“พีค ภัทรศยา” เปิดใจแค่อยากให้ออกมาสวย เลยขนชุดแซ่บๆ ตัวเองมาใส่เข้าฉากละครโซ่เสน่หา ย้ำชุดโชว์แก้มก้นคงไม่ทำให้ “พอร์ช ศรัณย์” ใจสั่น มั่นใจแฟนพระเอกดังแยกแยะได้ จบ “เต๋อ ฉันทวิชช์” 2 ปี ไม่ใช่เหตุผลทำให้ธุรกิจไปไม่รอด บอกแค่เป็นทางออกสุดท้ายที่เลือกด้วยกัน
มาร่วมงานรอบกาลาภาพยนตร์ “ฉลาดเกมส์โกง” ที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ นางเอกสาว “พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ" เลยขอเปิดใจกรณีภาพเซ็กซี่นุ่งน้อยห่มนิดในละครเรื่องโซ่เสน่หา ทางช่อง 7 สี ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่างานนี้ขนชุดตัวเองเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มาใส่ เพราะอยากให้ออกมาสวยที่สุด มั่นใจ “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ไม่ใจสั่น
“(หัวเราะ) คือ ตัวคาแรกเตอร์เขาจะเป็นคนมั่นใจมาก แต่งตัวสไตล์นั้น เป็นคนแข็งนอกแต่ข้างในเขานุ่มมาก อ่อนแอเอาชุดตัวเองมาใช้ประมาณแค่ 90 เปอร์เซ็นต์ค่ะ พีคขอเต็มที่จัดเต็ม คือ โชคดีที่เรามีเสื้อผ้าสวยๆ แต่ชีวิตจริงเราไม่ได้ใส่แบบนั้นนะคะ เห็นมันเข้ากับคาแรคเตอร์เลยเอามาใช้ เราช่วยๆ กัน พีคมีโอกาสได้คุยกับทีมงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้งแต่วันฟิตติ้งว่าคาแรกเตอร์นี้เสื้อผ้าประมาณไหน พอเราเห็นเสื้อผ้า เลยบอกเดี๋ยวช่วยกัน พีคเอาของพีคมาผสมดู คือเราคุยกันทุกซีน ช่วยกันเลือก”
“ตอนแรกที่เราไม่อยากเซ็กซี่แล้ว แต่คืออันนี้คาแรกเตอร์มันเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาชุดก็ไม่ค่อยได้ใส่ นอกจากออกงาน ชีวิตจริงเราสบายมาก”
ยันชุดว่ายน้ำเห็นแก้มก้นเป็นชุดที่เหมาะสม ถูกจังหวะ ถูกเวลา ด้านพระเอกไม่ใจสั่น
“พีครู้สึกว่าชุดแบบนี้มันเหมือนถูกที่ ถูกสถานการณ์ ถูกจังหวะ คือ เราอยู่ทะเลด้วย พีคว่ามันก็สมเหตุสมผล เราไม่ได้ใส่ไปที่ไหน พระเอกไม่ใจสั่นหรอกค่ะ เพราะเจอไม่นานมากค่ะ ก่อนเล่นเราใส่เสื้อตลอด พอเข้าฉากเล่นคือใช้เวลาสั้นมาก เพราะถ่ายส่วนใหญ่ไม่กี่เทก ก็ลงน้ำทีเดียวเลย พอร์ชเขาก็ไม่คุยเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องผู้หญิงๆ”
เชื่อแฟน “พอร์ช” แยกแยะได้ แค่อยากทำให้เต็มที่
