“นน ชานนท์” เผยเคยฝันว่ารายได้หนัง “ฉลาดเกมส์โกง” จะต้องทะลุ 2 พันล้าน เพราะเป็นความแปลกใหม่ เปิดใจท่องบท 30 รอบ ให้ออกมาดี และเป็นธรรมชาติที่สุด บอกตนไม่มีพรสวรรค์เรื่องความจำ เลยต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น ปลื้มขึ้นแท่นพระเอก 200 ล้าน
เปิดหมดเปลือก “นน ฉลาดเกมส์โกง” เขาบอกผมไม่มีพรสวรรค์เรื่องความจำ ความสำเร็จที่ได้มาเกิดจากพรแสวง!!
ถือเป็นหนังที่มีความแปลกใหม่จนถูกใจนักวิจารณ์และคนไทย ตอนนี้รายได้ภาพยนตร์ “ฉลาดเกมส์โกง” ทะลุ 100 ล้านไปแล้ว ภายในเวลาไม่นาน ซึ่งล่าสุดจีดีเอชก็เพิ่งจัดงาน “ฉลาดเกิน 100 ผู้ใหญ่ชม “ดี” ...วัยรุ่นชี้ “เดือด” ฉลอง 100 ล้านไปหมาด ณ บจ.หับ โห้ หิ้น ซ.สุขุมวิท 31 งานนี้ “นน ชานน สันตินธรกุล” เผยว่า แอบฝันว่าหนังเรื่องนี้จะต้องมีรายได้ทะลุ 2 พันล้าน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าจะคว่ำรายได้หนัง พี่มากพระโขนงกันเลยทีเดียว
“จริงๆ ก็ชอบพูดเล่นๆ ว่า 2 พันล้านๆ จริงตอนนั้นก็ไม่นึกว่ามันจะประสบความสำเร็จ แล้วได้กระแสตอบรับไปในทางบวกมากขนาดนี้ เพราะด้วยความที่หนังมันค่อนข้างจะฉีกจากหนังไทยเดิมๆ เราก็ไม่นึกว่าคนไทย ณ ปัจจุบันเขาจะเปิดกับการดูหนังมากขนาดนี้ เราก็รู้สึกดีใจ ก่อนหน้านี้ส่วนตัวมีความแอบกลัวอยู่หน่อยๆ ว่าพอฉายไปแล้วคนจะคิดยังไง จะสนุกไปกับมันหรือเปล่า เขาจะเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อหรือเปล่า”
“ส่วนตัวอ่านบทแล้วสนุกมาก แต่การประสบความสำเร็จมันต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เพราะด้วยสังคมไทย หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นคำว่าประสบความสำเร็จ ผมไม่ค่อยได้คิดถึงคำนี้เท่าไหร่ แต่พอเราหยิบบทขึ้นมาตอนเราไปแคสติ้งครั้งแรก เราอ่านบทปุ๊บคือผมเรียนหนังด้วย ดูหนังเยอะด้วย พออ่านบทแล้วชอบเลย”
ยันไม่ฮาร์ดคอร์เท่าเคาท์ดาวน์
“ส่วนตัวเลยนะครับ ผมรู้สึกว่าหลังจากอ่านบทมันไม่ได้ฮาร์ดคอร์เท่าเรื่องเคาท์ดาวน์ ผมรู้สึกว่ามันดูง่ายกว่า เพราะเคาท์ดาวน์มันเป็นความมันคนละแบบ อันนั้นมีการฆ่ากันจริงๆ มันสนุกคนละแบบ ซึ่งตัวผมก็ชอบนะ แต่โดยภาพรวมแล้วรู้สึกว่าฉลาดเกมส์โกงดูง่ายกว่า มันไม่มีเลือดสาด มันเป็นแค่เด็กนักเรียนโกงข้อสอบ และการโกงข้อสอบมันก็เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนเคยผ่านมันมาแล้วไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม”
“เราไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงเลือกเรา แค่เขาเลือกผมก็ดีใจแล้ว ผมไปแคสบทนี้แค่บทเดียว ก็ดีครับถ้าพี่บาสมองว่าผมฉลาด ก็โอเค (ยิ้ม) เราไปแคสบทเดียวตอนแรกก็ถามนะว่าทำไมให้ผมแคสแค่บทเดียว คือมันมีอยู่แค่ 4 บท บทผู้ชาย 2 บทผู้หญิง 2 ซึ่งบทผู้หญิงเราก็ไม่เล่นอยู่แล้ว แล้วมีอีกบทเป็นพัฒน์ เราก็บอกพี่ให้ผมลองมั้ย พี่เขาบอกไม่เป็นไรๆ แค่บทเดียวพอ”
โอดเหม็นไป 3 วัน คลุกขยะจริง ยันถ่ายสถานที่จริงครึ่งวัน เสียดายถูกตัดออกแค่ 3 วิ
