“อั้ม อธิชาติ” เผยปาฏิหาริย์ 2 ปีทีวีซีน ยังรอให้เล่น “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” เชื่อเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าตากสิน บอกช่อง 3 ก็คือบ้าน ยินดีกลับมารับใช้ สัญญาใจสำคัญกว่ากระดาษ
เชื่อชะตาฟ้ากำหนด “อั้ม อธิชาติ” อึ้ง เบื้องบนเลือกให้รับบทพระเจ้าตาก ยันช่อง 3 ก็คือบ้าน
รับบทเด่นเป็นพระเจ้าตากสิน งานนี้ “อั้ม อธิชาต ชุมนานนท์” ปลื้มมาก ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจในงานสรวงละครเรื่อง “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ณ พระราชวังเดิม กองบัญชาการกองทัพเรือ โดยเผยว่าช่อง 3 และทีวีซีนก็คือบ้านหลังหนึ่ง ยินดีกลับมารับใช้ตลอดเวลา
“การกลับมาแล้วงานกับทีวีซีน จริงๆ ก็ดีใจนะครับเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ไปไหน ตอนหมดสัญญาผมยังเข้าไปหาพี่ปิ่น (ณัฐนันท์ ฉวีวงษ์) หรือตอนที่เป็นงานบุญผมก็ยังไปเจอกับพี่ปิ่นอยู่ เป็นเหมือนบ้าน เหมือนครอบครัวแหละครับ และจริงๆ พี่ปิ่นได้เคยให้โอกาสในการเล่นเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะเริ่มทำเรื่องนี้ พี่ปิ่นเคยติดต่อผมไว้ ตั้งแต่ประมาณ 3 ปีที่แล้ว”
“อย่างที่ผมบอกว่าช่อง 3 ก็คือ บ้านของผม สิ่งไหนที่ผมมีโอกาสจะได้ทำงานให้กับช่อง 3 ได้ผมก็ยินดี อยากในเรื่องนี้ผมก็มีความตั้งใจที่จะเล่นละครซึ่งสร้างความรักชาติให้กับคนในประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะเราจำได้ว่าตอนที่เราเล่นละครเรื่องขุนศึก สิ่งที่เราจำได้คือผู้ชายทุกคนดูละครและมีฮีโร่เป็นของตัวเอง ยิ่งละครเรื่องนี้ถูกถ่ายทอดอยู่ในยุคของพระองค์ท่าน เป็นกษัตริย์ซึ่งเป็นนักรบ และผมเชื่อว่าพระองค์ท่านทรงเป็นฮีโร่ของคนไทยทั้งชาติได้ในเรื่องของความเสียสละ และการทำเพื่อประเทศชาติ เราเลยมองว่าเรื่องนี้เราอยากตั้งใจทำ”
ขนลุกปาฏิหาริย์รับบทพระเจ้าตากสิน
“จริงๆ ผมมีโอกาสได้รับใช้เกี่ยวกับการถวายงานสักการบูชาพระองค์ท่านอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้นผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญ แต่ผมเชื่อว่าความบังเอิญทุกอย่างมันคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น อย่างตอนที่ผมได้ไปร่วมงาน สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ที่วัดบางเดื่อ จังหวัดอยุธยา สิ่งที่เกิดขึ้นคือวันนั้นเรานั่งสมาธิอยู่แล้วตั้งใจว่าจะไปวัดนี้นะ แต่เดี๋ยววันอื่นๆ ค่อยไป ปรากฏว่า พอนั่งสมาธิเสร็จกลายเป็นว่าจะต้องไปวันนั้นให้ได้ ผมเลยได้ไปในวันนั้น และพอไปถึงเลยมีโอกาสได้ร่วมบุญในการร่วมสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ทางเรือ ซึ่งเป็นที่แรกที่จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์ทางเรือ โดยในพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้จะมีบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ ที่ออกแบบโดยอาจารย์จากกรมศิลป์ หลังจากนั้นผมเลยมีโอกาสร่วมบุญกับคนที่มีจิตศรัทธาในตัวพระองค์ท่านอยู่ตลอด”
“อย่างเช่น งานบวงสรวงพระองค์ท่านในวันนี้ ตอนแรกทีมงานมาถามผมว่าจะมีที่ไหน ที่ให้บวงสรวงพระองค์ท่านมั้ย ผมแนะนำไป 2 ที่คือวงเวียนใหญ่กับพระราชวังเดิม ซึ่งเป็นเหมือนบ้านของพระองค์ท่าน แต่ไม่ค่อยมีใครทราบถึงประวัติของที่นี่ สรุปเลยได้มาที่นี่ ซึ่งการไปขอสถานที่ปุ๊บก็ได้เลย ทั้งๆ ที่ปกติแล้วจะไม่ค่อยมีใครได้มา เพราะสถานที่แห่งนี้คือท้องพระโรงในสมัยก่อนเวลาที่พระองค์ท่านออกว่าราชการ”
