นักเขียนสาวชาวไต้หวันตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทั้งๆ ที่เธอมีอายุแค่ 26 ปี และยังเพิ่งมีผลงานหนังสือเล่มแรก โดยพ่อกับแม่เชื่อว่าลูกสาวคิดสั้นเพราะบาดแผลในจิตใจที่เคยถูกครูสอนพิเศษข่มขืนเมื่อ 9 ปีก่อน
หลินอีว์หาน วัย 26 ปี เป็นนักเขียนเจ้าของนิยายดังที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และเล่าเรื่องอันหดหู่ เกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาวที่ถูกล่อลวง จนมีความสัมพันธ์ทางเพศกับครูสอนพิเศษ แต่กลายเป็นว่าเรื่องราวในหนังสืออาจจะมาจากชีวิตจริงของเธอเอง เมื่อพ่อกับแม่ของ หลินอีว์หาน ได้เปิดเผยเรื่องนี้หลังถูกสาวตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ซึ่งสามีของเธอเป็นผู้พบร่างไร้วิญญาณของภรรยา
โดยพ่อกับแม่ของเธอเชื่อว่าลูกสาวไม่ได้เสียชีวิตเพราะอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตามธรรมดา แต่เป็นเพราะบาดแผลในจิตใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 9 ปีก่อนที่เธอถูกครูสอนพิเศษข่มขืนกระทำชำเรา … “เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาเพราะเชื่อว่ายังมีคนที่เหมือนเธออยู่ในสังคมอยู่อีก” สำนักพิมพ์ที่เพิ่งตีพิมพ์ผลงานของเธอออกมาเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมากล่าวผ่านแถลงการณ์
หญิงสาววัย 26 ปี เป็นลูกสาวของแพทย์ผิวหนังชื่อดังแห่งไต้หวัน นอกจากนั้นเธอยังเป็นคนหัวดี เคยทำคะแนนสอบได้ถึง 75% จนสามารถผ่านเข้าไปเรียนคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังมาแล้ว แต่สุดท้ายเธอกลับต้องพักการเรียนหลังเริ่มเรียนไปได้แค่ 2 สัปดาห์เพราะอาการของโรคซึมเศร้า หลังจากนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเรียนด้านวรรณคดีจีนแทน แต่สุดท้ายอีกแค่ 1 ปี ต่อมาเธอก็ต้องหยุดเรียนอีก ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตมาตลอด และเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว
“ฉันมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตค่ะ เลยทำให้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ จนรู้สึกว่าเป็นปมด้อยของตัวเอง” หลินอีว์หาน กล่าวในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง “ฉันมองว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยทางจิต และมีความฝันอยากเขียนหนังสือ เหมือน เคนซาบุโร โอเอะ (นักเขียนชาวญี่ปุ่น) พยายามพัฒนาตัวเองจากการอ่านหนังสือ เพื่อให้ตัวเองเป็นคนมีวัฒนธรรม และมีความรู้”
ข่าวการเสียชีวิตของ หลินอีว์หาน กลายเป็นข่าวที่ทำให้คนทั้งไต้หวันต้องรู้สึกสะเทือนใจไปกับชะตากรรมของเธอ จิตแพทย์ยังได้ออกมาเตือนประชาชนให้รีบขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทันที หากมีอาการของโรคซึมเศร้า หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ขณะที่สำนักงานอัยการได้ออกมาให้ข่าวแสดงความหวังว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะมาให้ข้อมูล อาจจะเป็นชื่อของผู้ต้องสงสัย หรือสถานที่เกิดเหตุการณ์ก็ได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รื้อฟื้นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนอีกครั้ง
