“หนิง ปณิตา” งงคนอ้างชื่อหลอกลวงคนอื่นยังลอยหน้าอยู่ในสังคม เผยอัดคลิปเสียงเตรียมเชือด! ลากไส้เพราะอยากให้ผู้เสียหายได้เงินคืน และเป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อ ซัดรับใต้โต๊ะไม่คุ้มชื่อเสียงป่นปี้ จวกผิดแล้วสำนึกผิดจะให้อภัย แต่นี่กลับแถ กร้าวไม่อยากให้คนหลอกลวงแบบนี้มีจุดยืนในวงการอีก
โร่ขึ้น สน. แจ้งความ หลังถูกเหลือบริ้นไรในวงการอ้างชื่อหลอกเงินคนที่อยากเป็นดารา แถมยังหักหัวคิวอีก 5 หมื่น ล่าสุด “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” เผยในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร OU (โอยู) ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 9 เผยยุ่งตัดต่อละคร เลยไม่ได้ติดตามความคืบหน้า แต่ยอมรับอีกฝ่ายส่งข้อความมาอธิบายว่าถูกจ้องทำลายชื่อเสียง
“สำหรับตัวหนิงยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร เพราะยุ่งอยู่กับห้องตัด แต่คนที่ทำได้มีการติดต่อหนิงกลับมา ด้วยการส่งข้อความมาบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่หนิงเข้าใจผิด น้องเสือที่ต้องเอาเงินให้เขา 5 หมื่นบาท จริงๆ เขาไม่ได้จะเอาน้องมาเล่นละครค่ายหนิง แต่เป็นค่ายอื่นซึ่งมีละครแล้วแต่ยังบอกไม่ได้ว่าค่ายไหน แต่เขาจะถ่ายทำวันที่ 20 พ.ค. นี้ แต่เขาจะไม่เอาเด็กคนนี้แล้วเพราะเป็นคนไม่ดี จ้องแต่จะทำลายเขา (คนแอบอ้าง)”
“หนิงเลยถามกลับไปว่าละครที่จะถ่ายวันที่ 20 พ.ค. เป็นของค่ายไหนบอกได้มั้ย ซึ่งหนิงคิดว่าเขาควรจะบอกกับเราได้ แต่หนิงมีคลิปเสียงที่คุยกับคนนั้นเก็บเอาไว้ จะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราก็ไม่ถูกซะทีเดียว การที่เราออกมาทำอะไรแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันเป็นความฝันของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่อยากมีงานทำ และหนิงอยากให้น้องได้เงินคืนเพราะเขาต้องไปหยิบยืมคนอื่น 5 หมื่นบาท”
“อีกอย่างคือคนนั้นเป็นคนในวงการลูกทุ่ง ทำแบบนี้เรารู้สึกว่ามันไม่สร้างสรรค์กับวงการเรา เท่าที่หนิงทราบการประกวด หรือออดิชั่นอะไรก็แล้วแต่ไม่มีการกินหัวคิวล่วงหน้า จะมีต่อเมื่อได้เซ็นสัญญาและได้งานแล้ว หนิงอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับหลายคนไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งหนิงเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เมื่อ 7 - 8 ปีที่แล้ว เราแจ้งความเอาเรื่องกับกะเทยคนนั้นใหญ่โต แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกวันนี้กระเทยคนนั้นยังเฉิดฉายอยู่ในวงการ ซึ่งหนิงคิดว่าถ้าเราปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปจะต้องมีอีกกี่คนถูกหลอก เราอยากจะรับผิดชอบกับการที่มีคนเอาชื่อเราไปอ้าง”
