“วู้ดดี้” รับสภาพพิธีกรยอดแย่ ขอโทษหยาบคายใส่ศิลปินเกาหลีจนติ่งเกาหลีไม่พอใจ รู้สึกหัวใจสลายกับสิ่งที่เกิดขึ้น รับความผิดพลาดมาแก้ไขต่อไปจะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น
หลังจากที่ “กาละแมร์ พัชรศรี” ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษแฟนคลับเกาหลี ในการทำหน้าที่พิธีกรงานเปิดตัวห้างสรรพสินค้า “SHOW DC” ย่านพระราม 9 ที่มีการเชิญศิลปินเกาหลีชื่อดังอย่าง “PSY” เจ้าของเพลงฮิต “กังนัมสไตล์”, CNBLUE, APINK และ AOA มาร่วมงาน โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่พิธีกรของกาละแมร์ และ “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” ว่าไม่สุภาพและเหยียดหยามศิลปินเกาหลี
ด้าน วู้ดดี้ มิลินทจินดา ออกมาขอโทษทีหลังแต่จัดหนักจัดเต็มไม่แค่โพสต์ขอโทษ แต่เปิดใจให้สัมภาษณ์ยอมรับความผิดพลาดในการทำงานที่อาจจะเกินเลยไป ส่วนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นพิธีกรยอดแย่ก็น้อมยอมรับ บอกเป็นเหตุการณ์ที่รู้สึกกระทบการทำหนั้าที่พิธีกรมากที่สุดตั้งแต่ทำงานมา
“ก็เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขอเล่าให้ฟังว่าภาพในงานวันนั้นความรู้สึกของเรากับตื่นขึ้นมาอีกวันหนึ่งเหมือนเป็นหนังคนละม้วน เราเห็นคนโพสต์ในไอจีว่าให้ไปดูทวิตเตอร์และดูแฮชแท็ก #พิธีกรยอดแย่ปี2017 เราก็ตกใจ ใจมันสลายเลย พยายามดูว่ามันคืออะไรที่เราพลาด พยายามศึกษา แต่ในใจคือเดี๋ยวก่อนนะ ก็ศิลปินที่เราสัมภาษณ์เขาก็มางาน S2O เราด้วยอะ หรืองานก่อนหน้านี้เราก็ยังไลน์คุยกันอยู่เลย เราไปพลาดกับศิลปินยังไง แต่พอเลื่อนไปดูเรื่อยๆ ก็เห็นว่าคำพูดจาของพวกเราตอนจัดอยู่มันอาจไม่โอเคกับเขา หรือพูดแล้วกระทบจิตใจ ซึ่งยอมรับว่าเราไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดตรงนั้นเพียงพอจนทำให้น้องๆ เขาเสียใจ เราสัมภาษณ์ศิลปินเกาหลีมาตั้งแต่แรกๆ ทุกครั้งเรานึกถึงแฟนคลับตลอดเวลา แต่บางรายละเอียดเราอาจไม่ทราบมาก่อนว่ามันเป็นแบบนั้น
“เราต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้น้องเฮิร์ตหรือเสียใจ อยากให้โอกาสเราอีกครั้งหนึ่งเพราะทุกครั้งที่เราไปทำงานพิธีกรสัมภาษณ์ไปเจอน้องๆ เอฟซี คือ น่ารักทุกคน ก็ถามว่าจะให้สัมภาษณ์ยังไงแบบไหนบ้าง แต่สิ่งที่เราทำไปก่อนหน้านี้อาจจะกระทบใครและพอมาเจอเหตุการณ์นี้มันก็ประดังมาหมดเลยทุกอย่าง ก็เป็นบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับวู้ดดี้ อายุขนาดนี้ ทำงานประสบการณ์ขนาดนี้ก็มีผิดพลาดได้ แต่ดีใจที่ทุกคนให้โอกาสเราอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าใครรู้สึกไม่โอเค ยังไงก็ให้เวลามันเยียวยา เราบอกเลยว่าเราไม่มีเจตนา"
