xs
xsm
sm
md
lg

“โดนัท” งงใจคนขับรถชนพ่อแล้วหนี พึ่งติดต่อมาหลังเป็นข่าว ฉะทำไมไม่หยุดดู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“โดนัท” เผย คนขับรถชนพ่อแล้วหนี พึ่งจะติดต่อกลับมาหลังเป็นข่าว ถ้าไม่เป็นข่าวก็คงไม่ติดต่อมา อยากรู้ทำไมไม่หยุดดู ถ้าเป็นครอบครัวคุณคงไม่ดีแน่ ขอบคุณผู้ที่ติดตามรถคู่กรณี และกลุ่มจักรยานที่ช่วยเหลือพ่อ



หลังจากที่ “โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล" โพสต์คลิปที่คุณพ่อโดนรถยนต์เฉี่ยวชนขณะปั่นจักรยานบนถนน พร้อมกับประกาศหาตัวเจ้าของรถปริศนาดังกล่าว ล่าสุด พอตกเป็นข่าวคู่กรณีก็ได้ติดต่อกลับมาที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวขอให้คดีเป็นไปตามกฎหมาย แต่อยากรู้ทำไมไม่หยุดดู ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับครอบครัวคุณคงไม่ดี

"จริงๆ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 เม.ย. โดนัททำงานอยู่ จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณแม่ก็โทร.เข้ามาบอกว่าคุณพ่อโดนรถเฉี่ยวอยู่ที่โรงพยาบาลธนบุรี แถวๆ ศิริราช เราก็ตามไปดู แต่เราไม่ทราบว่าท่านโดนเฉี่ยวตอนกี่โมง ซึ่งตอนนี้คุณพ่อเขาลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เพิ่งจะรู้ว่ารถชนที่ข้างขวา เพราะโดนัทมานั่งดูคลิปว่าหูกระจกข้างไหนมันหลุดไป และหมวกกันน็อกของคุณพ่อแตก ซึ่งโดนัทคาดว่าก็คงต้องชนแรงเหมือนกัน แต่เบื้องต้นอาการของคุณพ่อมีเย็บที่หัวเข่า และกล้ามเนื้ออักเสบ แต่คุณหมอไม่ได้ห่วงเรื่องสมอง เพราะมีการสแกนแล้วก็ไม่มีอะไร คุณหมอก็เลยให้กลับบ้านได้”

“ส่วนเรื่องดำเนินคดีคุณแม่และน้าก็ไปโรงพักที่ สน.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ก็ไปแจ้งความไว้ตามปกติ ซึ่งจริงๆ เราก็ทราบชื่อรถคันที่ชนตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่เราก็รอให้มันเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และโดนัทก็เข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ มันไม่มีใครหรอกที่ตั้งใจอยู่ๆ ขับรถมาชนคุณพ่อ เพียงแต่ทุกวันเราก็จะคุยกันว่าทำไมเขาชนแล้วถึงไปเลยไม่จอดลงมาดู แต่มันโชคดีที่เป็นวันที่ทุกคนออกไปปั่นจักรยานอยู่แล้ว ซึ่งระหว่างที่คุณพ่อปั่นอยู่แล้วล้มก็มีแก๊งจักรยานมาเจอ และก็โชคดีอีกที่คุณพ่อไม่ได้ล็อกโทรศัพท์ เขาก็เลยเอาโทรศัพท์คุณพ่อโทร.บอกคุณแม่ และก็โชคดีอีก เพราะมีคนเห็นเหตุการณ์และขับตามรถยนต์คันนั้นให้”

คู่กรณีพึ่งติดต่อกลับมาโรงพักหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไป
“รู้สึกว่าเขาจะติดต่อกับทางโรงพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คือ พอมีข่าวออกไปเขาถึงติดต่อมา แต่โดนัทไม่ได้คุยเอง เพราะเรามาบวงสรวงละครที่นี่ แต่เห็นว่าเขาก็โทร.หาคุณแม่ แต่เบื้องต้นก็ต้องให้มันเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราไม่ได้ต้องการอะไร เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมชนคนแล้วไม่หยุดดู แน่นอนอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ แต่มันต้องรับผิดชอบด้วยกัน เราก็ไม่ได้บอกว่าเราถูกและเราก็ไม่อยากสรุปอะไรเอง”

