“อุ้ม ลักขณา” กลับมารับงานเซ็กซี่ มั่นใจไม่มีหลุดเพราะเซฟมาดี ออกตัวใส่บิกินีโชว์ในไอจีไม่โป๊ ย้ำไม่ได้เปิดทั้งเต้า บอกรัก “บอล กฤษณะ” มากขึ้นกว่าเดิม หลังคดีความกระทืบลูกนายพลจบจะแต่งงาน ด้านแม่ฝ่ายชายรับขวัญซื้อบ้านไว้ให้ที่เชียงใหม่ อยากให้อยู่เป็นครอบครัว
ไม่เห็นออกงานอีเวนต์โชว์เซ็กซี่เร่าร้อนนานแล้ว ล่าสุด “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” โชว์แซบสะเด็ดสะเด่าควบชอปเปอร์ในชุดนุ่งสั้น สายเดี่ยวรัดหน้าอกหน้าใจ งานนี้ทำเอาเวทีสะเทือน เรียกเสียงฮือฮากระจาย ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจว่าไม่ได้กลับมาทวงบัลลังก์เซ็กซี่เพราะอายุเยอะแล้ว รู้ลิมิต
“ก็นานๆ ทีค่ะ เรื่องทวงบัลลังก์เซ็กซี่ ยังได้อยู่มั้ยก็ไม่รู้ เพราะเหมือนอายุก็มากขึ้นแล้ว ก็รับงานตามลิมิตเราพอดีที่ตรงนี้ แต่ก็ไม่ค่อยได้รับงานอีเวนต์เซ็กซี่เท่าไหร่ พอดีงานนี้ติดต่อมาแล้วมันก็ตรงกับตอนนี้ที่เราหันมาออกกำลังกาย ดูแลตัวเองก็เลยรับได้”
“ลีลาบนเวทีก็เพิ่งซ้อมตอนก่อนมา ตอนมาถึงเอง เราเข้าใจว่าจังหวะมันเป็นแบบนี้ก็เลยได้เลยเต็มที่ อินเนอร์เยอะๆ เขาบอกขออินเนอร์แบบสาวเซ็กซี่ๆ ฮือฮาเหรอ แต่อุ้มว่าชุดมันไม่ได้โป๊ค่ะ มันเป็นแนวเซ็กซี่มากกว่า เราไม่เปิดหน้าอกหรือเห็นแก้มก้น มันเซ็กซี่ด้วยท่าทางมากกว่าค่ะ ที่คนคิดว่าเราจะทิ้งทางนี้เพราะไปสายบุญ คนเรามันต้องมีสองด้านนะ ต้องแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องการทำบุญมันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้วค่ะ ทำไมล่ะ สาวเซ็กซี่ทำบุญไม่ได้เหรอ มันไม่ผิดนะ ใครๆ ก็ทำบุญได้ ไม่จำเป็นว่าผู้หญิงเรียบร้อยจะต้องทำบุญอย่างเดียวค่ะ”
ยันใส่ชุดบิกินีในไอจีไม่ได้โป๊ เพราะไม่ได้เปิดเต้าโชว์
“ใส่ชุดว่ายน้ำก็ไปกับที่บ้านค่ะ แม่อุ้มก็ใส่ เซ็กซี่ตามแม่ค่ะ ก็ไม่มีคนตินะคะ เพราะมันเป็นเรื่องปกติของคนเรา ก็ต้องมีหลายแง่มุม อย่าตัดสินคนแค่ภายนอก เพียงแค่ว่าลุคเซ็กซี่แล้วจะเข้าวัดทำบุญไม่ได้ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตใจมากกว่า เวลาปกติที่อุ้มไม่ทำงาน อุ้มก็ไม่ได้แต่งตัวโป๊ ถ้าไปว่ายน้ำไปทะเลเราก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำอยู่แล้ว แล้วชุดว่ายน้ำเราก็ไม่ได้เปิดเต้าออกมาทั้งเต้า เราก็มีลิมิตของเราค่ะ อยากให้แบ่งแยกค่ะ แต่ตอนนี้คนก็แบ่งแยกกันได้แล้วนะ”
“แฟนก็ไม่ว่าค่ะ เขาก็ไปด้วย เขาก็เห็น เขาก็ไม่ห้ามนะคะ เขารู้ว่าอุ้มมีวิจารณญาณในการตัดสินใจในการรับงาน ลิมิตขนาดไหน ก่อนจะทำงานต้องให้ผู้จัดการคุยลิมิตก่อน พ่อแม่ก็ต้องทราบว่ามันเป็นประมาณไหน เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ได้ดูอนาจาร โป๊ หรือออกมาทำท่ายั่วยวนมากเกินไป”
“อย่างวันนี้เราก็เซฟนะ เพราะเสื้อมันเผยอนิดหนึ่ง ก็เอากาวติด แต่ไม่รู้ว่ามันจะหลุดมั้ยเหงื่อออก ภาพหลุดไม่น่ามีนะ เพราะกางเกงก็เซฟดี เสื้อก็อาจจะเห็นกาวบ้างนิดหน่อยไม่เป็นไร อย่างในไอจี ส่วนใหญ่จะมีบอกว่าหุ่นลีนขึ้น กล้ามเนื้อชัดขึ้นค่ะ พวกโรคจิตก็ไม่มีเข้านะ เพราะคนบอกว่าไม่กล้ายุ่ง (หัวเราะ) เขาจะแซวๆ มากกว่าว่าแฟนดุ แต่จริงๆ ไม่ได้ดุนะคะ”
ยิ่งรัก “บอล กฤษณะ” มากขึ้น เห็นใจกันในวันที่ลำบาก
