“ก้อง ห้วยไร่” ร้อยล้านวิว แต่ยังมีเงินติดตัวแค่พันห้าเหมือนเดิม โต้ใช้ของแพงสวนภาพลักษณ์ติดดิน เคลียร์ รปภ. ทวงเครดิตจบแล้ว เตือนอย่าทำอีก ถ้าฟ้องจะติดคุก อย่าทำเพราะมันไม่สนุก และอย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลก โต้ดัดจริตแค่หม้อน้ำแตกเสียขวัญจนแคนเซิลงาน ยอมรับไม่ชอบดรามา แต่จะทำตัวให้ชิน
ดังติดลมบนไปแล้วจริงๆ สำหรับนักร้องลูกทุ่งอีสาน “ก้อง ห้วยไร่” ล่าสุด เจ้าตัวเปิดใจว่าเพลงใหม่ “โอ้ละหนอ” ปล่อยมาได้ไม่นาน ก็ทะยานไปถึง 60 ล้านวิวแล้ว รับเป็นอานิสงส์จากละคร “นาคี” ก่อนเผยไม่ชินกระแสดรามา ทุกอย่างต้องเคลียร์ให้จบ ไม่ปกปิด
“ปีนี้หนักว่าปีที่ออกเพลงไสว่าสิบ่ถิ่มกันครับ ถูกขอเข้ามาเยอะเลย แล้วก็มีเพลงคู่คองที่ถูกขอเยอะ แล้วก็จะมีเพลงโอ้ละหนอเข้ามาเพิ่ม คิวคอนเสิร์ตก็เลยโอเคหน่อย คอนเสิร์ตใหญ่จริงๆ ก็อยากให้มีนะครับ ผมก็คุยกับผู้ใหญ่ในค่ายว่าอยากจะทำคอนเสิร์ต ที่เป็นคอนเสิร์ตที่ให้คนอีสานมาทำเพลง สำเนียงอีสาน ซึ่งพี่น้องชาวใต้ พี่มาลีฮวนน่าเขายังทำได้เลย เราก็มีเพลงอีสานมากมาย มีพี่ๆ ศิลปินมากมายที่เป็นเจนใหม่ๆ เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสทำคอนเสิร์ตจริงๆ ก็อยากจะทำ เป็นเพลงอีสานนี่แหละไม่ต้องอะไรเยอะแยะ มีพิณ แคน โหวต แล้วนั่งฟังกัน ทำข้าวกันกินเอง น่าจะมีนะ เราอยากมี”
ปลื้มปริ่ม เพลงใหม่ “โอ้ละหนอ” ทะยาน 60 ล้านวิว
“ก็ปล่อยมาประมาณเดือนครึ่ง ตอนนี้มีคนเข้าไปชมเพลง จะ 60 ล้านวิวแล้ว ถือว่ายอดวิวขึ้นเร็วกว่าทุกเพลง ด้วยความที่เป็นเพลงเราอาจได้รับความนิยมจากเพลงก่อนๆ แล้วมีกลุ่มแฟนเพลงที่เปิดใจยอมรับฟังเรามากขึ้น ร้อยล้านวิวนะครับ แต่ว่าเงินก็มียังมี 1,500 บาทเหมือนเดิม ก็ดีใจที่เขาเปิดรับเพลงใหม่ๆ ของเรานะครับ ดีใจ”
“ความกดดันไม่มีเลยครับ ด้วยความที่เรามาแบบแปลกๆ อยู่แล้ว แล้วเข้ามาแบบไม่ได้ตั้งใจว่าเราจะต้องเข้ามาเป็นศิลปินขนาดนั้น เราแค่อยากร้องเพลง อยากถ่ายทอด คิดไว้เล่นๆ ณ ตอนนั้น คือคิดว่าแค่มีงานพอที่จะไม่เป็นภาระใคร แต่กลายเป็นมีกระแสตอบรับที่ดี ตอนนี้มันง่ายขึ้นมากกว่านะ มันเหมือนว่าเขาเปิดรับเราแล้ว เหมือนผมเป็นร้านขายส้มตำ ก็ไม่ต้องไปคิดว่า เราไปขายเมนูอื่นดีกว่า เขาจะได้อร่อยๆ ไม่ๆ เราก็ทำส้มตำของเราไปนั้นแหละ”
“กดดันเรื่องผลงานไม่เท่าไหร่ครับ แต่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางตัว การใช้ชีวิตมากกว่าครับ พอเราอยู่ในที่สว่างแล้วมันต้องพบเจออะไรที่มันเยอะแยะมากมาย ซึ่งเราต้องเปิดใจรับมันให้ได้ วางตัวยากขึ้นนะครับ ทุกคำพูด บางครั้งคำพูดเรา เราอาจพูดแบบวัยรุ่น พูดแบบไม่สุภาพ พอมาอยู่ตรงนี้เราก็ต้องลดน้อยถอยลง เพราะว่าเยาวชนรุ่นใหม่มอง หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติ สำหรับเรา แต่ว่าอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายๆ คน ต้องปรับตัวตรงนี้ มันยากตรงนี้ ชีวิตก็เปลี่ยนเยอะครับ แต่ไม่ถึงกับอึดอัดครับ เพราะว่ามันก็เป็นสิ่งที่เราได้ เราได้ความสุขของครอบครัว เราได้ความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ดีขึ้น แล้วก็แลกกับความเป็นส่วนตัวนิดหน่อย”
