“ชมพู่ อารยา” ตื่นเต้นเตรียมอุ้มท้องลูกแฝดเดินพรมแดงคานส์ ลั่นทำการบ้านชุดล่วงหน้า เน้นชุดโฟกัสพุง อยากมีโมเมนต์พิเศษ สามีไม่ห้ามแต่จะตามไปด้วย ไม่โกหกใช้แพทย์ช่วยจนได้ลูกแฝด แต่บอกที่บ้านก็มีกรรมพันธุ์ ใช้ชีวิตช้าลง ทุกอย่างนิ่งขึ้น
หลังจากที่เก็บตัวเงียบเพราะตั้งครรภ์อ่อนๆ และมีอาการแพ้ท้องหนักมาก ล่าสุด สาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ก็อุ้มท้องลูกชายฝาแฝดออกงานอีเวนต์แรก ประเดิมงานลอรีอัล ปารีส เมคอัพ เปิดตัวสาวชมพู่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นตัวแทนไปเดินพรมแดงเป็นปีที่ 5 ภายใต้แคมเปญ L'Oreal Paris Canniversary ฉลองครบรอบ 20 ปีที่ ลอรีอัล ปารีส เป็นสปอนเซอร์หลักและครบรอบ 70 ปี ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ด้วย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าจะต้องเป็นโมเมนต์พิเศษแน่นอน
“วันนี้ตื่นเต้นมาก เพราะเรายังไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ต้นปี และงานนี้ก็เป็นงานแรก สำหรับการเดินทางไปคานส์ปีนี้ก็ไม่ได้ไปคนเดียวแล้ว ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นความตั้งใจของชมด้วย เพราะทุกๆ ปีที่ชมไปชมก็จะเห็นคนดังหลายๆ คนเขาก็พาลูกไปด้วยกัน หรือไม่ก็อุ้มท้องไป เราก็เลยคิดว่าถ้าหากเราได้ผ่านช่วงเวลานั้นของชีวิตและได้ทำหน้าที่ตรงนี้ไปพร้อมๆ กันสักปีหนึ่งมันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีค่ะ (ยิ้ม)”
“ที่เราตัดสินใจไปก็อย่างที่บอกค่ะ ชมค่อนข้างวางแผนมาพอสมควร เพราะปีที่แล้วชมเองก็เคลียร์งานไว้เยอะ และปีนี้ช่วงที่ผ่านมาเราก็รับแต่งานเบาๆ เพราะเราเล็งไว้แล้วว่าถ้าหากเป็นคานส์อายุครรภ์มันก็จะครบ 5 เดือนพอดี ไม่มีอาการแพ้ เดินทางได้ และยังเป็นช่วงที่คล่องตัวด้วย จริงๆ มันก็พ้น 3 เดือนแล้วนะคะ และเอาตรงๆ ตอนนี้ชมเองก็ยังรู้สึกชิลด้วยซ้ำ เพราะอายุครรภ์มันก็ 4 กว่าแล้วเนอะ แต่หลังจาก 7 ปลายๆ มันก็อาจจะไม่ชิลแล้ว”
สามีไม่ห้ามแต่จะตามไปด้วย มั่นใจงานระดับโลกมีคนช่วยดูแลเยอะ
“ปีนี้คุณสามีไปด้วยค่ะ ส่วนทีมงานที่นั่นเขาก็รู้อยู่แล้วว่าจะรับมือยังไงกับดารานักแสดงที่กำลังตั้งท้องและต้องเดินทางไปร่วมงาน คือมีพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยดูแลเยอะมากค่ะ ดังนั้นก็เลยค่อนข้างวางใจในตรงนี้”
ทำการบ้านชุดเดินพรมแดง อยากให้โฟกัสท้อง
“ปีนี้ก็มีการทำการบ้านไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านสรีระของเรามันไม่เหมือนเดิม ดังนั้นก็อาจจะต้องมีการเดินทางไปล่วงหน้าเพื่อทำการฟิตติ้ง เพราะชุดอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับแก้ แต่สำหรับความรู้สึกชมนะ ชมอยากให้ชุดมันโฟกัสมาที่น้องมากคือตั้งใจมาก แต่เท่าที่คุยกับทีมงานฝรั่งเขากลับบอกว่าชมไม่ได้ดูเหมือนคนท้องเลย ดูเหมือนคนมีพุงมากกว่า แต่ชมก็ยังมีเวลาอีก 2 อาทิตย์นะ อาจจะดูชัดขึ้นก็ได้ (ยิ้ม) ส่วนการเลือกชุดอันไหนที่มันใส่แล้วไม่สบายช่วงท้องเราก็คงต้องข้ามไป ดังนั้นปีนี้ก็ต้องหาตัวเลือกไว้ค่อนข้างเยอะพอสมควรค่ะ”
“พี่น็อต (วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์) เขาไม่ค่อยจุกจิกอะไรนะคะ แต่พอรู้ว่าปีนี้ต้องไปเขาก็ให้ไป เพราะเอาจริงๆ ตอนที่ทางลอรีอัลเขาทราบเรื่องท้องเขาก็ถามความสมัครใจนะคะว่าเราโอเคมั้ย แต่ชมก็บอกว่ามันคือความตั้งใจของชมเอง เพราะชมอยากทำในเวอร์ชั่นนี้ และโมเมนต์นี้มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ก็มีบอกลูกบ้างว่าจะพาเขาไปด้วย”