“อย่างตอนที่พูดเรื่องขายกระทะเนี่ยคือมันเป็นช่วงที่ศิลปินยังออกมาไม่ได้ เราก็เลยต้องพูดไปเรื่อยๆ พอแมร์กับผมเจอกันก็มีภาษาพ่อขุน แล้วสองคือมีคนพูดขึ้นมาว่าอยากได้กระทะ เราก็ถามว่าซื้อกระทะรึยัง เป็นมุกเรา ไม่มีเจตนาจะขายกระทะอะไรทั้งสิ้น ตอนแรกที่เราโพสต์ก็ไม่อยากจะชี้แจงเยอะเพราะดูเหมือนกับพูดเยอะ เราก็เลยขอโทษไปตามความรู้สึกของเราจริงๆ ครับ”
พูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “กาละแมร์” พิจารณาว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง
“เช้าวันต่อมาก็คุยกับแมร์ว่าเห็นหรือยัง เราก็คุยกันนิ่งๆ ว่าเราได้บทเรียนอะไรจากเหตุการณ์นี้ ความรู้สึกเราเป็นยังไง เราทำร้ายความรู้สึกใครบ้าง เราต้องรับผิดชอบยังไง แมร์ก็บอกว่าเราขอโทษไปแล้ว ตอนนั้นผมทำงานอยู่เลยยังไม่รู้ว่าแมร์เคลื่อนไหวยังไง แมร์ก็อ้าว โดนด้วยเหรอ ก็ไม่รู้ฟีดแบ็กกันเองเพราะรู้แต่ของผม ผมก็เลยโพสต์เลยครับ”
ด้านฝั่งศิลปินเกาหลีที่มาร่วมงานไม่มีปัญหาอะไร
“ไม่มีปัญหา แต่เราเข้าใจแฟนคลับว่าเขารักของเขา หรือคำพูดที่กระทบความรู้สึกแฟนคลับมันเป็นจิตใจเขาแล้วเราไม่ได้ใส่ใจ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องขอโทษจริงๆ ส่วนศิลปินที่สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เราก็ยังคุยกันอยู่เหมือนเพื่อนสนิทเลยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราไม่มีเจตนาแย่ๆ ครับ”
“อย่างเราจัดงาน S20 ศิลปินเกาหลีก็มาร่วมงานกับเรา แต่เราก็แยกแยะถูกว่าความรู้สึกของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน หน้าที่ของผมคือทำให้ทุกคนแฮปปี้”
รับสภาพตำแหน่งพิธีกรยอดแย่
“ชีวิตมันต้องเจอทุกอย่าง ชีวิตต้องเจอยอดเยี่ยมยอดแย่ แล้วมันต้องเจออีกเยอะ เราก็บอกตัวเองว่าเหตุการณ์นี้สอนอะไรเราบ้าง เรารับมือกับสถานการณ์และต้องยอมรับความจริงก่อน เพราะตื่นมาแล้วคิดในใจว่าเราพลาดตรงไหน แต่ยิ่งพูดกับตัวเองอย่างนั้นมันยิ่งไม่สบายใจ ก็ยอมรับว่าสิ่งที่เราพูดบางอย่างมันก็ไม่โอเคกับเขาเท่านั้นเอง”
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเพราะก่อนหน้านี้ “วู๊ดดี้” ก็เคยเจอกระแสแบบนี้ตอนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของศิลปินเกาหลี?