เคลียร์ รปภ.แอบอ้างแต่งทำนองเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” จบแล้ว อีกฝ่ายแค่งอน ไม่ตอบข้อความในอินบ็อก
“เคลียร์จบแล้วครับ โอ้ย...หลายข่าวจริงๆ ถ้าติดตามนี่หลายข่าวแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้เราก็รู้อยู่แก่ใจนะครับ ว่าเราเป็นคนเขียนเอง สร้างเอง เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น แค่เราต้องตอบคำถาม เราก็ไม่อยากให้คนที่ศรัทธา ที่เขาอยากจะมาเป็นเหมือนเรา เขาจะรู้สึกเสียใจ ผมเลยต้องออกมาพูด แล้วเลยหลายเรื่องมาก และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่ผมออกมาพูดจริงจัง สำหรับเรื่องเพลง เป้าหมายของคนที่ทำก็คือเขาแค่อยากจะคุยกับเรา แต่เขาทักเรามาในเฟซบุ๊ก แต่ว่าถ้าเฟซบุ๊กถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน มันจะไม่ให้เห็นข้อความตอนแรกไงครับ เราก็เลยไม่รู้ แต่ว่าเขาทักมาเรื่อยๆ ว่าพี่ก้องครับ ผมชื่นชอบพี่นะครับ แล้วเราไม่ได้ตอบ ก็เกิดความงอนหรือว่าอะไร เขาเลยทำขึ้นมาขำๆ เฉยๆ”
แขวะดังเพราะสำนักข่าวที่ไร้มาตรฐาน ย้ำไม่ใช่เรื่องตลก อย่าทำอีก
“ก็เป็นสำนักข่าวที่ไม่มีมาตรฐานเลยนะ เอาตรงๆ คือไม่รู้ว่าเป็นสำนักข่าวอะไร แล้วสื่อโซเชี่ยลมันไปเร็วๆ ก็มีการแชร์ๆ พอแชร์กันก็ดังเลย โดนด่าดังเลย”
“มันทำให้เรามองภาพกับสิ่งที่มันเป็นได้กว้างขึ้น เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่องได้นะ เราจะทำยังไงถึงจะอยู่ได้ เพราะฉะนั้น อย่าทำเด็ดขาด วิธีการปกปิกความผิดที่ดีที่สุดคือ ห้ามทำ ห้ามทำเด็ดขาดครับ ถ้าทำก็ไม่มีใครปิดความลับไว้ได้ ก็ทำให้เราคิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำเราจะกลัวอะไร ก็เหมือนหลายๆ เรื่องที่เป็นข่าว เราก็เฉยๆ เราก็นิ่ง ถ้ามันเป็นจริงเดี๋ยวมันจะทำร้ายเราเอง ถ้าเราไม่ได้ทำสักอย่าง เราก็ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ หรือว่าพูดให้ตัวเองชนะ เพราะว่าถ้าชนะเราก็ไม่รู้ว่าใครได้อะไร ไม่มีรางวัลสำหรับผู้ชนะ มันมีแค่ใครเป็นคนแพ้แล้วก็เจ็บปวด เสียใจ แม้กระทั่งเรื่องนี้ถ้าจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ ถ้าจะต้องฟ้อง ติดคุก แล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาล่ะ คุณอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก ก็เลยฝากดีกว่า ถ้าเกิดอยากจะทำร้ายใคร จะปล่อยข่าว ผมว่ามันไม่น่ารักหรอก ไม่ต้องทำหรอก มันไม่สนุก ที่ออกมาจริงจังก็เรื่องนี้ เพราะว่านอกนั้นเราก็ปล่อยผ่าน ปล่อยผ่านไม่ได้ยอมรับนะครับ แต่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจ”
เผยเกิดอุบัติเหตุจนต้องแคนเซิลงานที่ชุมพร ถูกจวกหม้อน้ำแตกดัดจริตเสียขวัญ ยันไม่ได้เป็นแบบนั้น ปลงคนไทยดรามาได้ทุกเรื่อง