“จริงๆ ผมไม่ได้รู้สึกเรียกมันว่าความกดดัน กับการมารับบทบาทนี้นะ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบที่ผมตั้งใจจะรับเล่นเอง และมีโอกาสขอพรจากพระองค์ท่าน ก่อนที่ผมจะรับเล่น ผมกราบอธิษฐานกับพระองค์ท่านว่าถ้าเป็นประสงค์ของพระองค์ท่านที่ทำให้ผมได้มีโอกาสมารับเล่นบทนี้ ก็ขอให้เป็นไปตามประสงค์ของพระองค์ท่าน ผมเลยบอกกับพี่ปิ่นว่าถ้าพี่ปิ่นยังให้ผมเล่นอยู่ ผมก็ยินดี ผมใช้เวลารอคอยการมาเล่นบทนี้ประมาณ 2 - 3 ปี”
ชี้ถ้ามีบุญวาสนาก็จะได้เล่นบทนี้ เชื่อในอำนาจพระบารมีพระเจ้าตากสิน
“ผมไม่ทราบได้ แต่เราตั้งใจว่าถ้าเรามีบุญวาสนาจะได้เล่น ก็ขอให้เป็นไปตามประสงค์ของพระองค์ท่าน เพราะจริงๆ เรื่องราวในนิยาย มันเป็นเรื่องกึ่งประวัติศาสตร์ ซึ่งบทที่ผมรับนั้นเป็นนักแสดงรับเชิญ เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าการที่เราเสียกรุงครั้งนั้น เกิดจากความไม่สามัคคี”
“ถามว่าผมเชื่อในอำนาจบารมีของพระองค์ท่านยังไงบ้าง เอาง่ายๆ อย่างในวันฟิตติ้งที่จะต้องมีการนั่งถ่ายภาพ เราก็นึกว่าพระองค์ท่านจะทรงนั่งยังไง ทรงนั่งแบบไหนเพราะมีการถือดาบด้วย ทีมงานบอกให้ผมยกขาข้างหนึ่งขึ้นมา แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากนั่งท่านี้ อยากนั่งเอาขาวางไว้ 2 ข้าง แล้วเอาดาบวางไว้บนตัก ผมรู้สึกว่าอยากนั่งแบบนั้นแต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ซึ่งพอผมถ่ายภาพฟิตติ้งเสร็จ มาดูทีหลังว่าทุกพระรูปของพระองค์ท่าน ก็จะนั่งท่านั้น คือเอาดาบวางไว้บนตักทั้ง 2 ขา”
เล็งไว้หนวดจริงจัง
“ใช่ครับ ผมตั้งใจจะไว้หนวดจริง เพราะถ้าเป็นหนวดเอฟเฟ็กต์ เวลาเราเข้าฉากแอ็กชั่นต่างๆ มันหลุดได้ ผมเลยบอกทีมงานว่ากะวันถ่ายให้ดีๆ เดี๋ยวผมจะไว้หนวดมาให้ได้ อย่างปีที่แล้วที่ถ่ายทำไปกะวันถ่ายไว้ไม่ดี เลยต้องติดหนวดเอฟเฟ็กต์สลับกันบ้าง หลังจากนี้ผมก็จะไว้หนวดประมาณนี้ อาจจะมีโกนบ้าง แต่ผมจะกะเอาไว้ว่าก่อนถึงวันถ่ายจะไว้หนวดมาให้”
บอกเวลามีน้อย แต่ยินดีกลับมารับใช้ช่อง 3 บ้านที่ให้กำเนิด เผยสัญญาก็แค่กระดาษเท่านั้น
“จริงๆ บทที่ผมรับนี้เป็นนักแสดงรับเชิญ มาเล่นในยุคสมัยขอพระเจ้าตากสิน อีกอย่างหนึ่งคือครบรอบ 25 ปี ทีวีซีน อะไรก็แล้วแต่ที่เราสามารถทำตอบแทนทีวีซีนกับช่อง 3 ได้ เรายินดีทำ ผมไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย ต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว เราก็พร้อมทำงานรับใช้ช่อง 3 ที่เป็นเหมือนบ้านที่ให้กำเนิดเรา เพราะฉะนั้นเรื่องสัญญาหรืออะไรก็แล้วแต่ เราไม่ได้คิดถึงตรงนั้น”
“ต้องบอกว่าตอนนี้เวลาของผมน้อยมาก เพราะว่าผมทำธุรกิจเกี่ยวกับไอทีค่อนข้างหลายอย่างมาก ถ้าผมรับเรื่องนี้ มันก็ยากแล้วในการจะรับเรื่องอื่น เพราะมีเรื่องหนวดด้วย ซึ่งมีอีกเรื่องหนึ่งติดต่อมาเป็นของอีกที่ แต่ผมบอกว่ารับได้นะ แต่ผมต้องถ่ายเรื่องนี้เสร็จก่อน จริงๆ ผมมองว่าสัญญาไม่ได้มีผลเลย มันอยู่ที่ใจเรามากกว่า สัญญาเป็นเรื่องของกระดาษ ถ้าใจเราโอเค ผมว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาครับ”
“เรื่องต่อไปกับช่อง 3 ผมยังไม่มีนะ ส่วนการรับงานกับช่องอื่น คือผมบอกตั้งแต่แรกว่าพอผมหมดสัญญาเราก็เป็นนักแสดงอิสระ เรารู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่ได้มีเวลามากพอในการเล่นละครปีละ 2 - 3 เรื่อง เพราะฉะนั้นในการที่เราจะมีสัญญากับที่ใดที่หนึ่ง เราอาจจะรับผิดชอบงานได้ไม่เต็มที่ ผมก็ต้องแบ่งเวลาทำงานธุรกิจกับงานเบื้องหน้าด้วย เพราะอย่างเรื่องนี้ผมเต็มที่ในการทำอะไรต่างๆ ทั้งคิวแอ็กชั่น เพราะฟิวส์ (ผกก.) ก็เป็นเพื่อนผม เราเลยมองว่า ณ ตอนนี้ ถ้าเราจะทำอะไร อยากให้เป็นเรื่องๆ มากกว่า”