“นั่นแหละ ศิลปินกลุ่มนั้นอีกวันเรายังไลน์คุยกันอยู่เลย แต่ตรงนี้เราไม่ได้บอกใคร ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เลยรู้สึกว่าอ้าว ความรู้สึกมันไม่โอเคกับบางกลุ่ม สุดท้ายมันก็คือเราต้องดูแลความรู้สึกของทุกคน และเราก็ต้องมาทบทวนหน้าที่ของเราว่าที่เราทำมันโอเคหรือไม่โอเค”
แจงไม่มีเจตนาหยาบคาย แต่อยู่กับ “กาละแมร์” เลยไปตามอารมณ์คะนองปาก
“มันก็แล้วแต่สถานการณ์และเหตุการณ์ เพราะเราไม่มีเจตนาที่ใช้คำหยาบคาย บางทีเราอยู่กับแมร์แล้วคำมันก็ไปเลยด้วยอารมณ์ หลายคนก็ฟีดแบ็กกลับมา เหตุการณ์นี้มันดีมากเลย จริงๆ บางทีคนที่ดูคุณก็ไม่ต้องใช้คำแบบนั้นก็ได้ เขาดูเราเพราะเราถามตรง เราพูดตรงเข้าประเด็น ไม่ได้ดูเราเพราะคำหยาบคาย เป็นความคะนองปากของเรา”
ทุกคำพูดทุกคำเมนต์เจ็บใจที่สุด
“คำพูดนั้นน่ะเราเจ็บใจที่สุดเพราะเราไม่รู้สึกไม่ชอบศิลปิน แต่ในใจคือจะถามหาเหตุผลมันก็ไม่มีคำตอบน่ะครับ เรารู้แก่ใจว่าเราชอบทุกคนที่เราสัมภาษณ์ และเราอยู่กับน้องๆ มานานมาก เพียงแต่ว่าหลังๆ ไม่ค่อยออกงานหรือเจอกัน ก็เลยไม่รู้ว่าวัฒนธรรมของเขา ของคนอื่นเป็นยังไง หน้าที่ของเราคือศึกษามากขึ้น เราต้องทำการบ้านมากขึ้น”
งานนี้ไม่ใช่แค่ “วู้ดดี้-กาละแมร์” โดนถล่มในโซเชียล แต่ติ่งเกาหลียังเฮโลกันไปคอมเมนต์ถล่มในเพจสินค้าแบรนด์หนึ่งที่วู๊ดดี้กับกาละแมร์เป็นพรีเซนเตอร์
“ก็อยากวิงวอนแล้วกันว่าอยากให้แยกแยะหน่อยว่าเข้ามาติ เรายอมรับและยินดีอ่านทุกคอมเม้นต์ ทุกคนอยากให้เราอ่าน วู้ดดี้ก็อยากจะบอกทุกคนตรงนี้ว่าทุกคอมเมนต์ที่คุณส่งเข้ามาอ่านทุกบรรทัด ยิ่งอ่านยิ่งเจ็บ ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า ยิ่งอ่านยิ่งต้องทบทวน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกถึงการที่ต้องยอมรับในการทบทวนบทบาทหน้าที่ของเรามากเท่ากับครั้งนี้ในการทำงานกับศิลปินเกาหลี ศิลปินต่างชาติ แฟนๆ ที่รักกับศิลปินของเขา ดังนั้นสิ่งที่คุณวิจารณ์มา เรารับรู้ เราสัมผัสได้ ดังนั้นขอร้องอย่าเอาตรงนี้ไปเชื่อมโยงหรือไปปะหน้าคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่รู้เรื่องด้วยนะครับ”
“ตอนแรกก็มีลบข้อความพวกนี้ไปบ้าง 2-3 ข้อความ เรางงไง ด้วยความที่เราไม่อยากให้ใช้คำรุนแรง แต่หลังจากนั้นวันต่อมาไม่ต้องลบแล้ว มันมาเต็มเลย เราก็ยอมรับว่าเป็นแบบนี้นี่เองครับ”
ยังคงจะรับงานศิลปินเกาหลีต่อไป
“รับนะ เรารู้สึกว่าไม่ได้สิ เราต้องรับและปรับปรุงตัว เหตุการณ์นี้มันสอนเรา และอีกไม่กี่วันก็ก็มีงานประมาณนี้อีก ซึ่งก็เป็นคนดังเกาหลี เราไม่อยากมองว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว เราต้องเอ็นจอยกับมัน แต่เราต้องมีสติในการรู้ด้วยว่าเราเคยเจอเหตุการณ์อะไรมาแล้ว เราปรับปรุงยังไงครับ”