“อ๊อฟ ปองศักดิ์” เผยแม่เข้มแข็งและใจสู้ หลังตรวจพบเชื้อมะเร็งร้ายระยะที่ 4 ลุกลาม ย้ายจากปอดซ้ายไปปอดขวา ทำคีโมรอบ 2 บอกถึงจะส่งผลข้างเคียงแต่ร่างกายตอบสนองคีโมดี ถึงจะเครียดแต่ยังโชคดีที่มีเงินรักษา เล็งให้หมอแนะวิธีฉีดกระตุ้นเม็ดเลือดขาว
หลังจากที่เคยออกมาบอกว่า “คุณแม่อรุณี รัตนพงษ์” เข้ารักษาอาการป่วยที่ รพ. หลังตรวจพบเนื้องอกภายในปอด ซึ่งผลตรวจปรากฏว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ทำการรักษาด้วยคีโมจนอาการดีขึ้น ล่าสุด “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” ได้อัปเดตอาการคุณแม่อีกครั้ง รับเชื้อมะเร็งร้ายลุกลาม ย้ายจากปอดซ้ายไปปอดขวา ถึงแม้ตนจะเครียด แต่คุณแม่สุขภาพจิตดี และใจสู้มากๆ
“ก็หลังจากที่ให้คีโมไปแล้วรอบแรกผ่านไปเรียบร้อย ก็เช็กอัปอยู่ตลอดเวลา ล่าสุด ที่ไปเช็กมาต้นเดือนที่ผ่านมา คุณหมอบอกว่ามันกลับมา และย้ายฝั่งไปอีกฝั่งของปอด ในส่วนของตับอ่อนก็ยังคงสภาพอยู่เหมือนเดิม คุณหมอเลยแนะนำให้ทำคีโมรอบสองดีกว่า เราก็ตัดสินใจว่างั้นทำคีโมรอบสองดีกว่า แต่ว่าก็ต้องเปลี่ยนตัวยา ซึ่งยาตัวใหม่ก็จะทำให้มีอาการแพ้ขึ้นมา ก็อาจจะมีผมร่วงบ้าง หรืออาจจะมีมึนหัว หรือลุกไม่ขึ้นบ้าง แต่ก็บอกให้คุณแม่เตรียมใจไว้เรียบร้อย”
“ซึ่งคุณแม่เขาก็ตกใจนะ ตอนแรกหมอแนะนำให้ผ่าตัดใหญ่เลย เพื่อเอาชิ้นเนื้อมาตรวจจริงๆ แต่เราก็ถามหมอว่าถ้าตรวจก็ต้องให้คีโมเหมือนเดิมมั้ย หมอก็บอกว่าใช่ เราก็เลยบอกว่าโอเค งั้นจะใช่หรือไม่ใช่ ตัวยาที่จะทำคีโมเข้าไป มันก็ฆ่าเชื้อมะเร็งอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็ไม่อยากให้คุณแม่เจ็บก็เลยคิดว่าอย่างน้อยที่สุด ถ้าเกิดว่ายาคีโม เราให้ไปรักษาฝั่งปอดที่เชื้อมันงอกมาใหม่ แล้วมันจะสามารถคุมตัวที่ตับอ่อนได้ก็โอเค อ๊อฟคิดว่าไม่ต้องผ่าให้มันเจ็บตัวดีกว่า ตอนแรกเป็นที่ปอดข้างซ้าย ตอนนี้มาเป็นข้างขวา แล้วที่ตับอ่อนเป็นมาได้สักพักแล้ว ตั้งแต่พร้อมกันแล้ว”
เผยแม่สุขภาพจิตดี ใจสู้ ถึงจะเครียดแต่ยังโชคดีที่มีเงินมารักษาแม่
“สุขภาพแม่ดีมาก สุขภาพจิตก็ดีครับ โรคมะเร็งมันเป็นแค่ส่วนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องท้อ แต่แม่อ๊อฟโชคดีมาก ใจสู้ แล้วเราก็ดูแลท่านเต็มที่มาก เราก็พยายามบอกว่ามันไม่มีอะไร จริงๆ คุณหมอบอกว่าถ้าหมอไหนบอกว่าทำคีโมแล้วเชื้อมะเร็งจะหาย บอกตรงๆ ว่าไม่มีจริง มะเร็งเป็นเซลล์ในร่างกาย มันอยู่ที่ว่าร่างกายของเราจะสร้างเซลล์ส่วนนี้ออกมาเมื่อไหร่เท่านั่นเอง”