“ตอนแรกก็รู้สึกว่าทำไมได้แคสแค่บทเดียว เพราะเจมส์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) มันก็แคส 2 บท เขาก็บอกมาประมาณว่า บทแบงก์เนี่ยน่าจะเหมาะสุดแล้ว แต่ตอนพออ่านบทพัฒน์หน้าเจมส์ก็ลอยมาเลยนะ พอได้เล่นจริงๆ ก็ยากที่สุด ฉากที่ประทับใจที่สุด คือ ฉากที่ต้องไปทะเลาะกับพัฒน์ แต่ฉากที่ยากที่สุดคือฉากบทสะพานลอย เพราะวันนั้นเป็นอะไรไม่รู้ ปกติเราจะรู้ว่าในสถานการณ์ของแบงก์จะทำอะไรยังไง แต่วันนั้นมันงงไปหมดเลย แต่สุดท้ายครูกับพี่บาสเขาก็ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งได้ ส่วนซีนที่ยากกว่านั้นก็มีซีนกองขยะ คนชอบนึกว่าเป็น CG มันไม่ใช่ผมไปจริง วันนั้นกลัวเป็นบาดทะยักมากเลย วันนั้นล้มแล้วมีแผลถลอกด้วยแต่นิดเดียว แต่มันอันตรายมาก ต้องเซฟมาก สติต้องมีตลอดเวลา ใช้เวลาถ่ายครึ่งวันครับ แต่ตัดออกมามีแค่ 10 วิ (ทำเสียงร้องไห้) แต่เราก็เข้าใจภาพรวมหนังว่าต้องให้ออกมาดีที่สุด”
“มันเป็นฉากที่เซตขึ้นมาไม่ได้ครับ เขาคงอยากให้ความรู้สึกว่ามันไม่สามารถกลับไปทำสิ่งที่ต้องการได้จริงๆ มันไกลมาก มันเป็นเหตุผลเชื่อมต่อกับเรื่อง คือเขาบอกมาแล้วอ่านบทก็เห็นแล้วว่ามันมีกองขยะ แต่ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ แล้วก่อนหน้าวันถ่ายคือฝนตก กลับบ้านมาก็อาบน้ำแต่กลิ่นมันติดจมูกไป 3 วัน”
หนังเป็นความแปลกใหม่ ทำให้ตนเป็นคนดัง ใครๆ ก็อยากรู้จักไปด้วย
“ผมรู้สึกนะเพราะว่ามันเป็นหนังที่ดีและกระแสตอบรับก็ดีด้วย มันแปลกใหม่สำหรับประเทศไทย คือ ผมอาจจะใช้คำพูดที่หรูนะ แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเกียรติมากจริงๆ ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ และเป็นหนังที่คนกำลังพูดถึงมาก ตั้งแต่ทำงานมา ถ้าชอบมากที่สุด ณ ตอนนี้ก็คือเรื่องฉลาดเกมส์โกง เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันแปลกใหม่”
“ผมไม่รู้เลยนะว่าคุณจะเดาตอนจบได้หรือไม่ได้ผมไม่รู้จริงๆ แต่ว่าหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มทำมันมีผลตอนจบแบบเดียวนะไม่ได้มีแบบอื่นเผื่อไว้ซึ่งพี่บาส ผู้กำกับบอกว่าตอนแรกกะจะจบอีกแบบหนึ่งที่หลายๆ คนในโซเชียลว่าทำไมไม่จบแบบนี้ แต่พี่บาสบอกกับผมว่าเขามีศรัทธาในตัวมนุษย์เขาเชื่อว่าคนเราสามารถกลับมาเป็นคนดีได้เสมอมันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแค่ในละครหรือว่าหนังในชีวิตจริงมันก็สามารถเกิดขึ้นได้”
“ใน social ที่ผมเห็นและในทางหนังที่ผมคิดว่ามันดีด้วยนะคือการจบแบบปลายเปิดมากคือจบที่บ้านแบงก์แล้วให้ไปคิดต่อเองว่าลินจะเลือกอะไร ให้คนดูไปคิดต่อเอง เพราะอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ แต่พอเราได้มาฟังมุมมองของพี่บาสเราก็รู้สึกว่า มันก็จริงนะ เหมือนในละครบางทีเวลาตัวละครพูดกัน จะพูดคำว่าฉันกับเธอซึ่งเราก็คิดได้ว่าคนเรามันไม่จำเป็นต้องพูดคำหยาบเสมอไปหรือพูดคำว่ากูมึงตลอดบางคนอาจจะไม่พูดกูมึงเลยก็ได้ เพราะในชีวิตจริงมันก็มีคนแบบนี้ผมเลยมองว่า บางอย่างมันไม่ต้องเรียลเสมอไปมากขนาดนั้น แต่สิ่งที่เรานำเสนอมันอาจจะไปตรงกับชีวิตใครบางคนก็ได้”
