xs
xsm
sm
md
lg

“ลินคิน พาร์ค" : One More Light ป็อบจ๋านำมา จนแทบลืมว่าเคยเป็น นู เมทัล/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สมาชิกทั้ง 6 ของวงลินคินพาร์ค(ภาพ pr Warner Music )
โลกยังคงหมุน สรรพสิ่งยังคงเปลี่ยนแปลง

เช่นเดียวกับที่ความเปลี่ยนแปลงในยุทธจักรดนตรีนั้นย่อมถือเป็นเรื่องปกติของศิลปิน

เพราะเมื่อตัวศิลปินสร้างสรรค์ผลงานมาถึงจุดสูงสุดหรือจุดอิ่มตัว ก็มักจะแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ฉีกหนีความจำเจ ซึ่งก็มีเสียงตอบรับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ขึ้นอยู่กับว่าความเปลี่ยนแปลงในผลงานเพลงที่ทำออกมานั้นดีหรือห่วย!!!

ลินคิน พาร์ค”(Linkin Park) หัวหอกแห่ง“นูเมทัล”(นิวเมทัล) ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่มีความเปลี่ยนแปลลงในผลงานเพลงให้เห็นกันเป็นประจำ นับตั้งแต่ 4 อัลบั้มหลังของพวกเขาเป็นต้นมา เรียกว่าจับทางกันแทบไม่ถูก

เริ่มจาก“Minutes to Midnight”(2007) อัลบั้มชุดที่ 3 ที่เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็น ก่อนจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในอัลบั้มชุด “A Thousand Suns”(2010) ที่ทางวงลินคิน พาร์ค หันมาทำงานในแบบกึ่งคอนเซ็ปต์อัลบั้ม พร้อมกับลดซาวนด์ดนตรีเมทัลที่เคยหนักหน่วงดุดัน หันมาเน้นแนวอิเล็กทรอนิคส์ป็อบ แดนซ์ ชนิดที่หลายคนฟังแล้ว คิดไม่ถึงว่านี่คือวงลินคิน พาร์ก

มาถึง “Living Things”(2012) วงลิงกินผัก ใช้สูตรยำรวมมิตรด้วยการนำองค์ประกอบเด่นๆในของเก่าจากอัลบั้มที่ผ่านๆมา มาผสมกับซาวนด์ใหม่ๆขึ้นมา

พอมาถึง“The Hunting Party”(2014) วงลินคิน พาร์ค เดินย้อนสู่ความดิบ มัน หนักกะโหลก ในยุคแรกๆอีกครั้ง ซึ่งสามารถเรียกศรัทธาจากแฟนๆที่ชื่นชอบงานเพลงหนักๆของวงลินคิน พาร์คในชุดแรกๆคืนกลับมาได้เป็นอย่างดี

มาวันนี้วงลินคิน พาร์ค มีความเปลี่ยนแปลงผ่านผลงานเพลงชุดใหม่ให้เห็นกันอีกครั้ง กับอัลบั้ม “One More Light”(2017) ที่ทางวงยังคงสมาชิกทั้ง 6 พะหน่อ ไว้อย่างเหนียวแน่น นำโดย 2 นักร้องนำตัวชูโรง คือ “เชสเตอร์ เบนนิงตัน”(Chester Bennington) : แหกปากร้องนำ และ “ไมค์ ชิโนดะ”(Mike Shinoda) : ร้องนำ-แร็พโย่-คีย์บอร์ด และรับผิดชอบด้านอื่นๆอีกหลากหลาย ส่วนสมาชิกอีก 4 คนที่เหลือได้แก่ “แบรด เดลซัน”(Brad Delson) : สับกีตาร์, “เดวิด ฟีนิกส์ ฟาร์แรล”(David “Phoenix” Farrell) ทึ้งเบส,“โจ ฮาร์น”(Joseph Hahn) : เทิร์นเทเบิล ดีเจ โปรแกรม และ รอบ บัวร์ดอน(Rob Bourdon) หวดกลอง