“แฮปปี้เหมือนเดิมค่ะ มีความสุขกันดีเหมือนเดิม ใช้ชีวิตกันปกติ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน คอยดูแลกัน แต่เราก็มีบทเรียนนะคะ พอเราเปิดตัวมากๆ ก็กลายเป็นว่า คือสื่อก็มีทั้งสองด้าน มีคนรักก็มีคนเกลียด เหมือนตอนนี้อุ้มก็แค่ออกมาพูดว่าอุ้มยังคบกันอยู่ ยังดูแลซึ่งกันและกันอยู่ เพียงแต่ว่าไม่ลงภาพคู่กัน เพียงแต่ว่าเราไม่อยากให้คนมองว่าพี่บอลยังมีเรื่องอยู่ แล้วทำไมใช้ชีวิตมีความสุข ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราก็เครียดด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ชีวิตมันก็ต้องดำเนินต่อไป เรารักกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น ก็ได้เห็นว่าเวลาที่ลำบากใครบ้างที่อยู่ข้างเราจริงๆ ค่ะ”
พับแพลนแต่งงาน ความรักไม่ได้น้อยลง รอคดีกระทืบลูกนายพลจบค่อยวิวาห์
“ก็รอให้เรื่องคดีความจบก่อนค่ะ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการศาลค่ะ (แสดงว่าเรื่องแต่งงานไม่ได้ภายในปีนี้?) ก็ต้องรอให้เรื่องศาลจบก่อนค่ะ จะเป็นในปีไหน อุ้มไม่ทราบเลยว่าศาลจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ก็รอให้เรื่องดำเนินไปตามกระบวนการของกฎหมาย ยังไงก็ต้องรอดูค่ะว่าจะเป็นยังไง ต่อให้แพลนแต่งงานพับไปแต่มันไม่ได้ทำให้เรารักกันน้อยลงนะ เราต้องแบ่งแยกเรื่องแต่งงานกับเรื่องความรัก การแต่งงานมันคือเรื่องของอนาคต แต่ถามว่า ณ วันนี้เรายังรักกันดีอยู่ค่ะ”
“เรื่องแต่งงานก็อย่างที่บอกว่าอุ้มต้องรอเรื่องคดีความก่อน เพราะฉะนั้นเอาเป็นว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม เรื่องแต่งงานก็ต้องรอให้คดีความจบ เราเคยแลกแหวนกันไปแล้วค่ะ คุณย่า คุณแม่พี่บอล ทางบ้านทางครอบครัวอุ้มก็รู้ว่าเราคบกัน ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่”
“คือ อุ้มไม่ได้คาดหวังว่าปีนี้ ปีหน้า อย่างที่บอกว่าเราดูว่าทุกๆ วันนี้เรายังดีอยู่ เรายังมีความสุข เรียนรู้ซึ่งกันและกัน รอให้ทุกอย่างมันคลี่คลาย มันน่าจะแฮปปี้มากกว่า พี่บอลเขาก็ตามสไตล์เขา เขาพูดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกคนนี้เขาก็ยังพูดอยู่ แต่คือการแต่งมันไม่ใช่แค่เราเรื่องของคนสองคน มันเป็นเรื่องของครอบครัวอุ้มและพี่บอลด้วย เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าไม่อยากให้มุ่งประเด็นไปว่าไม่แต่งงานคือไม่รักกัน หรือยังไม่แต่งงานคือเลิกกันแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ เดี๋ยวคดีจบแล้วค่อยว่ากัน”
รับแม่บอลซื้อบ้านไว้ที่เชียงใหม่ อยากให้อยู่เป็นครอบครัว
“เรื่องบ้าน เป็นคุณแม่พี่บอลซื้อค่ะ ที่เชียงใหม่ ซื้อไว้ตั้งนานแล้ว เหมือนพอเรื่องราวมันเกิดขึ้น มันทำให้เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น แล้วคุณแม่พี่บอลก็เห็นว่าอยากให้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ให้น้องการ์ตูนมาอยู่ด้วย”
“เราไม่รู้ว่าเป็นเรือนหอหรือเปล่า เพราะไม่ใช่ชื่ออุ้ม เป็นชื่อของคุณแม่พี่บอลค่ะ คุณแม่ก็ยังไม่ได้พูดว่าเป็นเรือนหอ คุณแม่พูดว่าอยากให้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว เพราะคุณแม่จะได้มาหาได้ น้องการ์ตูนจะได้มาอยู่ด้วยได้ ให้รู้สึกว่าอบอุ่นเป็นครอบครัว อยู่คอนโดมันไม่เหมือนอยู่บ้าน ก็ไปๆ มาๆ เพราะอุ้มมีงานทั้งเชียงใหม่ทั้งกรุงเทพฯ ด้วยค่ะ”