“เราก็เครียดนิดหน่อยครับ แต่ถ้าเราเครียดแล้วเราจะเอาแรงที่ไหนไปดูแลเขา ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก รู้สึกว่าเราสามารถที่จะหางานหาเงินมารักษาเขาได้ เรายังโชคดีกว่าอีกหลายๆ ครอบครัวที่เขาต้องเครียดกับเรื่องพวกนี้”
“เราไม่ได้เบาใจ เพราะว่าเวลาเรารู้ว่าคนที่เรารักเป็นอะไรก็ตาม เราก็จะรู้สึกนอยด์อยู่แล้วครับ และอีกอย่างสุขภาพจิตเราต้องไม่ดีแน่ๆ ทั้งเราและตัวผู้ป่วยด้วย ไม่ว่าจะครอบครัวไหนก็ตาม แต่แม่อ๊อฟสู้ครับก็เลยทำให้พวกอ๊อฟไม่วิตกกังวลเท่าไหร่”
ตอบสนองคีโมดี ยอมรับเกิดผลข้างเคียงมีอาการแพ้ ผื่นขึ้นทั้งตัว
“เพิ่งไปทำมารอบที่ 2 ครับ ก็ตอบสนองดีนะ แต่ว่าอย่างที่บอกครับมันก็มีอาการแพ้บ้าง ผื่นขึ้นทั้งตัวเลยครับ เป็นเอฟเฟ็กต์ของคีโมที่ให้ไป คือบางคนถึงขั้นผมร่วง นอนไม่หลับ ร้อนๆ หนาวๆ แต่คุณแม่อ๊อฟก็มีบ้างในบางเข็มที่ให้”
“ให้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่คุณหมอยังไม่ได้สรุปเลยครับว่าต้องให้กี่ครั้ง คุณหมอต้องให้ไปเรื่อยๆ และต้องดูว่าเม็ดเลือดขาวมันลดต่ำลงไปมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าคุณหมอก็แนะนำวิธีการที่ฉีดกระตุ้นเพิ่มเม็ดเลือดขาวให้มันฟื้นฟูขึ้นมาอีก เพราะเวลาเราให้คีโมไปเม็ดเลือดขาวมันจะต่ำ พอครั้งหน้าถ้าเม็ดเลือดขาวมันตกเกินขีดจำกัดของการที่คนจะรับได้ หมอก็จะไม่ให้คีโม ซึ่งเราก็ห่วงตรงจุดนี้ เพราะว่ามะเร็งพอเราให้คีโมไปแล้ว แล้วต้องหยุดกลางคันโดยที่มันยังไม่ถึงโดสของมัน มันก็จะส่งผลไม่ดี”
เล็งให้หมอแนะวิธีฉีดกระตุ้นเม็ดเลือดขาวเองที่บ้านก่อน 3 วันก่อนทำคีโม
“ตอนนี้อยู่ในภาวะปกติแล้วเดี๋ยวกลับมาคราวหน้าต้องไป รพ. กับแม่ เพื่อที่จะไปให้คุณหมอสอนฉีดกระตุ้นเม็ดเลือดขาวเองที่บ้านก่อน 3 วัน เพื่อที่ก่อนจะไปทำคีโม ซึ่งถ้าไม่ใช่เราก็ต้องเป็นพี่สาวที่ต้องคอยทำให้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระที่หนักนะ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระยะที่ 4 ครับ แต่คุณหมอบอกว่าเรื่องของระยะเนี่ย เราอย่าไปวัด จริงๆ แล้วมันวัดจากจำนวนจุดที่มันกระจายหรือจำนวนขนาดที่มันโตขึ้นมากกว่า”
“เรื่องของเวลามันไม่ยากสำหรับอ๊อฟ เพราะแม่อยู่กับอ๊อฟ ก็เลยทำให้เวลาเรากลับมาบ้านเราก็เจอเขา ก่อนไปทำงานเราก็เจอเขา นอกจากจะไปงานต่างจังหวัดก็จะมีพี่สาวคอยดูแลแทน แต่คุณแม่ยังดูแลตัวเองได้นะ เขายังใช้ชีวิตประจำวันได้ ก็อย่างที่เห็นในไอจีเรา คุณแม่ก็ทำขนม เราก็ช่วยขาย เขาชอบอะไรเราก็อยากสนับสนุนเขา ให้เขารู้สึกว่าชีวิตเขายังดำเนินต่อไป ยังทำอะไรได้อยู่”