One More Light เป็นอัลบั้มชุดที่ 7 ของลินคิน พาร์ค ภายใต้สังกัด Warner Music อัลบั้มนี้มีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน ซึ่งทางวงได้ออกมาเผยถึงทิศทางการทำงานของวงว่า อัลบั้มชุดนี้เน้นอารมณ์ความรู้สึก และมีเรื่องราวที่เข้าถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น “ในตอนแรก เราอยากท้าทายตัวเองในเรื่องของดนตรี แต่มันก็กลายเป็นเรื่องชีวิตของพวกเรามากกว่าในที่สุด” เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำของวงเผย

อย่างไรก็ดีอัลบั้มชุดนี้ได้สร้างความอึ้ง เหวอ ให้กับแฟนๆ มาตั้งแต่การส่งซิงเกิ้ลแรก “Heavy” ออกมา ซึ่งเป็นงานเพลงในแนวอิเล็กทรอนิคส์ป็อบจ๋า จนทำให้เกิดดราม่าขึ้นมาอย่างมากมาย เพราะชื่อเพลงเห็นแล้วชวนให้คิดถึงความหนักดิบในสไตล์ลินคิน พาร์ค ชุดแรกๆ
ปกหน้า อัลบั้ม One More Light
ว่าแล้วเราก็มาไล่เรียงฟังบทเพลงทั้ง 10 เพลงจากอัลบั้มชุด One More Light กัน

เริ่มจากแทรคแรก “Nobody Can Save Me” เปิดอัลบั้มด้วยเพลงป็อบเพราะๆเมโลดี้สวยๆ ฟังสบาย แต่เนื้อหาไม่สบายกับการถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่มีความกลัว ความหวาดระแวง และต้องต่อสู้กับด้านมืดในใจตัวเอง

ต่อกันด้วย “Good Goodbye” ที่มี“Pusha T” และ “Stormy” 2 แร็พเปอร์มารวมฟีเจอร์ริ่ง บทเพลงโดยรวมยังคงมาในอารมณ์ป็อบจังใกล้เคียงกับเพลงแรก ต่างกันตรงที่ได้ลูกฮิปฮอปมาช่วยเติมสีสันให้สนุกขึ้น

Talking To Myself” บทเพลงที่เหมือนกันพร่ำบ่น พูดคุยกับตัวเอง ซึ่งได้ไอเดียมาจาก Talinda ภรรยาของ Chester บอกเล่าเรื่องราวของคู่รักที่ไม่เข้าใจกัน เพลงนี้มีความเป็นร็อกที่สุดในอัลบั้ม เด่นด้วยเสียงกีตาร์นำ และเสียงคีย์บอร์ดที่เล่นประสานคลอเคล้าไปได้อย่างกลมกลืนรื่นหู น่าฟัง

Battle Symphony” ผลงานซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้มที่ปล่อยออกมา กับเนื้อหาที่พูดถึงการต่อสู้กับโลกทั้งใบในจิตใจของตัวเอง ผ่านงานดนตรีที่แม้จะมีความเป็นป็อบอยู่มาก แต่ว่าก็มีความเป็นลินคิน พาร์ค อยู่อย่างชัดเจน

ส่วน “Invisible” เป็นป็อบเท่ๆ เสียงร้องของไมค์ไปด้วยกันได้อย่างดีกับซาวนด์ดนตรีที่หนาแน่นไปด้วยเสียงคีย์บอร์ด แถมมีการหยอดอารมณ์ด้วยเสียงเปียโนกรุ๊งกริ๊งในตอนท้าย

มาถึง “Heavy” ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาพร้อมๆกับมีดราม่าตามมา เพลงนี้เมื่อฟังในตอนแรกผมคิดไม่ถึงว่านี่คือเพลงของวงลินคิน พาร์ค แต่มันก็ถือเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ของวงๆนี้ ที่หากใครยึดติดกับซาวดน์ร็อกหนักๆแบบงานเพลงในยุคแรกๆของวงย่อมไม่ชอบเป็นธรรมดา

