“นิว” กลับลำเข้าช่อง 3 เพราะมีคนขอให้มา! เผยมีบ้านอุ่นใจกว่า

“นิว ชัยพล” เผยสาเหตุเปลี่ยนใจเซ็นสัญญาเข้าช่อง 3 เพราะอยากร่วมงานกับ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน” รับตอนแรกอยากอิสระ แต่มีผู้ใหญ่ขอให้มา บอกมีบ้านก็อุ่นใจกว่า ยันไร้ปัญหาเอ็กแซ็กท์


“นิว” กลับลำเข้าช่อง 3 เพราะมีคนขอให้มา! เผยมีบ้านอุ่นใจกว่า

เปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการ ในงานคอนเสิร์ตช่อง 3 เป็นสัญญาบอกว่า “นิว ชัยพล พูพาร์ต” เป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 อย่างเต็มตัว ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าไม่ผิดหวัง ตัดสินใจเซ็นช่อง 3 เพราะอยากร่วมงานกับ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง”

“วันนั้นก็สนุกดี ตื่นเต้นครับ ผมเต้นไม่เป็น ร้องเพลงก็ไม่เป็น แล้วมาขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่เลย ท่าเต้นก็เยอะมาก เวลาซ้อมก็น้อย เลยต้องซ้อมหนัก มีเวลา 9 วันต้องขึ้นคอนเสิร์ตแล้ว”

“เซ็นสัญญาปลายปีที่แล้ว พอออกมาก็อิสระอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่นาน ที่มาเซ็นกับช่อง 3 เพราะว่ามีพี่ๆ หลายๆ คนที่เราอยากร่วมงานด้วยเขาอยู่ที่ช่อง 3 ทั้งนักแสดง ทั้งผู้กำกับ โดยเฉพาะพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ที่ชวนมา มาถึงเขาก็ชวนเล่นรากนครา พอเล่นได้สักพักทางช่องก็เรียกเข้าไปเซ็น”

ไร้ปัญหาเอ็กแซ็กท์ ไม่รู้ห้ามเซ็นสัญญาเข้าสังกัดอื่น 2 ปี
“ไม่ได้มีปัญหากับเอ็กแซ็กท์ เราก็รอสัญญาหมดอยู่หลายเดือนเลยถึงจะมาเซ็นกับช่อง 3 ตอนนี้ก็มีอยู่ 2 เรื่องกับทางช่อง3 ไม่เคยได้ยินนะว่าในสัญญาห้ามเซ็นที่อื่นไป 2 ปี ผมไม่ได้บอกเขาว่าจะมาเซ็นกับช่อง 3 ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเซ็น คิดว่าจะเป็นอิสระไปก่อนแล้วดูว่าเป็นยังไงแล้วค่อยตัดสินใจ แต่พอมีเข้ามา ด้วยข้อเสนอต่างๆ ก็เลยเซ็น ก็เซ็นไว้ 3 ปี ผมอยากร่วมงานกับพี่อ๊อฟ จริงๆ ก็เคยร่วมงานกันเรื่องแผลเก่า ก็สนิทกันครับ เขาก็ชวนมาเล่นรากนคราเพราะเห็นว่าผมหมดสัญญาแล้ว”

ยันไม่หวังต้องเป็นพระเอก ตอนแรกไม่ได้อยากจะเซ็นแต่ผู้ใหญ่ขอให้เซ็น บอกมีบ้านมันก็อุ่นใจกว่า
“ไม่นะ ผมอยากทำงานที่สนุกกับตัวเราเอง ท้าทายตัวเรา ได้ร่วมงานกับคนที่เราอยากร่วมงาน ขอแค่เราไปทำงานแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอแล้ว ขอให้เป็นบทที่น่าสนใจแล้วเราอยากจะเล่น ผมก็เล่นได้ทีละเรื่อง ถ้ามีเข้ามาเยอะๆ ก็อยากจะขอเลือกเรื่องที่เราอ่านแล้วอยากจะเล่นมากที่สุด”

“จริงๆ ถ้าอิสระก็เล่นกับช่อง 3 ได้ครับ แต่เขาก็ขอให้เราเซ็น ผมมองว่า 3 ปีไม่ได้นานเกินไป การที่เรามีบ้านมันก็อุ่นใจกว่า ค่ายเดี๋ยวนี้เยอะ บทดีๆ เขาก็ต้องให้เด็กในค่ายก่อน ผมอยากทำงานในบทที่ท้าทาย เราทำแล้วสนุก ผมมองเนื้องานมากกว่า”

“พอได้ร่วมงานกับพี่อ๊อฟผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นยังไง ที่รู้จักกันมา ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่เจ๋ง เป็นคนที่เต็มที่กับงาน เอาจริงเอาจังกับการทำงาน เก็บรายละเอียดทุกอย่าง พอมาร่วมงานกันมันก็เป็นอย่างที่เราคิด ผมชอบที่ผมเป็นนักแสดงแล้วผมสามารถออกความคิดเห็นกับผู้กำกับได้ ต่างคนต่างทำการบ้านมา พอเจอหน้ากันก็พูดคุยในเรื่องคาแรคเตอร์ ให้มันตรงกันทำให้เราสร้างตัวละครนั้นออกมาสมบูรณ์ที่สุด ผมไม่ได้ยึดติดว่าอยู่ที่ไหนแล้วมันจะต่างกัน มันขึ้นอยู่กับเนื้องานและบทที่เราเล่นมากกว่า ผมทำการบ้านอยู่แล้วกับทุกเรื่อง เราเต็มที่กับทุกเรื่อง”