“เราก็คิดนะว่าเค้าติดต่อมาช้าไป เพราะเราก็ไม่ได้โลกสวย แต่ถ้าเราไม่โพสต์เขาก็คงไม่ได้ติดต่อมา ที่สำคัญ โดนัทก็รอด้วยความใจเย็นมาก พอโพสต์ไปพี่สาวยังโทร.มาเลย ว่า เราไม่รู้ว่าเขาใช่คนที่ชนหรือเปล่า อย่าไปโพสต์แบบนั้น เดี๋ยวเขาจะเสียหาย เราก็เลยไม่ได้เขียนอะไรที่ไปว่าเขา ก็อยากให้เห็นใจว่าถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเองก็คงไม่ดี และฝากคุณตำรวจช่วยติดตามเรื่องต่อให้ที คือ โดนัทเข้าใจว่าที่เราแจ้งความแล้วดำเนินเรื่องช้า เพราะติดวันหยุดหลายวัน และโดนัทก็ไม่ได้โทร.หา หรือบอกสื่อมวลชนและผู้ใหญ่เลย เพราะเราไม่ได้อยากใช้ความที่เราเป็นคนที่ทุกคนรู้จักมาตามเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ทุกคนมีกล้องในรถ ซึ่งโดนัทต้องขอบคุณคนที่ช่วยขับรถตามไป และแก๊งจักรยานที่ช่วยดูแลคุณพ่อด้วย จากนั้นเราก็รอจนวันอาทิตย์ถึงโทร.หาคุณตำรวจ ว่า กระจกข้างที่หลุด คือ ข้างไหน เราดูในคลิปและเพิ่งเห็น คือ เราก็กลัวว่าเผื่อทางนั้นเขาจะซ่อมรถและอยากได้กระจกคืนเลยโพสต์บอกว่าอยู่ที่โรงพักแล้ว”

“ตอนนี้โดนัทรอคุยกับที่บ้าน และตำรวจอีกทีว่าจะยังไง แต่ยังไม่มีกำหนดว่าจะเข้าไปคุยและเจอกับคู่กรณีเมื่อไหร่”

วอนผู้ปั่นจักรยานควรปั่นในที่ควรปั่น ส่วนกรณีถ้าเกิดอุบัติเหตุควรหยุดมาดูผู้เจ็บ เพราะหลายๆ กรณีที่น่ารอดกลับไม่รอด เพราะไม่มีคนช่วย
“จริงๆ โดนัทจะกังวลมากที่คุณพ่อปั่นจักรยาน เพราะประเทศเราไม่ได้มีเลนสำหรับคนปั่นจักรยาน และคนที่เขาชอบเขาก็ออกไปปั่นทุกวัน เรื่องที่เกิดขึ้นคุณพ่อก็โดนทุกคนดุเลยแต่คนขี่จักรยานเขาก็จะระวัง และมีไฟที่เห็นเป็นสัญลักษณ์ เขาก็มีสองดวงเผื่อดวงไหนดับ หมวกกันน็อกก็ติดสติกเกอร์เรือนแสงที่ซื้อให้ ซึ่งคนขี่จักรยานมันห้ามไม่ได้ ใจเขาอยากจะไปขี่ เราก็คุยขอร้องว่าให้ขี่ในที่ที่เขาจัดไว้ให้ และเราก็อยากจะฝากคนขับขี่ว่า บางทีถ้าเกิดอุบัติเหตุเราจอดดูเขาก่อน เพราะมันก็มีหลายๆ กรณีที่เขาน่าจะรอดแต่ไม่รอด เพราะไม่มีคนช่วย และโดนัทก็อยากฝากบอกคู่กรณีแค่ว่ามารับหูกระจกคืนด้วยค่ะ (หัวเราะ)”

กำลังโหลดความคิดเห็น