เพลง Heavy ได้นักร้องสาว Kiiara มาร่วมฟีเจอริ่ง เนื้อหาว่าด้วยจิตใจที่ต้องแบกรับอะไรที่หนักอึ้งไว้ ไม่ใช่เฮฟวี่ที่เป็นความหนัก ดุ ดิบ ของดนตรี อย่างที่วงลินคิน พาร์ค เคยสร้างชื่อไว้จนถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อแห่งนูเมทัล
ปกหลัง อัลบั้ม One More Light
ต่อด้วย “Sorry For Now” ป็อบเพราะๆ เนิบๆ อารมณ์เพลงต่อเนื่องกับเฮฟวี่ ส่วน “Halfway Right”มาในแนวอิเลคทรอนิคส์ฟังสบายๆ

One More Light” บทเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม ว่าด้วยเนื้อหาของความสูญเสียที่ไมค์เขียนอุทิศให้แด่เพื่อนผู้จากไปของเขา ทั้งเนื้อหาดนตรี เจือไปด้วยความเศร้า เพลงนี้ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น มีเพียงคีย์บอร์ด กีตาร์ ที่มาพร้อมกับซาวนด์ เหงา เศร้า ล่องลอย ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงเจ๋งๆที่ยังคงไว้ลายความเป็นลินคิน พาร์ค ได้เป็นอย่างดี

ปิดท้ายกันด้วย “Sharp Edges” มีเสียงอะคูสติกกีตาร์ที่ทั้งลูกปิ๊กกิ้ง ตีคอร์ด ฟังเด่นมากๆ ถือเป็นพระเอกในภาคดนตรีที่เข้ากันได้ดีกับเสียงร้องแบบสบายๆฟังเพลิน แต่เนื้อหาฟังน่าสนใจทีเดียว ว่าด้วยครอบครัวและการใช้ชีวิต

และนี่ก็คือ 10 บทเพลงจากอัลบั้ม One More Light ของวงลินคิน พาร์ค ที่โดยรวมแล้วมีความเป็นป็อบอยู่มากถึง 90% นั่นก็คือ 9 เพลง ส่วนความเป็นร็อกนั้นมีอยู่ 10 % หรือ 1 เพลง ปรากฏอยู่ในบทเพลง Talking To Myself ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งหลายบทเพลงในอัลบั้มชุดนี้นอกจากจะเป็นเพลงที่มีเมโลดี้สวย ฟังติดหูง่ายแล้ว ยังมีความไพเราะชวนฟังไม่น้อย

นับเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของลินคิน พาร์ค ที่ก่อให้เกิดดราม่าและข้อถกเถียงจากแฟนเพลงของวงๆนี้ ถึงทิศทางในการทำเพลงของพวกเขา ซึ่งด้านหนึ่งบอกเป็นความไม่หยุดนิ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งบอกว่านี่คือการเดินหนีในความเป็นนูเมทัล ซาวนด์ดนตรีที่สร้างชื่อให้กับพวกเขาจนประสบความสำเร็จเป็นวงร็อกชื่อก้องโลกมาจนถึงทุกวันนี้

ทั้งนี้หากย้อนไปใน“The Hunting Party”อัลบั้มชุดที่แล้วของลินคิน พาร์ค นั่นนับเป็นการเดินกลับไปสู่ความดิบ มัน หนักกะโหลก ในยุคแรกๆของวงๆนี้อีกครั้ง

ส่วน One More Light อัลบั้มชุดล่าสุดนี้ก็เป็นการเดินหนีดนตรีนูเมทัล มาเป็นป็อบจ๋า ขึ้นอยู่กับว่าคนฟังจะชอบ หรือไม่ชอบ จะยึดติด หรือไม่ยึดติด

อย่างไรก็ดีงานเพลงชุดนี้ของพวกเขาก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเพลงที่ดีทีเดียว เพราะสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ดทอป 200 ได้ ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ลินคิน พาร์ค ก็ยังเป็น ลินคิน พาร์ค ที่ไม่ว่าจะทำเพลงออกมาได้รับดอกไม้หรือก้อนอิฐ แต่งานเพลงของเขาก็ยังคงโด่งดังเป็นที่กล่าวขวัญถึงอยู่ดี

ส่วนใครจะยกให้วงลินคิน พาร์คเป็น“เจ้าพ่อแห่งนูเมทัล”

วันนี้อาจต้องคิดกันหนักหน่อย!?!
Heavy

กำลังโหลดความคิดเห็น