“แคนเซิลงานเลยมีดรามาว่า ทำไมพี่ไม่ไปงานทั้งที่เราไม่ได้บาดเจ็บอะไร เป็นเรื่องดรามาหนักเลย เราเดินทางจากกรุงเทพฯ จะไปชุมพรเนอะ แล้วทีนี้เกิดอุบัติเหตุตอนเที่ยง แล้วกว่ารถคันใหม่จะมาเปลี่ยนผม ผมต้องเอารถตู้มาเปลี่ยน เพื่อที่จะไปต่อได้ มันก็เหลือเวลาอยู่ 3 ชั่วโมง แล้วเหลือระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตร ไม่ทันแน่ๆ ซึ่งเจ้าของงานเขารับรู้ เพราะว่าผมโพสต์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุ แล้วเจ้าของงานก็โทร.มาคุย โอเคเข้าใจ ที่งานแฮปปี้ แฟนเพลงเขาก็ไม่ถึงกับแฮปปี้หรอก เพราะว่าเขาตั้งใจจะรอดูเรา มันก็จบไป มันก็ผ่านไป ทุกคนก็เคลียร์กันลงตัวด้วยความที่มันเป็นเรื่องสุดวิสัย”
“แต่ในเรื่องของการสื่อสาร ด้วยความที่ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์เอง การสื่อสารมันคลาดเคลื่อน มันทำให้คนเข้าใจผิด ประมาณว่าเราแค่หม้อน้ำแตกเลยไม่อยากไป เพราะขวัญเสีย จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย แต่คือเราไปไม่ทันแน่ๆ ถ้าไปต้องวิ่งรถ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันตรายมาก หลักฐานก็อยู่ในเฟซบุ๊กที่เราโพสต์ว่าเราเกิดอุบัติเหตุเวลานี้ ตอนนี้ แล้วเราไม่ได้รอประกันนะครับ เรารอรถคันใหม่มาเปลี่ยน คือเราก็มีน้อยใจนิดๆ นะ แต่ว่าเราก็ไม่สามารถไปอธิบายกับคนที่อาจจะไม่โอเคกับเราอยู่แล้ว เขาอาจมองว่านี่แค่หม้อน้ำแตกก็ไม่ไปแล้ว ผมก็คงไม่สามารถไปอธิบายให้กับทุกคนได้รู้ เราเลยปล่อยผ่าน แล้วก็ทำใจว่าแล้วแต่เขาจะคิด เราไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดเขาได้ แต่ว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่าเราทำอะไร บางคนที่เขาเปิดใจจริงๆ เขาจะรับรู้”
ไม่ชอบดรามา แต่จะทำตัวให้ชิน ปัดใช้ของแพงสวนภาพลักษณ์ติดดิน
“ชินครับ ไม่ชอบนะครับ แต่ว่าทำตัวให้ชิน ส่วนประเด็นผมใช้ของแพง แต่ทำตัวติดดิน ประเด็นนี้นะ ผมอยากถ่ายทอดมากๆ เลย ตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงไม่ได้หมายว่าเราต้องใช้ของประหยัดนะครับ ใช้ของดีชิ้นเดียวไปเลย ใช้ให้คุ้มค่า อย่างรถยนต์ที่ผมซื้อก็มีดรามาแต่ว่าผมก็แอบเหน็บขำๆ ทำไมซื้อรถแพง ทำไมไม่ซื้อรถไถให้พ่อแม่ ผมเลยบอกว่า ผมไม่สามารถขับรถไถไปทำงานได้ ไม่ทันงาน ไม่ปลอดภัย”
ไม่ได้อวดรวย แค่ของรางวัลให้ตัวเองไว้คอยอำนวยความสะดวก
“มีส่วนหนึ่งเป็นของรางวัลให้ตัวเองด้วย แล้วก็อำนวยความสะดวกในการทำงาน อย่างเช่นเราทำงานไกลๆ แล้วเกิดเหตุสิ่งอำนวยความสะดวกเขามีเยอะเลย ปลอดภัยกับเรา ไม่ได้ว่าใช้ของแพงเพื่ออยากให้ชีวิตหรูหรา ผมก็ยังเหมือนเดิมเลยนะปกติ”
“ตอนนี้ยังไม่คิดจะซื้ออะไร ตอนนี้พอแล้วครับ อนาคตข้างหน้าไม่รู้นะครับ แต่ว่าตอนนี้พอแล้ว (คือกลัวคนอื่นหาว่าเราอวดรวย?) ไม่มีครับ ไม่มี มีก็แค่บอกดีกว่าปิดไว้ ปิดไว้ไม่ดีหรอกครับ อย่างที่ผมบอกว่าวิธีการปกปิดการทำผิดที่ดีที่สุดคือการไม่ทำ ผมทำก็บอก คนอาจจะมองว่าผมทำไม่ดีนะ ซื้อรถแพง แต่ว่าผมก็ต้องบอก เพราะว่าซื้อแล้ว ถ้าวันหนึ่งมีข่าวว่าผมซุกรถไว้ ก็แย่”