“แม่พีช พชร” เผยลูกชายเดินเข้ามาบอกเอง กำลังคบ “แพทริเซีย” ตามใจลูก ไม่กีดกัน ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย ยันเป็นสะใภ้ตระกูลจิราธิวัฒน์ไม่ยาก ขอแค่เป็นคนดี รักลูก โนคอมเมนต์เปิดตัวแรงเร็ว บอกอายุยังน้อยอยากให้ค่อยๆ ศึกษากัน พีชรักใครตาจะวิบวับเป็นประกาย ไม่ห้ามมีความรักเพราะคนเราคงอยู่คนเดียวไม่ได้
เป็นคู่รักป้ายแดงที่เปิดตัวแรงเลยทีเดียว เพราะโพสต์หวานสวีตกันวันต่อวัน ล่าสุด “แม่ส้ม ชนัดดา จิราธิวัฒน์” คุณแม่ "พีช พชร จิราธิวัฒน์" ออกมาเผยถึงความรักครั้งใหม่ของลูกชาย บอกรู้ข่าวแล้วแถมลูกชายยังเดินเข้ามาบอกว่ากำลังคบ “แพทริเซีย กู๊ด”
“ทราบพร้อมๆ กับทุกคนเลย ก็ดีนะ เพราะว่าคนมีความรักก็จะดูเด็ก ดูสดชื่นขึ้น เขาก็มาบอกเอง พร้อมกับที่เป็นข่าว เขาก็มาบอกว่าแม่เห็นข่าวหรือยัง แต่แม่ไม่มีคอมเมนต์อะไร ลูกรักใครเราก็รักด้วย ถ้าลูกโอเคเรา แม่ก็ต้องโอเค”
“ก็มีโอกาสเจอแพทริเซียบ้าง เขาก็ไม่ได้แนะนำในฐานะอะไร ซึ่งได้เจอกันตอนที่เป็นข่าวแล้ว เขาก็น่ารัก ถามว่าสนับสนุนมั้ย เราว่าตามลูกเลย ต้องไปถามพีชเอง ละครเขาเราก็ได้ดูเพราะเราได้ดูละครของทางช่อง 3 อยู่แล้ว”
ตามใจลูก ให้อิสระ ยันจะเป็นสะใภ้บ้านจิราธิวัฒน์ไม่ลำบาก
“เราก็ตามใจลูก เพื่อนๆ ลูกทุกๆ คนลูกก็พามาบ้าน มาให้รู้จัก ได้คุยกับเพื่อนลูก รักครั้งนี้ของเขาเราไม่ได้บอกอะไรเพราะครอบครัวเรากับลูกๆ ทั้ง 3 คนก็สนิทกัน เขาคุยกันกับเราเหมือนเป็นพี่เป็นเพื่อน เขาดูเปิดเผยเหรอคะ ต้องขอถามข่าวจากนักข่าวแล้วล่ะ เพราะเราอาจจะเห็นข่าวไม่หมด ต้องกลับไปย้อนดูอินสตาแกรมเขาหน่อยแล้ว”
“ครอบครัวก็มีถามนิดหน่อยตอนที่เขาบอก แต่ไม่ได้เป็นห่วงเขาเลย เพราะว่าลูกมีเพื่อนเราก็ต้องดีใจเนอะ จะได้มีคนช่วยแม่ดูแล (แค่เพื่อนจริงๆ นะ) ต้องไปถามเขา ว่าเป็นเพื่อนแบบไหน (คนแซวว่าการเป็นสะไภ้บ้านนี้ลำบาก?) ลำบากยังไง เราดูเป็นคุณแม่ใจร้าย”
ไม่มีสเปกลูกสะใภ้ ขอแค่เป็นคนดี
“ไม่มีสเปกเลย ขอให้เป็นคนดี รักลูกเราจริง แค่นี้พอแล้ว”
บอกลูกชายมีความรักแล้วตาจะวิบวับเป็นประกาย
“สังเกตจากตาเขา (หัวเราะ) เพราะตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ตาเขาก็จะดูวิบๆ วับๆ ช่วงนี้ก็จะเห็นเขาวิบวับตลอด หน้าตาดูไม่เครียด (หัวเราะ) เพราะบางทีเขาทำงานแล้วเขาก็เครียด กับบทหนัง บทละคร เขาเป็นกำลังใจให้กันมั้ยก็ไม่ทราบ น้องเขาเพิ่งเริ่มคุย เราคงต้องให้เวลาเขาศึกษา ค่อยๆ เป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ”
โนคอมเมนต์เปิดตัวแรงเร็ว ยันคนเราอยู่คนเดียวไม่ได้
“โนคอมเมนต์ ต้องถามทางลูกชาย คุณแม่ก็เป็นแค่ปรึกษาให้กับลูกเท่านั้นเอง เขาปรึกษาแค่ว่า เขาคุยแบบนั้นแบบนี้ ถ้ามีปัญหาหรือเขาอยากให้เราแนะนำ เขาก็มาถาม ทุกครั้งที่เขามีใคร เขาก็จะมาบอก มาเล่า”
“ตอนเจอน้อง ไม่ถึงขนาดเจอครอบครัวน้อง น้องเขาก็ยังอายุน้อย ยังเรียนหนังสืออยู่เลย ค่อยๆ ศึกษากัน ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยๆ คุยกันดีกว่า ไม่ค่อยห่วง คนเราก็ต้องมีเพื่อนถูกไหม เราอยู่คนเดียวไม่ได้”
“ไฟเขียวมั้ยก็ให้ตัดสินใจเอง การที่เขาจะเลือกรับงานแต่ละอย่างเขาก็คิดเอง ตัดสินใจเอง เราให้สิทธิตรงนั้นกับลูกอยู่แล้ว เรื่องคนรักก็เหมือนกัน เพราะว่าเขาต้องอยู่ด้วยกันสองคน เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นกับเขา เราไปเลือกเขาไม่ได้ เดี๋ยวเขามาโทษเรา ไม่มีคลุมถุงชน”
