่าก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง พ่อเริ่มเดินได้ เริ่มพูดรู้เรื่อง อาการน่าเป็นห่วงหมดทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องการติดเชื้อนี่โชคดีไปแล้วค่ะ ไม่เป็นไรแล้วไม่ติดแล้ว หายหมดแล้วเชื้อนี้ออกไปหมดแล้ว แต่อาการอื่นคือพ่อจะปวดท้ายทอยเยอะมาก แล้วพอปวดเยอะมันจะทนไม่ได้ คือวันก่อนพ่อปวดจนร้องไห้ กระทืบเท้า กระโดด เราก็พาไปโรงพยาบาล เขาก็ให้ยาฉีดเข้าไปก็ทำให้พ่อเจ็บน้อยลง ถ้าหากว่ามันเจ็บมากขึ้นจะทำให้พ่อเดินไม่ได้ พูดไม่ได้ เหมือนเป็นอัมพฤกษ์ แต่ตอนนี้ดีขึ้นค่ะ เริ่มเดินได้แล้ว”
“จริงๆ แล้วมันเรียกว่าโรคอะไรไม่รู้ค่ะ บอกไม่ได้ มันหลายโรคเกิน เพราะพ่ออายุ 80 พอ 80 แล้วมันก็มาหมดเลย ทั้งหลอดเลือดตีบ เส้นเลือดในสมอง เส้นเลือดหัวใจ มันบกพร่องหมดเลยค่ะ ภูมิคุ้มกันก็บกพร่องด้วย มันเยอะมาก”
รับอึ้ง พ่อถามจะเดินได้อีกมั้ย ว่างเมื่อไหร่ต้องลงไปเยี่ยมโดยไม่มีข้อแม้
“แต่กำลังใจพ่อดีมากนะคะ เพราะว่าลูกๆ คอยดูแล โทร.หาทุกวัน แต่ล่าสุดนี่เดินไม่ได้อีกแล้ว เขาก็บอกว่าจะเดินได้อีกมั้ย ลูกๆ ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วพี่ชายที่ดูแลอยู่ก็บอกว่าเดินได้สิ เดี๋ยวพอพ่อหายปวดที่ท้ายทอยก็จะเดินได้อีก แล้วก็เดินได้จริงๆ ด้วย”
“ถ้าว่างวันสองวันคือลงไปเลยค่ะ ไม่ต้องมีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าว่างปุ๊บคือไปทันที ไปนอนเฝ้าพ่อจนตอนนี้เสียงแทบไม่เลย เพราะเราไม่ได้นอนเลย เราทำงานเราก็ไม่ได้นอนอยู่แล้ว พอกลับบ้านไปก็ไม่ได้นอนทั้งกลางวันและกลางคืน ก็เลยจะหนักหน่อย”
“ตอนนี้หมอบอกว่ารักษาตามอาการ คือ ปวดก็ไปๆ ปวดปุ๊บฉีดยา ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลค่ะ เพราะมันไม่มีผลอะไรแล้ว แต่ยาที่ฉีดไปตรงสมอง ผลก็คือจะทำให้พ่อหน้าบวมบ้าง ขาบวมบ้าง”
ทำได้ทุกอย่างแม้แต่ล้างก้น จะขอดูแลจนกว่าพ่อจะไม่มีลมหายใจ
“ตอนนี้ทำใจหมดแล้วทุกอย่างค่ะ เพราะรู้สึกว่าเราทำให้พ่อทุกอย่างที่เขาไม่มี จนเขามีทุกอย่างแล้ว สมบูรณ์แบบหมดแล้วค่ะ เราได้ล้างตูดล้างก้นให้พ่อแล้ว ทำทุกอย่าง ดูแลหมดแล้ว เหมือนเขาเป็นลูกเราคนหนึ่งเลย เหมือนตอนเขาดูแลเราตอนเล็กๆ เลย ตอนนี้ทำได้ทุกอย่างแล้ว ก็เลยทำใจแล้วก็สู้ ทำงานทุกวันนี้ขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่เอ็นดูที่ให้งานหนู ทำงานทุกวันนี้ให้พ่ออย่างเดียวเลย บอกกับแฟนเลยว่าขอนะ ขอดูแลพ่อกับแม่จนกว่าเขาจะไม่มีลมหายใจ”
รับพ่อภูมิใจที่แต่งงานกับสามีคนนี้
“เขาก็ได้แต่ยิ้ม จะถามทุกครั้งที่โทร.หาว่า ไหนไอ้อ้วนล่ะ คือเหมือนเขาภูมิใจมากที่แต่งกับคนนี้ หนูก็ถามว่าทำไมพ่อ เขาก็บอกไม่มีใครทนเราได้หรอก ต้องคนนี้ เขาอยากให้แต่งกับคนนี้”
วูบเดียวคิดสั้น ลั่นไม่ต้องห่วง วันนี้เลิกคิดฆ่าตัวตายแล้ว
“คือหายไปเลยค่ะ ตั้งแต่วันนั้นวูบเดียวแค่นั้น แต่มันก็น่ากลัวมากเลยนะคะ แต่มันก็หายไปแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ดีขึ้นมากๆ เพราะรู้สึกว่าต้องอยู่เพื่อดูแลพ่อ ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะดูแลพ่อ ใครจะส่งเงินให้พ่อ”
ชีวิตหลังแต่งแฮปปี้ ทุ่มเทเวลาให้พ่อมากที่สุด งดฮันนีมูน
“ก็ดีค่ะ ก็ปกติเหมือนเดิม เราอยู่กันเป็นเพื่อน เขาเข้าใจเรามากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเราเจออะไรมาเยอะมาก ได้เขามาช่วยดูแล ให้กำลังใจ ถือว่าสุดๆ ของเราแล้ว”
“เขาพูดมาอย่างหนึ่งคือเราจะกลัวตลอดว่าถ้าแต่งงานไป ทำงานมาส่งบ้านๆ จะทำให้เขามีปัญหากับพ่อแม่เขา แต่เขาพูดมาคำหนึ่งว่า ทำมาได้เท่าไหร่ให้พ่อไปเลย ก็เลยรู้สึกว่าโชคดีที่เขาเข้าใจเรา เขาก็ต้องดูแลธุรกิจของเราแล้วก็ของเขาด้วย ก็จะลงไปไม่ได้ แต่จะโทร.หากัน เขาเข้าใจค่ะ แพลนเที่ยวด้วยกันไม่มีเลยค่ะ มีแต่คนถามว่าไม่เห็นรูปในไอจีไปเที่ยวฮันนีมูนอะไรกันเลย คือตอนนี้เหมือนว่าต้องให้เวลากับพ่อ ไม่มีเวลาสวีตอะไรเลย”
พักเรื่องมีทายาท รับแม่ก็ยังป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วอีก
“น่าจะอีก 2 ปีค่ะ คือดูแลพ่อก่อนจริงๆ ค่ะ มีพ่อแล้ว ก็มีแม่อีก แม่ก็ 75 แล้ว แม่ก็ลิ้นหัวใจรั่วอีก แล้วอยู่ใต้กันหมดเลยเขาไม่มาอยู่กรุงเทพฯ เพราะเดินทางก็ลำบาก เขากลัวเราจะทำงานไม่เต็มที่”