มั่นใจไม่ชี้โพรงให้กระรอก
“ผมมั่นใจตั้งแต่แรกที่อ่านบทว่ามันไม่มีทางชี้โพรงให้กระรอกแน่นอน เพราะเราอยู่ในยุคที่คนยอมรับในเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่การชี้โพรง และ และโซเชียลต่างๆ ก็เป็นพวกมีอารมณ์ขัน ซึ่งมีบางข้อความบอกว่าเราจะไปดูฉลาดเกมส์โกงเพื่อจะหาวิธีลอกข้อสอบ แต่อาจารย์ของเราก็บอกเหมือนกันว่า อาจารย์ก็จะไปดูเหมือนกัน เพื่อจะมาจับผิดเด็กนักเรียน มันก็เป็นเรื่องที่ตลกดี ผมรู้สึกว่าคนเราในยุคปัจจุบันนี้ มันเปิดกับเรื่องแบบนี้มากคนเรามันไม่ต้องมาปิดหรือคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกแล้ว ตั้งแต่แรกผมก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลยนะเพราะผมค่อนข้างมั่นใจถ้าไปดูในหนังมันเป็นการแบไต๋ด้วยซ้ำว่ามันมีวิธีโกงแบบนี้อยู่”
“มีบางอันที่เกิดขึ้นจริงแต่เรื่องโค้ดเปียโนผมไม่ค่อยแน่ใจนะ เรื่องยางลบจริงแน่นอน เพราะใครๆ ก็น่าจะเคยเห็นและอาจจะมีคนที่เคยทำแต่เรื่องโค้ดเปียโนมันต้องอาศัยทักษะอะไรหลายอย่างต้องฉลาดจำและทุกคนก็ต้องมานั่งเรียนโค้ดเปียโน”
เผยท่องบท 30 รอบ บอกไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องการจำ แต่ต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น
“ในชีวิตจริงผมเป็นคนความจำแย่มาก แต่เวลาที่ท่องบท ผมรู้สึกว่าจะต้องท่องมากกว่าคนอื่น ผมไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องของการจำเลย ในบทที่เห็นว่าผมจำได้ ซึ่งผมต้องไปประมาณ 30 รอบ กว่าผมจะจำได้ ซึ่งแค่จำค่าพายผมก็ล่อไป 2 - 3 อาทิตย์แล้วนะ เพราะผมรู้สึกว่ามันต้องจำให้ได้ไปในสมองเพื่อที่เวลาที่เราจะพูดออกมา แล้วมัน เป็นไปแบบอัตโนมัติ ตอนนี้ผมไปยังจำได้อยู่ มันจำได้จนผมไม่มีความเครียดใดๆ ในการจะพูดออกมา มันท่องจนกลายเป็นธรรมชาติไปเลย คือเป็นการฝึกท่องบทของผมด้วยนะ แต่ก็ต้องดูก่อนว่าคุณมีเวลาให้ผมท่องบทนานแค่ไหน อย่างเรื่องนี้มีเวลาให้ผมไปทำการบ้านเป็นเดือน ผมรู้สึกว่า เวลาเป็นเดือนๆ ที่เรามี เราต้องทำให้สมกับเวลาที่เขาให้เรามา แต่ไม่ใช่ให้เวลาผม 1 อาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ ผมก็ไม่สามารถทำการบ้านได้เยอะนะ ก็ต้องเป็นไปตามงานๆ ไป”
ไม่เขินถูกเรียกเป็นพระเอก 200 ล้าน
“ไม่เขินเลยนะ ผมภูมิใจ สบาย เอาให้ถึงเลยดีกว่าผมอยากให้มันถึงมาก ถ้ารายได้ถึงนะ เดี๋ยวผมจะโพสต์ลงโซเชียลเลยผมจะโพสต์ลงไอจีประกาศเองเลยผมขึ้นเองเลยไม่ต้องรอให้คนอื่นขึ้น (หัวเราะ) ไม่มีเรื่องแก้บน ผมเป็นคริสต์ด้วยแหละ ผมเลยไม่ได้ไปบนอะไรอะไร แต่คงพาครอบครัวไปเลี้ยงข้าว เพราะผมชอบพาครอบครัวไปกินอาหารแบบหรูๆ หน่อย เพราะผมชอบกินอาหารดีๆ บนวิวดีๆ และการกินอาหารเป็นความสุขของผมอย่างหนึ่ง มันอร่อย”