ดัดหลังคนแอบอ้าง นั่งอยู่ข้างๆ “น้องเสือ” ผู้เสียหาย แต่อีกฝ่ายยังต่อสายมาหลอกลวง
“ก่อนหน้าที่จะไปแจ้งความเราไม่รู้จักกันเลย แต่เลขา พี่นีโน่ เมทนี โทร.มาบอกว่าบริษัท มาสเตอร์คีย์ฯ โทร.มาถามว่าบริษัทเรามีการแคสติ้งนักแสดงและหักหัวคิวหรือ หนิงก็งงว่าใครเก็บเพราะที่หนิงประกาศรับนักแสดง เรานั่งคัดเลือกด้วยตัวเองไม่ได้ใช้ทีมงาน เลยให้เลขาพี่โน่ โทร.ไปหาน้องเสือ น้องเลยเดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น มาหาหนิงที่ออฟฟิศในวันรุ่งขึ้น เพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้ จากนั้นหนิงก็โทร.ไปหาคุณคนนี้ ว่ามีคนแอบอ้างชื่อหนิงแบบนี้หมายความว่ายังไง เขาก็ตกใจแล้วบอกว่ามีคนแกล้ง”
“ซึ่งพอหนิงวางสายเขาก็ โทร.หาน้องเสือทันที โดยที่ไม่รู้ว่าหนิงกับเสืออยู่ด้วยกัน เขาถามน้องว่ามีใครโทร.ไปที่บริษัทนีโน่หรือเปล่าเพราะหนิง โทร.มาถาม เขาก็ถามน้องเสือว่าทำไมไม่เชื่อใจกันทำแบบนี้มันพังกันหมดนะ หนิงเลยบอกให้เสือวางสายและหนิงก็ โทร.กลับไปหาคนนั้นอีกรอบ บอกเขาว่ารู้แล้วว่าจะหาวิธีจับโจรยังไงคือบริษัทหนิงสามารถดูย้อนหลังได้เวลามีคน โทร.เข้ามา เดี๋ยวหนิงจะไปไล่ย้อนดู เราเลยถามว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร เขาก็วางสายจากหนิงและ โทร.เข้าเครื่องน้องเสือ เพื่อมาถามว่าน้องไม่ได้บอกใครใช่มั้ยว่าชื่ออะไร”
“เสือก็ถามกลับไปว่าตกลงผมจะได้เล่นละครจริงๆ ใช่มั้ย แล้วเงิน 5 หมื่นคืออะไร พ่อแม่ผมบอกว่าไม่มีหรอกแบบนี้ เขาเลยบอกว่าเขาเป็นคนทำโปรเจ็กต์นี้เจ้านายไม่รู้เรื่อง ซึ่งผู้กำกับก็เห็นดีด้วย เดี๋ยวให้มาฟิตติ้งเลย คือทำนองเหมือนรับใต้โต๊ะ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เพราะหนิงเป็นคนแคสติ้งเองหมด”
“ส่วนเรื่องคู่สัญญากับ แคทลียา มารศรี ที่เคยเซ็นไว้กับบริษัทในเรื่อง มนต์รักเพลงผีบอก หลุดออกมา ที่ได้รับเงินในนามของบริษัทที่แอบอ้าง เลยเกิดเป็นคู่สัญญาของบริษัทนี้กับบริษัทหนิง ซึ่งเขาเอาสัญญาตรงนี้ให้เด็กดู เพื่อความน่าเชื่อถือ จนเด็กหลงเชื่อและโอนเงินมาให้”
ยันตัดสินใจเอง เลือกเอง ไม่มีการยัดเงินใต้โต๊ะแน่นอน
“ในส่วนของหนิงไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.วังทองหลาง เพราะเป็นพื้นบริษัทตรงออฟฟิศเรา ส่วนของเสือเป็นการบันทึกประจำวันพร้อมแจ้งความ ที่สน.ประชาชื่น เพราะว่าเป็นเขตที่โอนเงิน ซึ่งตำรวจบอกว่าถ้าจะมีการคืนเงินต้องลงบันทึกประจำวัน และวันนี้ (7 เม.ย.) เขาได้มีการโอนเงินคืนเสือแล้ว จากนั้นก็มีคู่กรณีอีกหลายรายตามมาแจ้งความ เท่าที่ทราบเขาจะบอกกับทุกคนว่าไม่ได้ทำ เป็นเรื่องเข้าใจผิด เด็กคนนี้พยายามจะดิสเครดิตเขา แต่ถ้าใครได้ฟังคลิปสนทนาจะรู้เลยว่าไม่มีอะไรเป็นการดิสเครดิต”