แพ้หนักเพราะท้องลูกแฝด ไม่อยากโกหกว่าไม่พึ่งแพทย์ แต่ยอมรับครอบครัวสามีและครอบครัวตนมีกรรมพันธุ์
“ใช่ค่ะ คือเดี๋ยวนี้เขารู้เร็ว สักประมาณ 11 - 12 สัปดาห์ก็ตรวจเลือดได้แล้ว เพราะดีเอ็นเอเขาจะหลุดมาในกระแสเลือดเราเลยทำให้ทราบได้ คือชมก็ไม่เคยท้องเดี่ยวนะคะเลยไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง บ่นไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ชมคอนเฟิร์มได้เลยว่าฮอร์โมนส์เฮชซีจีสูงมาก ดังนั้นมันก็จะแพ้”
“ก็อย่างที่บอกชมอยากได้ไทม์ไลน์นี้ มันก็เลยทำให้ต้องมีการปรึกษาคุณหมอบ้าง และอย่างที่เห็นปีที่แล้วชมก็ฟิตร่างกายมาตลอดเพื่อเตรียมความพร้อม ดังนั้น พอช่วงเดือนพฤศจิกายนชมก็ตัดสินใจปล่อยเลย และด้วยความที่เราดูแลตัวเองอย่างดีบวกกับปรึกษาคุณหมอบ่อยๆ น้องก็เลยมา ส่วนกรรมพันธุ์มั้ย จริงๆ ทางบ้านที่น็อตก็มีแฝดนะคะ พี่สาวพี่น็อตก็มีลูกแฝด และปู่ของชมก็มีน้องชายฝาแฝดที่บังเอิญเสียชีวิตไปตอนคลอด ถ้าจะบอกว่าไม่หาหมอเลยก็คือโกหก มีหาหมอบ้างปรึกษาหมอบ้าง มีวิทยาศาสตร์ช่วยบ้าง (ใช้วิธีฉีดน้ำเชื้อ?) อันนี้ขอคุยกันในบ้านดีกว่านะคะว่าเป็นวิธีไหน (หัวเราะ)”
ยอมรับเรื่องมากตั้งแต่ตั้งครรภ์ อยากทานอาหารที่คุณแม่ทำเท่านั้น
“ก็ไม่ได้อะไรพิเศษมากนะคะ เพราะเขาเองก็ดูแลปกติอยู่แล้ว แค่ถ้าหากเขาทราบว่าตอนนั้นชมต้องการอะไรหรืออยากทานอะไรเขาก็จะหาให้เลยก็เท่านั้นเอง ช่วงแรกแพ้หนักมากค่ะ เพราะระดับฮอร์โมนมันสูงมากจริงๆ”
“ผู้ใหญ่ทุกคนก็คงตื่นเต้นกันนะคะ เพราะแม่ชมเองช่วงนี้ท่านก็เดินทางมาหาบ่อย หรือช่วงไหนที่คุณน็อตเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ คุณแม่เขาก็จะแวะมานอนด้วย อย่างช่วงที่ชมแพ้หนักๆ ชมก็จะอยากทานแต่อาหารที่คุณแม่ทำ คือ ตอนแพ้ท้องชมจะเรื่องมากสุดๆ ชมใช้สิทธิ์คนท้องตั้งแต่ประกาศว่าจะปล่อย (หัวเราะ) ตอนนี้อาการเวียนหัวไม่มีแล้วค่ะ เวลาทานอาหารก็อร่อยขึ้น รู้รสชาติมากขึ้น แต่อาการอ่อนเพลียก็มีบ้างเวลาที่เราทำอะไรเร็วๆ”
ฟิตออกกำลังกาย ไม่มีพุง ที่เห็นในท้องคือลูกล้วนๆ
“ที่เห็นก็คือลูกชมไงคะ คือเราไม่มีพุง ดังนั้น ข้างในท้องก็คือลูกล้วนๆ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องออกกำลังกายชมก็ตั้งใจจะออกเรื่อยๆ นะคะ คือดูสภาพไปเรื่อยๆ เพราะคุณหมอเองก็ยังไม่ได้ห้ามอะไร คือออกกำลังกายอย่างปลอดภัย”
“หมอบอกว่าลูกตัวโตนะคะ เพราะอัลตร้าซาวด์ครั้งล่าสุดมันเพิ่งจะ 16 สัปดาห์ แต่ว่าไซส์เขาเท่ากับเด็ก 18 สัปดาห์แล้ว ทั้งสองคนเลย น่าจะตัวใหญ่เหมือนกันค่ะ (เอมมี่ มรกต เอาท้องมาชนบ้างมั้ย?) คนนั้นเขาแล้วแต่อารมณ์ค่ะ ลมเพลมพัด (หัวเราะ)”
ทำทุกอย่างช้าลง ชีวิตนิ่งขึ้น เพราะมีสิ่งสำคัญมากกว่า
“ก็ทำทุกอย่างช้าลงค่ะ คือ ช้าลงแบบไม่น่าเชื่อ (หัวเราะ) ชีวิตตอนนี้นิ่งมาก สะดวกแบบนี้ เรื่องอะไรที่เมื่อก่อนเราเคยยี่หระเราก็ไม่ยี่หระ เพราะเรารู้แล้วว่าเรามีอะไรที่สำคัญมากกว่าในชีวิต อย่างเรื่องรองเท้าที่โพสต์ไปคือก่อนหน้านี้มีคนให้ชมมาแล้วคู่หนึ่ง แต่ว่าเขาให้มาคู่เดียวไง พี่น็อตเขาก็เลยต้องไปหาอีกคู่หนึ่งมา (หัวเราะ)”
“หลังกลับจากเมืองคานส์มีจัดรายการ และก็ถ่ายโฆษณา คือ งานก็ยังทำอยู่ ส่วนละครก็ปิดกล้องวันพุธนี้แล้ว คือถ้าจบละครทุกอย่างมันก็เบาไปหมด (ยิ้ม) ชิลๆ ค่ะ งานอีเวนต์ก็ยังมี”