“เอาจริงๆ อันนี้เขาคงแยกแยะได้ เพราะเป็นเรื่องของงานอยู่แล้ว ซึ่งพีคไม่ได้คิดตรงนั้น เราทำหน้าที่ของเรา แสดงเป็นตัวละครนี้ เราก็เล่นเต็มที่เท่านั้นเอง ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะพอสมควร อย่างทำไมชุดมันพอดีจังเลย (หัวเราะ) หรือบางทีคนในกองละครเดียวกันเขาบอกทำไมชุดเราดูพอดีและน่ารักทุกชุดเลย ด้วยความที่เราเป็นคนตัวเล็ก สมมติใส่อะไรที่ใหญ่มากมันก็จะดูผอม คือพีคว่ามันต้องใส่ที่พอดีหุ่นจริงๆ ถึงจะใส่ออกมาแล้วสวยค่ะ”
รับปิดกิจการร้านขนมเพราะไม่มีเวลา ยันคิดสูตรเอง จะกลับมาทำอีกคงไม่ยาก แต่จะกลับมาหุ้นกับ “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” หรือไม่ คงต้องให้เป็นเรื่องอนาคต
“ด้วยจังหวะพอดีที่หมดสัญญาแล้วพีคก็ไม่ได้มีเวลาคิดสูตรอะไรใหม่ๆ อย่างที่ผ่านมาพีคจะเป็นคนคิดสูตรแล้วจัางเชฟมาเทรน แล้วพีคก็เป็นคนควบคุมคุณภาพของ พอไม่มีเวลาแล้วจังหวะมันได้ เลยรู้สึกว่างั้นพักไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่เรามีเวลาทุ่มเทตรงนั้นใหม่ก็ค่อยทำใหม่ก็ได้ เพราะที่ผ่านมาเราก็ทำมาเต็มที่แล้วเหมือนกัน เรามีความสุขมากที่เราได้ทำและมันก็ประสบความสำเร็จ แต่ว่าก็ขอพักก่อนไว้มีโอกาสค่อยทำใหม่ ถามว่าเสียดายมั้ย เราเป็นคนทำ คนคิดสูตรมันก็เป็นแบรนด์ของเรา ถ้าเราได้กลับมาทำอีก คนก็น่าจะทราบว่ามันคือสูตรของเรา”
“จะทำกับพี่เต๋ออีกมั้ย ไว้ตอนนั้นค่อยว่ากัน อนาคตยังไม่ทราบ ไม่แน่ใจเหมือนกัน เราก็จริงจังถึงขั้นสร้างครัวใหม่กันเลยค่ะ (หัวเราะ) มีเป็นโรงงานเลยค่ะ อย่างที่บอกเราไม่มีเวลา พอพีคอยู่กองละครแล้วร้านมีปัญหา มันก็เครียด เหมือนเราต้องโฟกัสสองอย่าง มันก็ปวดหัว ตอนนี้ขอพีคแสดงให้เต็มที่ก่อนพีคจะได้ไม่ต้องห่วงร้าน ตอนแรกคิดว่าทำไปด้วยกันได้แต่สุดท้ายลองแล้วไม่เวิร์ก กับพี่เต๋อเราคุยกันตลอดค่ะ เขาก็ทราบว่าพีคเหนื่อย”
มาไกลเกินฝัน ยันไม่ได้เป็นเพราะเลิกกันแล้วทำให้ธุรกิจไปไม่รอด แค่เป็นทางออกสุดท้ายที่เลือกด้วยกัน
“ก็ได้ประมาณหนึ่ง ตั้งแต่ทำตอนแรกพีคไม่ได้คิดถึงว่าเราจะได้กำไรขนาดไหน แค่ได้ทำเราก็โอเคมากแล้ว ซึ่งพีคว่ามันก็มาไกลเกินกว่าที่คิดไว้ด้วยซ้ำ มันเลยจุดความพอใจเราไปมากแล้ว (เลิกกันธุรกิจเลยไปไม่รอด?) มันก็ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วนะคะถึงค่อยพักเรื่องร้าน มันไม่น่าใช่ประเด็น”
“ไม่มีอะไรลำบากใจ มันมีการคุยกันมานานแล้วจนสุดท้ายแล้วมันไม่ไหวจริงๆ นี่เป็นทางออกสุดท้ายที่เราจะเลือกกัน เอาจริงๆ เวลาทำธุรกิจมันมีปัญหามากมาย มันไม่ใช่แค่ว่าพีคมาทำขนมแล้วจบ มันมีเรื่องอื่นด้วย สิ่งที่เราลงทุนก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่ก็มีขายไปบ้างให้กับคนที่เขาอยากเปิดร้านเบเกอรี่”