“ถ้าจะบอกว่าเป็นดิสเครดิตบริษัทหนิงว่ามีการรับใต้โต๊ะ เป็นไปไม่ได้เลยเพราะสิทธิ์ในการเลือกอยู่ที่หนิงคนเดียว ถ้าใครที่รู้จักจะรู้ว่าเวลาทำงานหนิงจะลุยทำคนเดียว ลูกน้องมีหน้าที่คือฟังคำสั่ง และลูกน้องหนิงไม่มีเพาเวอร์พอที่จะยัดใครได้ ซึ่งตอนนี้หนิงก็ยังไม่ได้เลือกใครที่แคสมาเลย”
ไม่ซีเรียสข่าวจะส่งผลกระทบถึงชื่อเสียง แต่ซีเรียสไม่อยากให้คนในวงการไปหลอกคนข้างนอกที่มีความฝันจะเข้ามาทำงานบันเทิง กร้าวไม่อยากให้คนหลอกลวงแบบนี้มีจุดยืนในวงการ
“ก็คนที่เอาเงิน 5 หมื่นของน้องไปแหละที่การันตีว่าน้องจะได้เล่นละคร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหนิง ถามว่ามีผลกระทบกับบริษัทเรามั้ย มันก็มีแต่พอเราได้ออกมาพูด ก็เชื่อว่าคนจะเข้าใจ หนิงว่าการรับเงินใต้โต๊ะ มันไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่เราสร้างมา หนิงไม่ซีเรียสว่ามันจะส่งผลถึงชื่อเสียงบริษัทตัวเองหรือเปล่าแต่ซีเรียสที่คนในวงการไปหลอกลวงคนข้างนอกที่เขามีความฝันอยากจะทำงานในวงการบันเทิง เอาจริงๆ หนิงอยากให้คนในวงการบันเทิงทุกคนเด็ดขาดกับคนพวกนี้ ไม่ให้เขามีจุดยืนในวงการ”
“เรื่องดำเนินคดีตอนนี้ยังไม่ได้คิด เพราะหัวหมุนกับการตัดต่อละครใหม่อยู่ เพราะละครเร่งมาก แต่ส่วนตัวหนิงคิดว่าคนเราถ้าทำผิดแล้วยอมรับผิด ก็ควรได้รับโอกาสในการแก้ไข ไม่ใช่ผิดแล้วก็ยังแถไป หาข้ออ้างให้ตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนี้อยู่หนิงก็ต้องดำเนินคดีในส่วนที่เขาทำให้หนิงเสียหาย”
“หลังคุยกันครั้งสุดท้ายไม่ได้คุยกันอีก แต่เขาพูดทำนองว่าไม่ใช่เรื่องของเขา เขาไม่ได้ทำ ไม่เกี่ยวกับบริษัทหนิง เด็กคนนั้นไปเล่นให้บริษัทอื่น แต่เขาตอบไม่ได้ว่าบริษัทไหน ผู้จัดคนไหน ทั้งที่เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังเพราะบอกว่าจะถ่ายทำวันที่ 20 พ.ค.”
ลั่นเจ้าทุกข์เพียบ ที่กำลังจะเตรียมเข้าแจ้งความ
“เคยเจอเขานะคะ เขาเคยเข้าไปในกองละครหนิงรอบหนึ่ง หนิงไม่ซีเรียสว่าเขาจะต้องออกมาชี้แจงว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับบริษัทหนิง ส่วนน้องเสือหลังได้เงินคืนแล้วเขาจะดำเนินการยังไงหนิงก็ยังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้คุย แต่น้องบอกว่าหลังจากที่น้องเป็นข่าว ในเพจก็จะมีคนเขียนมาบอกเยอะว่าโดนเหมือนกัน คนนี้เหมือนกัน และก็มีคนอื่นๆ เข้ามาแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เหมือนกันแต่เราไม่รู้ว่ากี่คนค่ะ”
