เส้นทางยอดนักแสดงของ “กัวฟู่เฉิง”

ในตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา วงการบันเทิงฮ่องกงมีดาราชาย 4 คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งสี่มีผลงานทั้งด้านเพลง และงานแสดง จนถูกเรียกว่า 4 เทพแห่งวงการบันเทิงหรือ “จตุรเทพแห่งฮ่องกง”

จตุรเทพแต่ละคนจะมีความโดดเด่นด้านงานแตกต่างกันไป โดย กัวฟู่เฉิง ที่มีพื้นฐานมาจากการเป็นแดนเซอร์ จึงกลายเป็น จตุรเทพที่มีความสามารถด้านการเต้นมากที่สุด สำหรับงานหนังของ กัวฟู่เฉิง เริ่มโดดเด่นตั้งแต่เขาเข้ามารับบทสมทบให้ หลิวเต๋อหัว ในหนัง “ตายกี่ชาติ ก็ขาดเธอไม่ได้” เมื่อ ปี 1993 ภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นโรแมนติกแฟนตาซี หลังจากนั้น กัวฟู่เฉิง ก็โดดเด่นในวงการหนังขึ้นเรื่อยๆ และได้รับบทเป็นพระเอกในหนัง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาคที่ 2 คู่กับ อู๋เชี่ยนเหลียน แทนที่ หลิวเต๋อหัว

ชื่อเสียงของ กัวฟู่เฉิง โด่งดังมาถึงขีดสุด ในปี 1998เมื่อเขาได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในหนังกำลังภายในฟอร์มใหญ่อย่าง ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า ในบทจอมยุทธ ปู้จิ้งหวิน ผู้เงียบขรึม

กระทั่งในปี 2005 ความเป็นนักแสดงตัวจริงของ กัวฟู่เฉิง ถึงจะเริ่มได้รับการยอมรับเป็นครั้งแรก เมื่อหนังอาชญากรรม โคตรคน 3 คม ส่งให้เขาสามารถคว้ารางวัลม้าทองคำได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และในปีต่อมา กัวฟู่เฉิง ก็มีชื่อชิงรางวัลในสถาบันใหญ่ทุกแห่งของจีนอีกครั้งจากหนังชีวิตสุดเข้มข้นอย่าง After the Exile ที่ว่าด้วยพ่อผู้ติดการพนัน กับลูกชายตัวน้อยสุดท้าย After the Exile คว้ารางวัลม้าทองคำได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จนยกระดับฐานะของเขาในวงการหนังจีนขึ้นมาทันที

นับจากวันนั้น งานแสดงของ กัวฟู่เฉิง ก็ติดลมบน และดูน่าสนใจไปทุกเรื่อง ใน The Detective ของ อ็อกไซ แปง กัวฟู่เฉิง เล่นเป็นสืบเอกชนที่คอยคลี่คลายคดีลึกลับในเมืองไทย ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดในหนังก็คือการแสดงของ กัวฟู่เฉิง นั่นเอง ส่วน Cold War ทั้ง 2 ภาคที่ว่าด้วยความขัดแย้งในกรมตำรวจฮ่องกง กัวฟู่เฉิง ก็รับบทเป็นอธิบดีกรมตำรวจได้อย่างน่าเชื่อถือ

ในวัย 51 ปี กัวฟู่เฉิง เพิ่งจะเข้าสู่พิธีวิวาห์มาหมาด และงานแสดงก็ยังรุ่งสุดๆ และเพิ่งเล่นหนังฆาตรกรรมที่สร้างจากเรื่องจริง อย่าง Port of Call จนคว้ารางวัลตุ๊กทองฮ่องกงได้เป็นครั้งแรก จนพูดได้ว่าในหมู่จตุรเทพฮ่องกงด้วยกัน กัวฟู่เฉิง คืออันดับ 1 ด้านการแสดงอย่างแน่นอน